xs
xsm
sm
md
lg

“สมเกียรติ” ขึ้นเวทีหาดใหญ่แฉเส้นทางโกง “แม้ว”-วาง “สมชาย” สืบทอดมหากาพย์ทุจริต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “สมเกียรติ” ลากไส้ “แม้ว” ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง ยึดนโยบายโกงกินทั่วหน้า เหยียบธุรกิจทั่วประเทศฟันกำไรบนคราบน้ำตาคนไทยยุคฟองสบู่แตก เดินหน้าธุรกิจการเมืองซื้อพรรคยึดเสียงข้างมากเพื่ออำนาจเผด็จการและแทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่เว้นแม้แต่สื่อมวลชน จนเกิดพันธมิตรฯ ผนึกกำลังเปิดโปงเบื้องหลังจนนำไปสู่การดำเนินคดีนับสิบความเสียหายนับแสนล้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นจะมีการตัดสินคดีในวันพรุ่งนี้ พร้อมชี้ “สมชาย” ถูกวางหมากช่วยทุจริต ซึ่งท้ายที่สุดจุดจบคงไม่ต่างจาก “พี่เมีย” นัก

ช่วงเย็นวันนี้ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย “สานฝันวีรชน ล้างระบอบทักษิณ สร้างการเมืองใหม่” ที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยได้กล่าวชื่นชมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่มีความตื่นตัวติดตามสถานการณ์บ้านเมือง และกล้าออกประกาศจุดยืนต่อความถูกต้องเป็นลำดับต้นๆ ก่อนมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในประเทศ

พร้อมกันนี้ นายสมเกียรติ ได้เปิดเผยถึงเส้นทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของ “ระบอบทักษิณ” หรือระบอบทรราชทุนสามาย์ ซึ่งมีการแทรกแซงใช้เงินซื้อให้มาซึ่งอำนาจทุกวิถีทางว่า ช่วงที่รัฐบาล นายชวน หลีกภัย ประสบปัญหาวิกฤตการเงินของชาติ ได้มีการออกแบบกฎหมายเพื่อสู้กับการโจมตีค่าเงินและวิกฤตเศรษฐกิจโลก และอนุมัติเงินเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงปี 2540 คนอีสานได้พร้อมใจกันเลือก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ปล่อยให้มีการลดค่าเงินบาท โดยมีคนเพียงไม่กี่คนรู้ล่วงหน้า แต่คนที่ได้ผลประโยชน์เต็มๆ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ซื้อขายสัญญาเงินบาทล่วงหน้า และมีผลดีต่อธุรกิจในเครือ ปล่อยให้ธุรกิจทั่วประเทศน้อยใหญ่ทั่วประเทศล้มครืน ซึ่งมีการประเมินว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับผลกระโยชน์ราว 60,000 ล้านบาท และหลังจากนั้น พล.อ.ชวลิต ก็ได้ลาออก ปล่อยให้ประเทศเผชิญวิกฤตต้มยำกุ้งอย่างเต็มตัว

หลังจากนั้น พรรคไทยรักไทย ก็เกิดขึ้น ด้วยการทุ่มงบโฆษณามหาศาล แม้กระทั่งบนเสาไฟฟ้าก็มีป้ายหาเสียงแทบทุกต้น พร้อมทั้งโปรยนโยบายประชานิยม และชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงในรัฐสภา 248 ใน 500 เสียง จึงได้กลืนพรรคการเมืองอีกหลายพรรค ทั้งพรรคเสรีธรรม ความหวังใหม่ และชาติพัฒนา เพื่อดึง ส.ส.เข้ามาเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไม่ได้ จนกระทั่งได้มาเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากและผูกขาด ซึ่งนับแต่นั้นระบอบทักษิณได้มาครอบงำการเมืองไทยด้วยนโยบายประชานิยม และแทรกแซงการทำงานหลายองค์กรสำคัญ

นายสมเกียรติ ยังกล่าวด้วยว่า การบริหารงานที่ค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่เพียงผู้เดียวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ท้าทายการใช้พระราชอำนาจมาโดยตลอด จนกระทั่ง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นพิธีกรรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นำไปสู่การถูกถอดรายการจากช่อง 9 อ.ส.ม.ท.ในที่สุด แต่ได้เดินหน้าเดิมพันการเปิดโปงเบื้องหลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะที่บริษัทถูกรังแกและประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก

ในขณะที่ นายสนธิ ตั้งเวทีดำเนินรายการที่สวนลุมพินีและออกสู้รบเป็นคนแรกนั้น หลายๆ คนก็ที่มีเจตนารมณ์เดียวกันก็ได้ออกมาช่วยและก่อตั้งเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 11 กุมภาพันธ์ 2549 และร่วมต่อสู้กันจนประกาศวันสงครามประจันบานวันที่ 20 กันยายน แต่ท้ายที่สุด ก็ถูกทหารปฏิวัติรัฐประหารเสียก่อน และ 1 ปีของการรัฐประหารก็ได้ทิ้งตราบาปให้กับสังคมโดยมี 2 บุรุษที่ไร้ประสิทธิภาพ

การเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากจะทำให้ครอบครัวกลายเป็นมหาเศรษฐี รวยทั้งบ้านรวมถึงคนรับใช้แล้ว ยังส่งผลถึงครอบครัวของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งน่าแปลกใจว่าเพียงไม่กี่ปีบุตรสาวและบุตรชายกลับมีเงินถึง 2,000 ล้านบาท

แต่เมื่อไร้เงาทักษิณแล้ว ก็ยังได้มีการวางหมากสืบทอดอำนาจเพื่อต่อสู้กับคดีต่างๆ ที่เคยทุจริตระหว่างที่อยู่ในอำนาจ โดยมีคดี 18 กรณีใหญ่ 24 กรณีเล็ก ที่ล้วนเป็นการทุจริตนับแสนล้าน โดยในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันชี้ชะตาของทักษิณเป็นลำดับแรก และเมื่อย้อนกลับมาดูตัวแทนระบอบทักษิณในปัจจุบัน คดีของนายสมชายนั้นเป็นมหากาพย์ที่ถูกพี่เมียวางตัวไว้คอยทุจริต หนึ่งในนั้น คือ การทุจริตสนามบินสุวรรณภูมินั่นเอง ซึ่งจะต้องมีการเช็กบิลเช่นเดียวกัน










กำลังโหลดความคิดเห็น