รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ยูเครนล่าสุดร้องต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติขอให้ประชุมหารือด่วนหลังสภาล่างรัสเซียมีมติในวันอังคาร (15 ก.พ.) เตรียมขอให้ผู้นำรัสเซียรับรองโดเนตสค์ และลูฮานสค์ที่ประกาศแยกจากยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014 เป็นรัฐอิสระ ด้านประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี และเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ทางทหารนาโต้เดินทางไปแนวหน้ายูเครนดูการฝึกซ้อมรบวันพุธ (16 ก.พ.) ด้านสหรัฐฯ ชี้ "รัสเซียถอนกำลังกลับเป็นเท็จ" ชี้เมื่อไม่กี่วันแอบส่งเพิ่มอีก 7,000 นาย
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (16 ก.พ.) ว่า สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติที่มีสมาชิก 15 คน มีกำหนดหารือก่อนแล้วสำหรับการหารือเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน และหารือข้อตกลงมินสค์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 เพื่อทำให้สงครามยูเครนตะวันออกสิ้นสุดลง
การประชุมเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่กองทัพรัสเซียยกกำลังทหารกว่าแสนนายประชิดพรมแดนยูเครนในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ฝ่ายเครมลินเสียงแข็งไม่มีเป้าหมายบุกโจมตีเคียฟแต่อย่างใด เป็นแค่การซ้อมรบเท่านั้น
ในหนังสือที่ยื่นถึงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหประชาชาติ เซอร์เก คิสลิตสยา (Sergiy Kyslytsya) กล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวโดยรัฐสภารัสเซียในวันอังคาร (15) นั้นทำให้เป็นภัยคุกคามเพิ่มขึ้นต่อทั้งความมั่นคงพรมแดนยูเครน และสถาปัตย์ทางความมั่นคงโลกโดยรวมตามหลังการเพิ่มกำลังทหารอย่างต่อเนื่องโดยรัสเซียในพื้นที่ใกล้พรมแดนยูเครน"
รอยเตอร์ชี้ว่า ทั้งเมืองลูฮานสค์ (Luhansk) และเมืองโดเนตสค์ (Donetsk) ที่รู้จักโดยรวมว่า ดอนแบส (Donbass) แตกออกมาจากการควบคุมของรัฐบาลยูเครน หลังอดีตประธานาธิบดียูเครน วิคเตอร์ ยานูโควิช ถูกโค่นอำนาจลงในปี 2014 จากการเกิดการลุกขึ้นสู้ของประชาชนยูเครน และทำให้ในเวลาต่อมาทั้ง 2 เมืองต่างประกาศเอกราชของตัวเองขึ้นและทำให้เกิดสงครามขึ้นกับกองทัพยูเครนนับตั้งแต่นั้นมา
ทั้งนี้ ในวันอังคาร (15) สภาผู้แทนราษฎรรัสเซียมีมติให้ร้องประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน พิจารณารับรองคำประกาศเอกราชของทั้ง 2 เมืองในฐานะรัฐอิสระ แต่ผู้นำรัสเซียปฎิเสธที่จะเปิดเผยว่าตัวเองมีแผนอะไรออกมาบ้าง
เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติชี้ว่า มติของรัฐสภารัสเซียนั้นบั่นทอนต่อข้อตกลงมินสค์ปี 2015 และขอให้คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติให้ช่วยพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ระหว่างการประชุมหารือที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ (17) ที่นิวยอร์ก
ซึ่งถึงแม้ว่ารัสเซียจะออกมาประกาศต่อโลกว่ากำลังถอนกำลังกลับออกไปจากบริเวณพรมแดนยูเครน แต่ทว่าสหรัฐฯ ยังคงเปิดเผยว่า เป็นสิ่งตรงกันข้าม
โดย CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (17) ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยในค่ำวันพุธ (16) ว่า มีจำนวนกองกำลังรัสเซียตามบริเวณพรมแดนยูเครนเพิ่มขึ้น 7,000 นาย เมื่อไม่กี่วันนี้
โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงวอชิงตันกล่าวว่า คำอ้างของเครมลินถึงการถอนกำลังกลับ "เป็นเท็จ" และท่าทีของประธานาธิบดีปูติน ที่แสดงต่อชาวโลกว่าเปิดกว้างต่อแนวทางการทูตนั้นเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตบตาเท่านั้น
และการประเมินของวอชิงตันเกิดขึ้นในวันเดียวกัน (16) ที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี และเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ทางทหารนาโต้เดินทางไปแนวหน้ายูเครนดูการฝึกซ้อมรบที่ภูมิภาคตะวันตกของประเทศ
ซึ่งการฝึกซ้อมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกปฏิบัติการพายุหิมะ 2022 ที่ออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมให้กองกำลังยูเครนเข้าสู่สงครามกับรัสเซียหากเกิดขึ้น
พ.อ.อันดรีย์ เมลนิค (Andriy Melnik) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการการฝึกพื้นราบริฟเน (Rivne) เปิดเผยว่า ทหารยูเครนกำลังฝึกซ้อมยุทโธปกรณ์ที่หลากหลาย
โดยกล่าวไปว่า ทำการฝึกซ้อมโดยใช้ยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ของกองบัญชาการพื้นที่รวมไปถึงปืนใหญ่ รถถัง ยานหุ้มเกราะ รถถังต่อต้านขีปนาวุธ และปืน
ขณะที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ฮันนา มาลยา (Hanna Malya) แสดงความเห็นว่า การฝึกซ้อมพิสูจน์ได้ถึงความพร้อมของกองกำลังยูเครน
"พวกเราพร้อมเต็มที่เพื่อปกป้องประเทศของพวกเราและพวกเราจะปกป้องมัน" เธอกล่าวหลังการเข้าร่วมการชมการฝึกซ้อม
