สกลนคร - มท.2 “สุพล ฟองงาม” เปิดศูนย์ประสานงานกลุ่มพลังประชาชน ที่ทำการของผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมออกตัวมาในนาม ส.ส.ไม่ใช่ในนามรัฐมนตรี เกรงตกเป็นข้อครหาทางการเมืองว่าไม่เป็นกลาง
นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย เดินทางไปเป็นประธาน เปิดศูนย์ประสานงานกลุ่มพลังประชาชน ซึ่งเป็นที่ทำการของกลุ่มผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 เมษายน 2551 นี้ โดยมี นายเอกพร รักความสุข อดีต รมช.แรงงาน นายวีระ รักความสุข ส.ส.สกลนคร (แบบสัดส่วน) นายเฉลิมชาติ การุญ ส.ส.สกลนคร เขต 1 นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 1 และ นายทวีวัฒน์ ฤทธิ์ฤาชัย ส.ส.สกลนคร เขต 1 นำคณะให้การต้อนรับ และมีประชาชนร่วมให้การต้อนรับกว่า 1 พันคน
โดย นายสมยศ ศรีสะอาด อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ได้กล่าวรายงานความเป็นมาของกลุ่มพลังประชาชนต่อ รมช.มหาดไทย ว่า กลุ่มพลังประชาชน เกิดจากแนวความคิดของนักการเมืองท้องถิ่น และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชาชนในจังหวัดสกลนคร รวม 8 คน ที่ต้องการเห็นการเมืองระดับประเทศและระดับท้องถิ่นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน มีการรวบรวมอดีตสมาชิกสภา อบจ.สกลนคร
ตลอดจนผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันจัดตั้งขึ้น และมี ส.ส.สกลนคร 8 คนเป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ขออนุญาตจากพรรคพลังประชาชนขอใช้ชื่อกลุ่ม เพื่อดำเนินการหาเสียง มีปณิธานที่จะดำเนินทางการเมืองเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างเต็มที่ จะปกป้องและรักษาศักดิ์ศรีรวมทั้งอุดมการณ์ของกลุ่มอย่างเต็มความสามารถ
ในการนี้ได้คัดเลือกผู้สมัคร ส่งลงรับเลือกตั้งในนามของกลุ่ม จำนวน 24 คน จากจำนวน 36 เขตใน 18 อำเภอ มีสโลแกนตั้งไว้คือ ทำงานร่วมกับรัฐ ขจัดสิ้นทุกปัญหา เพื่อพัฒนาสกลนคร
นายสุพล กล่าวกับผู้สมัครของกลุ่มและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ตนรู้สึกดีใจที่นักการเมืองท้องถิ่นมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อสืบสานอุดมการณ์ ในการอาสาเข้าไปทำงาน เนื่องจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ และถือเป็นรัฐบาลของท้องถิ่น บางแห่งมีงบประมาณสูงถึง 500 ล้าน หรือ 1 พันล้านบาท ดังนั้นการบริหารงานจะต้องมีความรอบคอบ และโปร่งใส ในการมาของตนในวันนี้ ต้องขอเรียนชี้แจงต่อสื่อมวลชนก่อน
เนื่องจากเกรงว่าจะถูกมองเป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้ ตนได้รับการประสานงานจาก ส.ส.สกลนคร สังกัดพรรคพลังประชาชน ให้เดินทางเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานครั้งนี้และตนก็รับปากแต่ไม่ได้มาในฐานะของรัฐมนตรี แต่มาในฐานะของ ส.ส.ที่ชี้แจงเช่นนี้ก็เพราะไม่อยากตกเป็นที่ครหา สาเหตุมาจากตนสวมหมวก 2 ใบ มีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ควบคุมดูแลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น หากมีผู้นำไปเป็นประเด็นทางการเมืองก็จะเกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงขอพูดในฐานะ ส.ส.เท่านั้น
โดย นายสุพล กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะมีการรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน ทุกคนก็ทราบกันดีว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 2544 พันตำรวจโททักษิณ ชนะการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล ได้เสนอนโยบายต่อประชาชนที่เป็นรูปธรรม เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค ทำสงครามกับการทุจริต ทำสงครามกับยาเสพติด และอื่นๆอีกมาก ต่อมาการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ก็ได้รับความไว้วางใจเลือก ส.ส.เข้ามาจำนวนมากจนเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองของไทย
หลังจากนั้น ก็มีปัญหาทางการเมืองมาตลอด จนกระทั่งนำไปสู่การยุบสภา และเกิดการปฏิวัติขึ้น ช่วงที่ไม่มีประชาธิปไตย 2 ปีนั้น เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมและความยากจน ตลอดทั้งปัญหายาเสพติดและอื่นๆ เพิ่มขึ้น เพราะเกิดจากความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาลหรือผู้บริหารขณะนั้น แต่วันนี้มีประชาธิปไตยแล้ว จึงต้องเร่งพัฒนาฟื้นฟูประเทศชาติร่วมกันต่อไป
นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย เดินทางไปเป็นประธาน เปิดศูนย์ประสานงานกลุ่มพลังประชาชน ซึ่งเป็นที่ทำการของกลุ่มผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 เมษายน 2551 นี้ โดยมี นายเอกพร รักความสุข อดีต รมช.แรงงาน นายวีระ รักความสุข ส.ส.สกลนคร (แบบสัดส่วน) นายเฉลิมชาติ การุญ ส.ส.สกลนคร เขต 1 นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 1 และ นายทวีวัฒน์ ฤทธิ์ฤาชัย ส.ส.สกลนคร เขต 1 นำคณะให้การต้อนรับ และมีประชาชนร่วมให้การต้อนรับกว่า 1 พันคน
โดย นายสมยศ ศรีสะอาด อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ได้กล่าวรายงานความเป็นมาของกลุ่มพลังประชาชนต่อ รมช.มหาดไทย ว่า กลุ่มพลังประชาชน เกิดจากแนวความคิดของนักการเมืองท้องถิ่น และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชาชนในจังหวัดสกลนคร รวม 8 คน ที่ต้องการเห็นการเมืองระดับประเทศและระดับท้องถิ่นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน มีการรวบรวมอดีตสมาชิกสภา อบจ.สกลนคร
ตลอดจนผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันจัดตั้งขึ้น และมี ส.ส.สกลนคร 8 คนเป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ขออนุญาตจากพรรคพลังประชาชนขอใช้ชื่อกลุ่ม เพื่อดำเนินการหาเสียง มีปณิธานที่จะดำเนินทางการเมืองเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างเต็มที่ จะปกป้องและรักษาศักดิ์ศรีรวมทั้งอุดมการณ์ของกลุ่มอย่างเต็มความสามารถ
ในการนี้ได้คัดเลือกผู้สมัคร ส่งลงรับเลือกตั้งในนามของกลุ่ม จำนวน 24 คน จากจำนวน 36 เขตใน 18 อำเภอ มีสโลแกนตั้งไว้คือ ทำงานร่วมกับรัฐ ขจัดสิ้นทุกปัญหา เพื่อพัฒนาสกลนคร
นายสุพล กล่าวกับผู้สมัครของกลุ่มและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ตนรู้สึกดีใจที่นักการเมืองท้องถิ่นมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อสืบสานอุดมการณ์ ในการอาสาเข้าไปทำงาน เนื่องจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ และถือเป็นรัฐบาลของท้องถิ่น บางแห่งมีงบประมาณสูงถึง 500 ล้าน หรือ 1 พันล้านบาท ดังนั้นการบริหารงานจะต้องมีความรอบคอบ และโปร่งใส ในการมาของตนในวันนี้ ต้องขอเรียนชี้แจงต่อสื่อมวลชนก่อน
เนื่องจากเกรงว่าจะถูกมองเป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้ ตนได้รับการประสานงานจาก ส.ส.สกลนคร สังกัดพรรคพลังประชาชน ให้เดินทางเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานครั้งนี้และตนก็รับปากแต่ไม่ได้มาในฐานะของรัฐมนตรี แต่มาในฐานะของ ส.ส.ที่ชี้แจงเช่นนี้ก็เพราะไม่อยากตกเป็นที่ครหา สาเหตุมาจากตนสวมหมวก 2 ใบ มีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ควบคุมดูแลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น หากมีผู้นำไปเป็นประเด็นทางการเมืองก็จะเกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงขอพูดในฐานะ ส.ส.เท่านั้น
โดย นายสุพล กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะมีการรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน ทุกคนก็ทราบกันดีว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 2544 พันตำรวจโททักษิณ ชนะการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล ได้เสนอนโยบายต่อประชาชนที่เป็นรูปธรรม เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค ทำสงครามกับการทุจริต ทำสงครามกับยาเสพติด และอื่นๆอีกมาก ต่อมาการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ก็ได้รับความไว้วางใจเลือก ส.ส.เข้ามาจำนวนมากจนเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองของไทย
หลังจากนั้น ก็มีปัญหาทางการเมืองมาตลอด จนกระทั่งนำไปสู่การยุบสภา และเกิดการปฏิวัติขึ้น ช่วงที่ไม่มีประชาธิปไตย 2 ปีนั้น เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมและความยากจน ตลอดทั้งปัญหายาเสพติดและอื่นๆ เพิ่มขึ้น เพราะเกิดจากความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาลหรือผู้บริหารขณะนั้น แต่วันนี้มีประชาธิปไตยแล้ว จึงต้องเร่งพัฒนาฟื้นฟูประเทศชาติร่วมกันต่อไป