วอลล์สตรีทดิ่งแรง และน้ำมันปิดทรงตัวในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) หลังข้อมูลราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ร้อนแรงเกินคาดหมาย ความเคลื่อนไหวดังกล่าวดันราคาทำขยับขึ้นต่อเนื่อง
ดาวโจนส์ ลดลง 526.47 จุด (1.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,241.59 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 83.10 จุด (1.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,504.08 จุด แนสแดค ลดลง 304.73 จุด (2.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,185.64 จุด
ข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ พบว่าราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้นถึง 7.5% ในเดือนที่แล้วเมื่อเทียบเป็นรายปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะอยู่ที่ 7.3% และถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีของอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 40 ปี
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงหนักขึ้น หลัง เจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวทำให้เขามีมุมมองเชิงก้าวร้าวขึ้นอย่างมาก และเขาต้องการให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเต็ม 1.0% ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม
ด้านราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ปิดในกรอบแคบๆ แม้คาดการณ์อุปสงค์พลังงานแข็งแกร่ง นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกมากกว่าคาดหมายเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 89.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 91.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ให้ความเห็นว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 0.5 ในการประชุมเดือนหน้าที่จะถึงนี้ หลังจาก บุลลาร์ด แสดงความคิดเห็น
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนผลักให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ทำสถิติขยับขึ้นต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 1,837.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)