วงถกนโยบาย 6 พรรคระรื่น ยอมตาม “พลังแม้ว” ราบคาบว่าไงว่าตาม ไฟเขียว “ประชานิยม” เฟส 2 มาครบ คุยฟุ้งฟื้นความเชื่อมั่น แต่พอถูกถามเรื่องดับไฟใต้กลับอึ้งอ้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ค่อยพูดวันหลัง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่โรงแรมสุโขทัย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อจัดทำนโยบายบริหารประเทศ แถลงภายหลังการประชุมว่า การประชุมในวันนี้เป็นไปได้ดี เพราะทุกพรรคต่างนำนโยบายต่างๆ มาร่วมกันหารือและพบว่านโยบายของแต่ละพรรคก็คล้ายกัน ควรที่จะนำมาร่วมพิจารณาวางเป็นนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการทำงานของรัฐบาล เพราะนโยบายบางอย่างของบางพรรคนั้นอาจยังไม่ครอบคลุมในบางส่วน เมื่อนำมารวม 6 พรรคแล้วนโยบายนั้นจึงสมบูรณ์ขึ้น ฉะนั้น มั่นใจว่านโยบายรัฐบาลจะสามารถทำให้ประชาชนสมหวังกับการร่วมรัฐบาลของทั้ง 6 พรรค การพัฒนาประเทศจะสะดวกและเป็นรูปธรรมโดยเร็ว จากนี้จะเตรียมการตั้งกรรมการร่วม 6 พรรค และหลังโปรดเกล้าฯ จะประชุม ครม.ครั้งแรก จากนั้นจะไปทำนโยบายที่จะแถลงต่อสภาต่อไป
ถามว่า ในช่วงหาเสียงนั้นพรรคพลังประชาชนประกาศว่าจะนำนโยบายประชานิยมของพรรคไทยรักไทยกลับมาใช้ นายสมชาย กล่าวว่า นโยบายประชานิยมของพรรคไทยรักไทยและไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลชุดใดๆ ที่ผ่านมานั้น หากสิ่งใดที่ดีและประชาชนชื่นชอบก็จะนำมาใช้ วันนี้มาคิดนโยบายร่วมกันและอาจจะตรงกับนโยบายของพรรคไทยรักไทยที่ประชาชนชอบส่วนหนึ่ง แต่อีกหลายเรื่องเป็นของใหม่และมาจากหลายพรรค ฉะนั้นจึงไม่ได้คำนึงว่า นโยบายรัฐบาลจะมาจากพรรคใดโดยเฉพาะ เพราะที่ประชุมคิดว่าหากนโยบายนั้นทำให้ประชาชนมีความสุขก็ถือว่าดี และจะดำเนินการ
ส่วนระบุชัดได้หรือไม่ว่า นโยบายครั้งนี้คือประชานิยมเฟส 2 ของพรรคไทยรักไทย นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้มีหลายนโยบาย และไม่สะดวกที่จะพูดทั้งหมด แต่นโยบายที่เด่นๆคือ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน เอสเอ็มแอล การกู้เงินเพื่อการศึดกษา หวยบนดิน
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า นโนบายใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนนั้น รัฐบาลจะสานต่อเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดค่าใช้จ่ายของประชาชน และยังมีนโยบายอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ปรากฏนั้นก็จะนำเสนอในนโยบายรัฐบาลชุดนี้ด้วย
เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวอีกว่า นโยบายภาพรวมของทุกพรรคก็นำมาหารือกัน ยังไม่ใช่นโยบายรัฐบาล เพราะขั้นตอนจากนี้คือ รอโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ครม. จากนั้น ครม.จะประชุมนัดแรกและจะมีมติ ครม.แต่งตั้งคณะกรรมการร่างนโยบายรัฐบาล เพราะนโยบายบางอย่างก็ขาดตกบกพร่องแต่ก็ได้นโยบายของพรรคอื่นๆ มาเสริม วันนี้ขอเว้นไม่ลงรายละเอียดในนโยบายต่างๆ เพราะมีเพียงนักการเมืองที่มาหารือ หากครม.แต่งตั้งคณะกรรมการฯแล้ว จะมีส่วนต่างๆ อาทิ เอกชน สภาพัฒน์ และข้าราชการจากกระทรวงต่างๆ จะร่วมพิจารณานโยบายรัฐบาลด้วยกัน คาดว่าน่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการร่างนโยบาย หากเสร็จเมื่อใด นายกฯก็จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา
สำหรับการวางบุคคลเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจในการประสานกับพรรคต่างๆ นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้หารือเพียงนโยบาย ส่วนการสรรหาบุคคลนั้นต้องรอโปรดเกล้าฯแต่งตั้งครม.เสียก่อน แล้วขั้นตอนอื่นๆ ก็จะตามมา วันนี้ยังไม่ใช่นโยบายรัฐบาล เป็นเพียงการหารือของพรรคร่วมรัฐบาลในการวางนโยบายเท่านั้น
ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า 6 พรรคเห็นพ้องไปในแนวทางเดียวกันคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ พลังงาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ส่วนนโยบายประชานิยมที่ประชาชนยังต้องการก็จะนำมาพิจารณา เพราะสิ่งใดเป็นประโยชน์ไม่ว่าจากรัฐบาลใดก็จะบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาลชุดนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่านโยบายต่างๆ นั้นจะทำให้ดีที่สุดเพื่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายการแก้ปัญหาภาคใต้นั้นจะเป็นอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อนและคงพูดตอนนี้ไม่ได้ แต่ยืนยันว่ามีนโยบายแน่นอน ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อแผ่นดินเคยหาเสียงว่าจะไม่เอานโยบายประชานิยมนั้น นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า เมื่อ 6 พรรคมาประชุมร่วมกันก็เห็นด้วยกับร่างนโยบายรัฐบาลในภาพกว้าง ส่วนรายละเอียดนั้นต้องหารืออีกครั้ง และนำมาดูว่านโยบายใดเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นโยบายของ 6 พรรคที่มาหารือนั้น ในภาพกว้างทุกพรรคเสนอว่าเป็นการนำนโยบายของพรรคพลังประชาชนมาหารือ โดยเฉพาะนโยบายประชานิยม และทุกพรรคก็เห็นชอบที่จะให้นโยบายของพรรคพลังประชาชนเป็นหลักในนโยบายรัฐบาลชุดนี้
ทั้งนี้ นางอุไรวรรณ เทียนทอง ตัวแทนพรรคประชาราช เสนอเรื่องการวางกรอบงบประมาณให้เพียงพอต่อการบริหารงานของกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการที่เน้นพัฒนาการศึกษาของเยาวชนให้มาก นอกจากนั้น นโยบายชลประทานเพื่อการเกษตร และนโยบายท่องเที่ยวก็ถือเป็นการนำรายได้เข้าประเทศ