ราคาน้ำมันปรับขึ้นกว่า 1% ในวันพุธ (16 ก.พ.) นักลงทุนทบทวนถ้อยแถลงขัดแย้งกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะถอนทหารบางส่วนออกจากชายแดนติดกับยูเครน ปัจจัยนี้ดันราคาทองคำพุ่งแรง ขณะที่วอลล์สตรีทปิดแคบ จากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัสเซียแถลงว่าได้ถอนทหารบางส่วนออกจากแนวชายแดนติดกับยูเครน แต่ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ระบุในวันพุธ (16 ก.พ.) ว่า พันธมิตรยังไม่เห็นสัญญาณความตึงเครียดที่ลดลง และบอกด้วยว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าเพิ่มกำลังทหาร
ความตึงเครียดเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนที่โหมคืนมาอีกครั้ง กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันพุธ (16 ก.พ.) แตะระดับสูงสุดใน 8 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 15.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,871.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (16 ก.พ.) ปิดในกรอบแคบๆ หลังเฟดเผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเผยให้เห็นว่าทางธนาคารกลางแห่งนี้มีความตั้งใจเริ่มขึ้นดอกเบี้ยสู้กับภาวะเงินเฟ้อ แต่การตัดสินใจจะอยู่บนพื้นฐานของการประชุมแต่ละครั้ง
ดาวโจนส์ ลดลง 54.57 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,934.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.64 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,475.01 จุด แนสแดค ลดลง 15.66 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,124.09 จุด
ดัชนีทั้ง 3 แกว่งตัวอยู่ในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน ตามแรงฉุดของกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยูเครน และข้อมูลต่างๆ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังร้อนแรงเกินไป เพราะฉะนั้นจึงเป็นแรงหนุนเพิ่มเติมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(ที่มา : รอยเตอร์)