“In time of war, the first casualty is truth. – ในยามสงคราม...ความจริงจะถูกประหัตประหารก่อนอื่น”
“Boake Carter”
เปิดฉากสัปดาห์นี้...สงสัยคงต้องไปปวดหัวในเรื่อง “แนวรบยุโรปตะวันออก”กันอีกนั่นแหละทั่น!!! เพราะเมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา ดันเกิดรายการ “ตูมๆ-ตามๆ”ขึ้นมา ณ พื้นที่ 2 แห่งแถวๆ ด้านตะวันออกของประเทศยูเครนเขา คือจังหวัด “Donetsk” และ “Luhansk” หรือ “Lugansk”ที่เคยประกาศตัวเป็น “เอกราช” ในนามประเทศ “Donetsk People’s Republic” (DPR) และ “Lugansk People’s Republic” (LPR) ไม่ยอมคิดจะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขต อาณาบริเวณ ประเทศยูเครนอีกต่อไป ตั้งแต่ช่วง 8 ปีที่แล้ว หรือปี ค.ศ. 2014 โน่นเลย...
คืออย่างที่เคยบอกเอาไว้แล้วคร่าวๆ นั่นแหละว่า...ด้วยเหตุเพราะการแทรกแซงของคุณพ่ออเมริกาและตะวันตก ในการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอดีตประธานาธิบดี “Viktor Yanukovych” ที่ถูกกล่าวหาว่าออกไปทาง “โปรรัสเซีย” หรือที่รู้จักกันในนามการ “ปฏิวัติสี” (Color Revolution) อะไรประมาณนั้น แล้วจัดตั้งรัฐบาล “โปรตะวันตก” ขึ้นมาแทนที่จนก่อให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยก กับบรรดาผู้คนพลเมืองในพื้นที่ 2 จังหวัดด้านภาคตะวันออกที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศรัสเซีย คือ “Donetsk”และ “Lugansk”ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่นับล้านๆ ในดินแดนแห่งนี้ ล้วนแล้วเป็นชาวยูเครนที่มีเชื้อชาติรัสเซียไปด้วยกันทั้งนั้น จนต้องเกิดการสู้รบ การจัดตั้งกองกำลังอาวุธ การประกาศแยกตัว แยกดินแดน ออกจากประเทศยูเครน กว่าจะหาข้อสรุป ข้อยุติระหว่างกองทัพยูเครนกับพวกกบฏแยกดินแดนเหล่านี้ ก็ต้องอาศัยความร่วมไม้-ร่วมมือ จากประเทศรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี รวมทั้งองค์กรกลางๆ อย่าง “OSCE” (The Organization Security and Co-operation in Europe) ที่มีตัวแทนสหประชาชาติอยู่ด้วย ไปจูงมือ-จูงไม้รัฐบาลยูเครนและพวกกบฏ มาทำข้อตกลงกันที่เมืองมินสก์ ประเทศเบลารุส หรือที่รู้จักกันในนาม “The Minsk Agreement”เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2015 นั่นเอง...
แต่ครั้นเมื่อรัฐบาลยูเครนของ “อดีตดาวตลก”อย่างประธานาธิบดี “Volodymyr Zelensky” ท่านคิดจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์กร “นาโต” คิดจะดึงเอาคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกมาช่วยปกป้องตัวเองจากอิทธิพลของรัสเซียจนก่อให้เกิดปัญหา เกิดข่าวล่า-มาเรือ เกิดการโหมประโคมเรื่องกองทัพรัสเซียคิดจะ “บุก-ไม่บุก”ยูเครน ยืดเยื้อ คาราซัง มาถึง ณ ช่วงขณะนี้ แม้ว่ากองทัพรัสเซียนับจำนวนแสนๆ ที่มาออกันอยู่แถวๆ บริเวณพรมแดนรัสเซีย-ยูเครน จะถอนกำลังออกไปมั่งแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจการซ้อมรบภายในประเทศตัวเอง แต่เมื่อดันเกิดรายการ “ตูมๆ-ตามๆ” ขึ้นมาในแถบหมู่บ้าน “Zaitsevo” ในจังหวัด “Donetsk” และที่หมู่บ้าน “Sanzhary” ในจังหวัด “Lugansk”เมื่อช่วงวันศุกร์ (18 ก.พ.) ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากกระสุนปืนใหญ่ 120 มิลลิเมตร ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยนัด โดยฝีมือของกองทัพยูเครน หรือฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน ก็ยากที่จะพิสูจน์กันได้ถนัดๆ ถึงขั้นส่งผลให้พวก “DPR” และ “LPR” ต้องประกาศอพยพผู้คน โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงจำนวนไม่ต่ำกว่า 700,000 คน ออกจากพื้นที่ อพยพหลบหนีลี้ภัยไปยังจังหวัด “Rostov” ในประเทศรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงวันเสาร์ (19 ก.พ.) ที่ผ่านมา เพราะกลัวว่ากองทัพยูเครนจะบุกเข้ายึดพื้นที่ทั้งสองแห่ง หลังจากที่สมาชิกสภารัสเซียจำนวนถึง 315 เสียง ลงมติให้ประกาศการรับรอง “เอกราช”ของประเทศ “Donetsk”และ “Lugansk” ไปเมื่อช่วงวันอังคาร (15 ก.พ.) ที่ผ่านมา หรือมีผู้คัดค้านเพียงแค่ 16 เสียงเท่านั้นเอง...
อันนี้นี่แหละ...ที่มันได้ก่อให้เกิดอาการ “ยุ่ง-ตายห่า” หรือ “ปวดหัว-ตายห่า”ขึ้นมาอีกจนได้!!! คือขณะที่ผู้คนพลเมืองในประเทศยูเครน กำลังหวาดหวั่นขวัญสยอง กลัวว่า “กองทัพรัสเซีย”จะบุก-ไม่บุก อันเนื่องมาจากการโหมประโคมข่าวของคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วโน่นเลย ชนิดเกิดการอพยพ หลบหนีลี้ภัย แบบชนิดเลือดไหลไม่หยุดจนตราบเท่าทุกวันนี้ แต่ผู้คนพลเมืองในพื้นที่จังหวัด “Donetsk” และ “Lugansk”ก็ดันเกิดอาการเดียวกัน แต่คนละสมมติฐานของโรค คือกลัวว่า “กองทัพยูเครน” จะบุกยึดดินแดนทั้งสองแห่ง อันเนื่องมาจากการประกาศเอกราชของตัวเอง แม้ว่าฝ่ายรัสเซียจะประกาศแล้ว ประกาศอีก ย้ำแล้ว ย้ำอีก ว่าไม่คิดจะ “บุกยูเครน” โดยเด็ดขาด รวมทั้งฝ่ายยูเครนเองก็พยายามประกาศแล้ว ประกาศอีก ย้ำแล้ว ย้ำอีก ว่ายังไม่คิดจะ “บุก Donetsk และ Lugansk” แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ก่อให้เกิด “ความเชื่อ” ต่อทั้งสองฝ่าย หรือทำให้สิ่งที่เรียกว่า “ความจริง” เลยต้องถูกประหัตประหารลงไปด้วยกันทั้งคู่...
ความสับสนอลหม่าน ชุลมุนชุลเกของ “แนวรบยุโรปตะวันออก” เลยคงต้องยืดเยื้อ คาราคาซัง ต่อไปอีกตราบนานเท่านาน ไม่ต่างไปจาก “แนวรบทะเลจีนใต้”นั่นแหละทั่น!!! ตราบใดที่คุณพ่ออเมริกาและพันธมิตร ยังพยายามยุแยงตะแคงรั่วให้ดินแดนไต้หวันคิดจะประกาศเอกราชจากจีนแผ่นดินใหญ่ ความตึงเครียดและการเผชิญหน้าของอภิมหาอำนาจอันดับหนึ่งและอภิมหาอำนาจคู่แข่ง ในทั้งสองแนวรบ ย่อมมิอาจผ่อนคลาย ทุเลาเบาบางลงไปได้เลยแม้แต่น้อย มีแต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกนำเอามาใช้เป็น “เครื่องมือ”หรือเป็น “ไพ่”ในแต่ละใบ ในการกดดัน การรุก การถอย หรือการล้อมฝ่ายตรงข้าม ตาม “ยุทธศาสตร์ความมั่นคง” ของแต่ละฝ่าย ที่มีความแตกต่างระหว่างกันและเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง...
นั่นก็คือ...ระหว่างความเชื่อที่ว่า ท่ามกลางภาวะที่โลกทั้งโลกเต็มไปด้วย “ปัญหา”ที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าปัญหาการก่อการร้าย ปัญหาประชากร ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ฯลฯ การบริหาร-จัดการเพื่อให้เกิดสันติภาพขึ้นมาภายในโลกใบนี้ได้จริงๆ หนีไม่พ้นต้องอาศัยความแข็งแกร่ง ก้าวหน้า และทันสมัยของประเทศหนึ่ง ประเทศใด ที่จะช่วยปกป้อง คุ้มครอง หรือชี้วัดตัดสินให้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปเช่นนั้น หรือต้องอาศัยพลังอำนาจสูงสุดที่ไม่มีผู้หนึ่ง ผู้ใด ประเทศหนึ่ง ประเทศใด สามารถผงาดขึ้นมาประชันขันแข่งได้ หรือที่เรียกขานกันในนาม “โลกแบบมหาอำนาจขั้วเดียว” (Unilateralism) นั่นเอง...
กับอีกความเชื่อหนึ่ง...ที่เห็นว่า ยิ่งโลกเต็มไปด้วย “ปัญหา”ที่สลับซับซ้อน ยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ความจำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือ-ร่วมใจ การยอมรับถึงเอกภาพและอำนาจอธิปไตย ความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันในด้านต่างๆ ยิ่งต้องถูกให้ความสำคัญยิ่งขึ้นไปเท่านั้น อะไรก็ตามที่เป็นอุปสรรคขัดขวางต่อความเป็นไปในลักษณะเช่นนี้ ควรที่จะต้องหาทางปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแม้แต่ขจัดกวาดล้างให้หมดสิ้นลงไป หรือต้องพร้อมที่จะยอมรับต่อความเป็นไปของโลกในแบบ “โลกหลายขั้วอำนาจ” (Multilateralism) อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ...
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้การหา “จุดลงตัว” ระหว่างอเมริกากับจีน ในเรื่อง “ยุทธศาสตร์ความมั่นคง”ของทั้งคู่ ตลอดช่วงระยะนับเป็นทศวรรษๆ ที่ผ่านมา จึงแทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้เอาเลยแม้แต่น้อย และทำให้คุณพี่จีนท่านเลยต้องหันไปจับมือเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” กับคุณน้ารัสเซียแบบชนิด “ไม่มีขีดจำกัด”เอาเลยถึงขั้นนั้น ดังนั้น...ถ้าหากฝ่ายใด-ฝ่ายหนึ่งยังไม่สามารถวัดตัดสินว่า “ความเชื่อ”ชนิดไหนถูกต้องหรือเหมาะสมกับโลกในอนาคต ทุกๆ พื้นที่ในทุกๆ ซีกโลกใบนี้นั่นแหละ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่...ต่างหนีไม่พ้นต้องกลายสภาพเป็น “เครื่องมือ” ในการเอาชนะคะคานระหว่างยุทธศาสตร์ความมั่นคงแบบใด-แบบหนึ่ง จนยากเหลือเกินที่จะรู้ว่าอะไรคือ “ความจริง” กันแน่!!!