“วิจิตร” ไม่สนใครมานั่งเก้าอี้ รมว.ศธ. แต่หากเป็นคนวงการศึกษาก็จะทำให้งานเดินหน้าได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ไม่ยี้! โครงการประชานิยม แต่ติงหากจะทำโครงการประชานิยมขอให้มั่นใจมีเงินพอ และต้องอยู่ในกรอบพอเหมาะ พอควร และพอดี เพราะงานการศึกษาต่างจากเศรษฐกิจ ระบุนโยบายพรรคร่วมรัฐบาลให้เรียนฟรีถึง ป.ตรี โอกาสเป็นจริงน้อยมาก หากทำได้จะขออนุโมทนาด้วย
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ตัวบุคคล แต่การที่รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนหลายครั้งก็แสดงให้เห็นว่าให้ความสนใจเรื่องการศึกษา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การศึกษาของไทยอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงแต่ต้องการการเร่งรัด ซึ่งหากได้คนที่มีพื้นฐานและเข้าใจเรื่องการศึกษาเป็นอย่างดี ก็จะทำให้งานต่างๆ เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง ซึ่งตนได้มอบหมายให้ข้าราชการประจำทำหน้าที่บรรยายสรุปงานต่างๆ ภายในกระทรวงให้ รมว.ศธ.คนใหม่ได้รับทราบ และมีความเชื่อมั่นว่าข้าราชการประจำภายใน ศธ. โดยเฉพาะผู้บริหาร 5 องค์กรหลักจะเข้าใจแนวทางในการทำงานที่ตนได้วางไว้อย่างชัดเจน และจะสามารถสานต่อได้ ขณะเดียวกันตนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลทั้งหมดกับผู้ที่จะเข้ามาทำงานคนใหม่
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการที่รัฐบาลชุดใหม่อาจจะดำเนินนโยบายประชานิยมเหมือนที่ผ่านมานั้น ตนเห็นว่าเรื่องการศึกษาไม่ใช่นโยบายประชานิยมเหมือนกับเรื่องเศรษฐกิจ แต่นโยบายทางด้านการศึกษาจะต้องคำนึงถึงความเสมอภาค และการให้โอกาสอย่างทั่วถึง ซึ่งหากจะนำนโยบายประชานิยมมาใช้กับการศึกษา ตนก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่สิ่งสำคัญคือจะต้องมั่นใจว่านโยบายประชานิยมที่ประกาศไปนั้นจะมีทรัพยากรที่จะนำมาใช้อย่างเพียงพอ เพราะหากมีทรัพยากรไม่เพียงพอก็อาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไป เพราะฉะนั้นนโยบายประชานิยมจึงไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่เป็นเรื่องความพอเหมาะ และความพอควร และพอดี ซึ่งในขณะที่ตนบริหาร ศธ.ตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยคำนึงว่าโครงการใดเป็นโครงการประชานิยม แต่จะดำเนินการในสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์เป็นสำคัญ
“สำหรับนโยบายให้ประชาชนเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรีของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ผมคิดว่าแนวโน้มคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้องใช้เงินเยอะ แต่ก็ถือเป็นนโยบายที่ดี ถ้าหากทำได้ผมจะขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันแค่การให้เรียนฟรี 12 ปี เรายังทำได้ดีไม่เต็มที่ และกลายเป็นว่าเราต้องไปดูแลคนที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นภาระของรัฐบาล และขอฝากให้ดูแลเรื่องเงินวิทยฐานะซึ่งต้องหาเงินมาจ่ายให้กับครู เพราะเป็นความชอบธรรมที่ครูควรจะได้รับด้วย” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
