ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพุธ (9 ก.พ.) หลังคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก บ่งชี้อุปสงค์พลังงานแข็งแกร่ง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ตามความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ขณะที่ทองคำปรับขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ ปิดที่ 89.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ ปิดที่ 91.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันพุธ (9 ก.พ.) พบคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลงถึง 4.8 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เหลือ 410.4 ล้านบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (9 ก.พ.) ปิดบวกแข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจากกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตสูง (Growth Stock) หลังประธานเฟดสาขาแอตแลนตา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 305.28 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,786.06 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 65.64 จุด (1.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,587.18 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 295.92 จุด (2.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,490.37 จุด
นักลงทุนจับตาข้อมูลราคาผู้บริโภคที่จะเผยแพร่ออกมาในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) เพื่อหาเงื่อนงำเกี่ยวกับแผนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก่อความกังวลว่าเฟดอาจเคลื่อนไหวเชิงรุกกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา บอกว่า แม้บางทีเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจกำลังเข้าใกล้อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง แต่เขายังคงอยากให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเล็กน้อยในปีนี้
ส่วนราคาทองคำปิดบวกในวันพุธ (9 ก.พ.) หลังดอลลาร์อ่อนค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลดลง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,836.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)