xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

หนีรอดคุกกาย แต่ติดคุกใจ : ภาวะทักษิณวันนี้

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

“การเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ และความตายเป็นทุกข์” ทุกข์ทั้ง 3 ประการนี้ คือทุกข์ทางกาย อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายใต้กฎแห่งอนิจจตา คือ ความไม่เที่ยง ทนต่อกาลเวลาไม่ได้ และความเป็นอนัตตา คือ ไม่มีตัวตน

ตามหลักของพุทธศาสนา ยังมีทุกข์ทางใจอันเกิดจากเหตุ 3 ประการดังต่อไปนี้

1. พลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก

2. อยู่ร่วมกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก

3. ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น

โดยนัยแห่งทุกข์ทั้งทางกาย และทางใจ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนทุกคนที่เริ่มต้นด้วยการเกิด และจบลงด้วยการตายเสมอเหมือนกันทุกคน จะต่างกันก็เพียงช่วงแห่งเวลาของการเกิดในแต่ละคนเท่านั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่มีความเพียบพร้อมด้วยยศศักดิ์ และเงินตรา เพราะนี่คือกฎแห่งสัจธรรมที่เป็นอกาลิโก คือ เป็นอมตะเหนือกาลเวลา

ในวันนี้และเวลานี้ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือตัวอย่างที่ดีที่สุดในการอธิบายกฎแห่งทุกข์ทางใจให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ด้วยเหตุและผลในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้

1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความเพียบพร้อมด้วยลาภ ยศ และทรัพย์สินเงินตรามากที่สุดในบรรดาบุคลากรทางการเมืองของประเทศไทย นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

2. เส้นทางเข้าสู่อำนาจทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเส้นทางลัดใช้เวลาไม่นาน นับตั้งแต่เริ่มต้นด้วยการเป็นนักการเมืองในพรรคพลังธรรม ภายใต้การนำของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 ด้วยนโยบายประชานิยม และดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแบบทุ่มทุนกวาดต้อน ส.ส.จากพรรคต่างๆ เข้ามารวมกันเป็นพรรคใหม่ คงเหลือไว้เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียว

และตลอดเวลาที่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมีเพียง 2 ปีแรกในสมัยแรกเท่านั้นที่ดูว่าจะทุ่มเทและทำงานอย่างจริงจังเพื่อส่วนรวม แต่พอย่างเข้า 2 ปีหลังแห่งเทอมแรก ธาตุแท้ของการเป็นนักธุรกิจการเมืองเริ่มฉายแวว นี่เองคือจุดเริ่มต้นแห่งการออกมาคัดค้านของกลุ่มต้านระบอบทักษิณ แต่การคัดค้านในระยะแรกๆ มิได้ทำให้สถานะทางการเมืองของทักษิณหวั่นไหวนัก แต่มาพังเอาเมื่อมีการขายหุ้นและไม่ยอมเสียภาษี และจบลงด้วยการยุบสภาฯ เมื่อต้นปี 2549

3. จากการเริ่มต้นด้วยดีและจบลงด้วยข้อเสียตามข้อ 2 ถูกตอกย้ำให้เห็นถึงการเป็นนักการเมืองที่ไม่ชอบธรรมมากขึ้น เมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 ที่พรรคชาติไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคมหาชนประกาศไม่ส่งผู้ลงสมัคร และเป็นเหตุให้พรรคต้องหนีการสอบตกด้วยการได้คะแนนไม่ถึง 20% ตามเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด เนื่องจากไม่มีผู้ลงสมัครจากพรรคอื่น ด้วยการจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัคร และนำไปสู่การฟ้องร้องจนในที่สุดพรรคไทยรักไทยถูกยุบ และมีผลให้กรรมการบริหารพรรค 111 คนถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี และก่อนที่พรรคจะถูกยุบได้เกิดการโค่นล้มรัฐบาลโดย คมช.ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องจบบทบาททางการเมืองและหนีไปอยู่ประเทศอังกฤษ โดยบอกตลอดเวลาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง

4. แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏ ตลอดเวลาที่บอกว่าหยุดนั้นได้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอด และเป็นการเคลื่อนไหวอย่างโจ่งแจ้งด้วย ทั้งนี้จะเห็นได้จากการเข้ามามีบทบาททางการเมืองโดยผ่านทางรัฐบาลหุ่นเชิดที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และมีสมาชิกพรรคพลังประชาชนเป็นกำลังเสริมทั้งในส่วนของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ จนในที่สุดบทบาททางการเมืองของนายสมัคร สุนทรเวช ต้องจบลง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติของความเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 168

ครั้นมีการแต่งตั้งนายกฯ คนใหม่เข้ามาแทนนายสมัคร สุนทรเวช การแทรกแซงทางการเมืองยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยคนใหม่ที่เข้ามาเป็นน้องเขย และเป็นนักกฎหมายจึงเล่นบทช่วยเหลือเกื้อกูลแบบน้ำนิ่ง แต่ก็ไม่นิ่งพอที่จะซ่อนรูปได้สนิท จึงเป็นเหตุให้กลุ่มผู้คัดค้านจับตาและเริ่มรุกหนัก เมื่อพบว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและหาทางช่วยเหลือเกื้อกูลให้กลุ่มการเมืองเก่าพ้นผิด และรอโอกาสเกิดทางการเมืองอีกครั้งสืบต่อจากการที่นายสมัคร สุนทรเวช เคยคิดจะทำมาก่อน

ทั้งหมดที่เล่ามาก็เพื่อให้มองเห็นถึงความปรารถนาที่จะกลับมาสู่อำนาจทางการเมืองอีกครั้ง หรืออย่างน้อยเพื่อให้ตัวแทนของตัวเองมีความสะดวกในการหาทางช่วยเหลือ

แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้และเวลานี้ความปรารถนาที่ว่านี้ดูเหมือนจะถึงทางตัน เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตัดสินจำคุกทักษิณเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา อันถือได้ว่าความปรารถนาที่หวังมาตลอดคงไม่สมหวัง และความไม่สมหวังที่ว่านี้ คือ ความทุกข์ใจ

จริงอยู่ถึงแม้จะหนีโทษจำคุกได้โดยอยู่ต่างประเทศ และกระบวนการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่สามารถกระทำได้ หรือกระทำได้อย่างล่าช้า เป็นการเปิดโอกาสให้อดีตนายกฯ ดิ้นรนต่อสู้เพื่อกู้ชื่อเสียงให้แก่ตัวเองในลักษณะแก้ตัวแก้ต่างดังที่ได้กระทำไปด้วยการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ และส่งต่อให้ผู้คนที่ยังภักดีต่อตัวเองในประเทศได้ฟังเป็นการระบายความคับแค้นในใจ แต่ใช่ว่าจะทำให้จิตใจสงบเยือกเย็น และพ้นไปจากภาวะเดือดร้อนได้โดยสิ้นเชิง

ตรงกันข้าม ยิ่งดิ้นจะยิ่งทำให้จิตใจตกอยู่ในภาวะสับสนและวุ่นวาย ยากที่จะหาความสงบได้ และที่สำคัญนี่เพียงคดีแรกเท่านั้น ยังมีอีกหลายคดีที่ศาลรับฟ้องและกำลังดำเนินการอยู่ตามกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าในจำนวนหลายๆ คดีที่กำลังดำเนินการอยู่ จะต้องมีอีกสักคดีหรือมากกว่านี้ที่ทักษิณจะต้องโทษจำคุกอีก และถ้าเป็นเช่นนั้นจากวันนี้ไปถึงวันที่ตัดสิน ภาวะแห่งจิตใจทักษิณจะเดือดร้อนวิปฏิสารมากน้อยขนาดไหน และจะต้องรักษาเยียวยาด้วยวิธีใด ถ้าไม่ยอมหยุดนิ่ง และไตร่ตรองทบทวนการกระทำของตัวเองในอดีตด้วยความรอบคอบ สุขุมคัมภีรภาพ และมีสติคอยกำกับมิให้ฟุ้งซ่านไปตามกระแสแห่งความโกรธ และความเกลียด และถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปทุกข์ทางใจก็จะปรากฏให้เห็น และเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตแน่นอน

ยิ่งถ้าเปิดมุมมองในแง่โหราศาสตร์ด้วยแล้วจะยิ่งให้เป็นห่วง เมื่อพบว่าดาวเสาร์ทับศุกร์เจ้าเรือนลัคนาไปจนถึง 30 ก.ย. 2552 และในขณะเดียวกัน ดาวพฤหัสฯ จะยกจากราศีธนูไปเป็นนิจทับพฤหัสฯ เนิน ก็ยิ่งให้แน่ใจได้ว่าภาวะแห่งความเดือดร้อนหรือทุกข์ทางใจคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายจะเป็นเหตุให้ล้มป่วยในปีอายุ 61-62 ก็เป็นไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น