วิกฤตยูเครน...กับ“หน้าไพ่”ของรัสเซีย

ปิดฉากสัปดาห์นี้...คงน่าจะพอได้ “หลับสนิทนิทรา” แบบสบายๆ สำหรับบรรดาชาวโลกทั้งหลาย เรียกว่า...ไม่ถึงกับต้องไป “หูแหก-ตาแหก” หรือ “ตาค้าง” ชนิดหลับไม่ลง มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปลายปีที่แล้วโน่นเลย อันเนื่องมาจากการโหมประโคมข่าว ของบรรดานักการเมืองอเมริกันและสื่อตะวันตก ที่พยายามสร้างความขนลุก ขนพอง ความหวาดเสียว สยดสยอง ต่อบรรดาทหารรัสเซียที่ยกทัพโยธามาออกันอยู่บริเวณพรมแดนประเทศยูเครนนับเป็นแสนๆ ราย ว่าจะเกิดการบุกโน่น-บุกนี่ ณ เดือนนั้น-เดือนนี้ วันนั้น-วันนี้ หรือแม้แต่เวลาโน้น-เวลานี้ จนก่อให้เกิดความวิตกกังวลไปทั่วทั้งโลก หนักยิ่งกว่าบรรดาตัวละครชาวอเมริกัน ในหนังฮอลลีวูดยุคโบร่ำโบราณ อย่างเรื่อง “Russians are coming” เอาเลยก็ว่าได้...

เพราะเมื่อช่วงวัน-สองวันนี่เอง...กองทัพหมีขาวรัสเซียที่ระดมมาจากภาคใต้ ภาคตะวันตก เพื่อร่วมปฏิบัติการ “ซ้อมรบ” ภายในประเทศตัวเอง หรือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเบลารุส เมื่อถึงกำหนดการ กำหนดเวลาสิ้นสุดยุติของภารกิจดังกล่าว ก็ได้ “ถอนทหาร” กลับไปยังที่ตั้งซะเฉยเลย!!! หรือแบบที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” (Sergey Lavrov) ท่านได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้นั่นแหละว่า ถือเป็นเรื่องพื้นๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปตามกำหนดการโดยปกติของกองทัพรัสเซีย ที่ไม่ได้มีอะไรน่าหวาดหวั่นขวัญสยอง น่าขนลุก ขนพอง เหมือนอย่างที่พวกชอบปล่อยข่าวร้ายๆ ประเภทเฟกนิวส์-ฟักนิวส์ต่อประเทศรัสเซีย พยายามคิดโน่น คิดนี่ กล่าวหาโน่น กล่าวหานี่ มาโดยตลอด...

แถมผู้ที่อยู่ในฐานะแม่ทัพ ขุนพล ขุนศึก...ของกองทัพรัสเซียทั้งกองทัพ อย่างรัฐมนตรีกลาโหม “เซอร์เกย์ ชอยกู” (Sergey Shoigu) ก็ไม่ได้คิดจะมาตุหรัดตุเหร่อยู่แถวๆ พรมแดนรัสเซีย หรือยูเครน ให้ต้องเมื่อยแข้ง เมื่อยขา โดยใช่เหตุ แต่กลับบินไปโน่นน์น์น์ ไปช่วยขนส่งจรวดไฮเปอร์โซนิก “Kinzhal” ให้กับประเทศซีเรีย พร้อมทั้งไปเยี่ยมให้กำลังขวัญ กำลังใจ ต่อบรรดาทหารรัสเซียที่ฐานทัพอากาศ “Khmeimim” และฐานทัพเรือ “Tartus” ในประเทศซีเรีย พร้อมกับพบปะเจ๊าะแจ๊ะเจรจากับผู้นำซีเรีย ประธานาธิบดี “Bashar al-Assad” โดยไม่ได้คิดจะมารับบทใดๆ ในหนังเรื่อง “Russians are coming” ที่ถูกผลิต ถูกสร้าง ถูกจัดฉาก โดยบรรดานักการเมืองอเมริกันตั้งแต่ตัวประธานาธิบดี รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ฯลฯ ภายใต้ความร่วมไม้-ร่วมมือของ “สื่อกระแสหลัก” อย่างสื่อตะวันตกทั้งหลายเอาเลยแม้แต่น้อย...

การโหมประโคมข่าว ปล่อยข่าว สร้างข่าว...ว่ายังไงๆ กองทัพรัสเซียคงต้อง “บุกยูเครน” อยู่แล้วแน่ๆ ถึงกับระบุวัน ว. เวลา น.เอาไว้แบบชัดๆ จะจะ เช่นภายในเดือนกุมภาฯ หรือไม่เกินช่วงพิธีปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเมืองจีน ไปจนถึงขั้นระบุว่าจะบุกกันในช่วงประมาณตี 3 ของวันพุธที่ 16 ก.พ.เอาเลยถึงขั้นนั้น!!! ส่งผลให้ไม่ว่าใครก็ใคร...ต่างขนหัวลุก ขนคอตั้ง อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นปรู๊ดๆ ปร๊าดๆ หุ้นตก ทองคำเท่าหนวดกุ้งขายกันชนิดไม่หวาด-ไม่ไหว ฯลฯ ยิ่งเป็นประเภท “นักลงทุน” ที่คิดจะเข้าไปลงทุนในประเทศยูเครน ต่างเผ่นหนีกันอุตลุด ชุลมุน โดยเฉพาะเมื่อเห็นการอพยพผู้คนออกจากสถานทูตอเมริกัน อังกฤษ อิสราเอล และอีกหลายประเทศที่ตั้งอยู่ในดินแดนยูเครน...

แต่เอาไป-เอามาแล้ว...สิ่งที่บรรดานักการเมืองอเมริกันและพันธมิตรตะวันตก พยายามโหมประโคมข่าวในเรื่องทำนองนี้แบบชนิด “ข้ามปี” เลยถึงขั้นนั้น ก็น่าจะได้ “บทสรุป” ดังที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย คุณป้า “มาเรีย ซาคาโรวา” (Maria Zakharova) ผู้ที่อาจ “เปรี้ยว” ไม่น้อยไปกว่าคุณน้อง “มาเรีย ชาราโปวา” อดีตนักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลก ที่ได้ออกมา “ทวีต” ไว้เมื่อช่วงวันอังคาร (15 ก.พ.) ที่ผ่านมา ประมาณว่า...“วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 คือวันที่คงต้องจดจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ ว่าเป็นวันที่ความพยายามกล่าวหา กล่าวร้าย การโหมโฆษณาทางจิตวิทยาของพวกตะวันตก ถึงการบุกยูเครนของรัสเซีย ได้แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ความน่าอับอาย (หรือหน้าแหก-หน้าแตก แบบชนิดแหกแล้ว แหกอีก) ของบรรดาประเทศตะวันตก ได้ปรากฏให้เห็นเป็นที่ชัดเจน โดยที่ฝ่ายรัสเซียไม่จำเป็นต้องใช้กระสุนเอาเลยแม้แต่นัดเดียว” นี่...เปรี้ยว-ไม่เปรี้ยว แสบ-ไม่แสบ ก็ลองไปทบทวนดูเอาเองก็แล้วกัน!!!

คืออย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...สำหรับฝ่ายหมีขาวรัสเซียแล้ว เขายังมี “หน้าไพ่” ให้เล่นอีกไม่รู้กี่ใบต่อกี่ใบ ไม่ถึงกับจำเป็นต้อง “บุกยูเครน” ด้วยกำลังทางทหารเพียงลูกเดียวเท่านั้น และหนึ่งในหน้าไพ่ที่ถูกเปิดออกมาเมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา หรือเมื่อวันอังคารที่ 15 ก.พ.นี่เอง ก็คือการที่สมาชิกรัฐสภารัสเซีย หรือสมาชิกสภาดูมา (Duma)โดยส่วนใหญ่ จำนวนถึง 315 คน ได้ลงมติสนับสนุนข้อเสนอของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย ที่เสนอให้รัฐบาลรัสเซียประกาศรับรอง “เอกราช” ของดินแดน 2 แห่งในยูเครน คือ “Donetsk” และ “Luhansk” อันมีที่ตั้งอยู่ในแถบภาคตะวันออกของยูเครน หรือในแคว้น “Donbass” อย่างชนิดเป็นเอกฉันท์ มีสมาชิกแค่ 16 รายเท่านั้นเองที่ยังคงคัดค้าน โดยงดออกเสียงซะ 1 เสียง!!!

เพราะอย่างที่เคยทราบๆ กันมาโดยตลอดนั่นแหละว่า...บรรดาผู้คนพลเมืองในดินแดนทั้ง 2 แห่ง ที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านกว่าคนในพื้นที่ประมาณ 8,900 ตารางกิโลเมตรของจังหวัด “Donetsk” และอีก 1 ล้านกว่าคนในพื้นที่ประมาณ 8,000 ตารางกิโลเมตร ของจังหวัด “Luhansk” นั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวยูเครนที่มีสัญชาติรัสเซียไปด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อต้องเจอกับการ “ปฏิวัติสี” โดยการแทรกแซงของประเทศตะวันตกต่อยูเครน และเจอกับรัฐบาลยูเครนที่หันไป “โปรตะวันตก” กันแทนที่ มันก็เลยเกิดการกระทบกระทั่ง ขัดแย้งและแตกแยกถึงขั้นต้องรบราฆ่าฟัน ระหว่างกองทัพยูเครนกับกองกำลังกบฏที่ต้องการ “แยกดินแดน” ออกไปเป็นประเทศ “Donetsk People’s Republic” (DPR) และ “Luhansk People’s Republic” (LPK) มาตั้งแต่ 8-9 ปีที่แล้ว จนรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี รวมทั้งองค์กร “OSCE” (Organization Security and Co-operation in Europe) ที่มีตัวแทนของยูเอ็นเข้าร่วมสังเกตการณ์ ต้องยื่นมือ-ยื่นไม้ เข้ามาจูงมือรัฐบาลยูเครนและพวกกบฏแยกดินแดน ให้หาทางประนีประนอม หาทางอยู่ร่วมกันโดยสันติให้จงได้ จนเกิดข้อตกลงที่เรียกกันว่า “The Minsk Agreement” ขึ้นมาในปี ค.ศ. 2014 นั่นเอง...

ดังนั้น...ตามที่ประธานสภาฯ ดูมา “นายVyacheslav Volodin” แกได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้นั่นแหละว่า ด้วยเหตุเพราะคุณพ่ออเมริกาเป็นผู้พยายามกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียด เป็นผู้ส่งอาวุธให้ประเทศยุโรปตะวันออก ตามแนวทางที่พยายามจะ “ขยายอิทธิพล” (Enlargement) ของอเมริกาและนาโตเข้าสู่พรมแดนรัสเซีย อีกทั้งรัฐบาลยูเครนเองก็ไม่ได้คิดจะปฏิบัติตามแนวทาง “The Minsk Agreement” บรรดาสมาชิกรัฐสภารัสเซียโดยส่วนใหญ่ จึงพร้อมใจที่จะลงมติกันไปในแนวนี้ โดยคงต้องส่งเรื่องไปยังประธานาธิบดีรัสเซีย ว่าจะเห็นชอบ เห็นควรด้วย หรือไม่ ประการใด นับจากนี้ต่อไป...

อันนี้...ก็เลยเป็น “หน้าไพ่” อีกหน้า ที่ทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน “นายDmytro Kuleba” ถึงกับสะดุ้ง หรือถึงกับผงะ จนต้องรีบออกมาเตือนผู้นำรัสเซียเอาไว้ล่วงหน้าประมาณว่า การคิดจะ “รับรองเอกราช” ของดินแดนทั้งสองแห่งในยูเครนถือเป็นการละทิ้ง “แนวทางสันติภาพ” อันเป็นหลักการสำคัญของ “The Minsk Agreement” ไม่ต่างไปจากการ “ถอนตัว” ออกจากข้อตกลงที่รัฐบาลรัสเซียและประชาคมต่างประเทศได้เคยร่วมสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง แต่ก็นั่นแหละ...ระหว่างการร่วมแถลงข่าวกับผู้นำเยอรมนี “นายOlaf Scholz” เมื่อช่วงวันอังคาร (15 ก.พ.) ที่ผ่านมา แม้ว่าผู้นำรัสเซียจะแสดงความเข้าอก-เข้าใจต่ออารมณ์-ความรู้สึกของสมาชิกสภารัสเซียส่วนใหญ่ ที่ตัดสินใจลงมติในลักษณะดังกล่าว แต่ก็ยังยืนหยัด ยืนยัน เอาไว้อย่างชัดเจนว่า...“เราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหา Donbass (ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลยูเครนกับพวกที่คิดจะแยกดินแดน Donetsk และ Luhansk) ให้ลุล่วงลงไปให้ได้เป็นประการแรก โดยสำคัญที่สุดคือเราต้องแก้ผ่านกระบวนการข้อตกลง The Minsk Agreement...”

หรือสรุปง่ายๆ ว่า...สำหรับผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ที่น่าจะเชี่ยวชาญการเล่น “หมากล้อม” ไม่น้อยไปกว่าหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างผู้นำจีนประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” เอาเลยก็ไม่แน่ ในการหาทางรับมือกับคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกนั้น คงไม่ได้ทำให้ผู้นำรายนี้มองแค่เพียงพื้นที่เล็กๆ ระดับแมวดิ้นตาย อย่าง “Donetsk” และ “Luhansk” หรือแม้แต่ยูเครนทั้งประเทศเอาเลยก็ว่าได้ แต่น่าจะกำลังมองไปไกลถึง “ป่าทั้งป่า” หรือ “โลกทั้งโลก” ไปโน่นเลย!!!