หุ้นไทยเด้งสวนตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน เหตุนักลงทุนเก็งกำไรหุ้นพลังงาน-ถ่านหินหลังราคาพุ่งต่อเนื่อง โบรกเกอร์เชื่อวันนี้พุ่งต่อหลังเฟดหั่นดอกเบี้ย โหรหุ้น “เจษฎา” ทำนายปลายปีการเมืองระอุถึงขั้นยุบสภา-ปรับ ครม.ขณะที่ “หมอไพศาล” แนะทยอยเก็บหุ้น ฟันธงเดือน เม.ย.หุ้นทะยานแตะ 900 จุด หลังเงินนอกไหลเข้า ชี้ “สมัคร” วาสนาเป็นนายกฯได้ไม่เกิน 2 ปี
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (30 ม.ค.) ดัชนีแกว่งตัวอย่างผันผวนตลาดทั้งวัน ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มพลังงานและถ่านหิน บวกกับการเก็งกำไรข่าวการประชุมปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนนี้ ส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 763.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.61 จุด หรือ 1.14% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 766.39 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 751.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,576.96 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 122.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 318.63 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 196.04 ล้านบาท
นายไพศาล ซอยพิบูลย์เวศน์ โหราพยากรณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ และการพยากรณ์หุ้น เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 4 เดือนแรกจะมีความผันผวน แต่จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาล และเปิดรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุน และผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 900 จุดได้ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมนี้
“นักลงทุนควรเริ่มทยอยซื้อหุ้นในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.จะได้รับผลตอบแทนที่ดี หลังจากนั้นตลาดหุ้นจะทรงตัวไปอีกประมาณ 3-4 เดือน โดยช่วงเดือน ก.ค.และ ส.ค.จะเป็นช่วงที่รัฐบาลจะมีปัญหาจะมีการปรับรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ไม่ดีออกหาคนเข้ามาทำหน้าที่แทน”
สำหรับหุ้นในตลาดหุ้นไทยนั้น มีสัดส่วนประมาณ 50% เป็นหุ้นที่นิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว อีก 30% เป็นหุ้นที่ดีแต่ขาดการพัฒนา ขณะที่มีเพียง 20% เท่านั้นที่เป็นหุ้นทีดีน่าลงทุน และมีพื้นฐานดี โดยหุ้นที่น่าลงทุน คือ พลังงาน ขณะที่หุ้นอสังหาริมทรัพย์ จะต้องรอซื้อในช่วงเดือน เม.ย.จากที่จะได้ปัจจัยหนุนจากการจัดตั้งรัฐบาล”
ส่วนดวงชะตาของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน มีวาสนาในการดำรงตำแหน่งนายกฯ เพียง 2 ปี เท่านั้น หลังจากที่พ้นจากตำแหน่งก็จะไปเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตการดำรงตำแหน่งของตนเอง ซึ่งจะได้รับความนิยม
นายเจษฎา โลหอุ่นจิตร นักเศรษฐศาสตร์ผู้ศึกษาในโหราศาสตร์สากล เจ้าของนามปากกา ยูเรสโต กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ดาวเมือง ปี 2551 การเมืองจะไม่นิ่งจากแรงกดดันหลายๆ ด้าน แต่จะไม่ถึงเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นปฏิวัติรัฐประหาร หรือฉีกรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะเป็นการยุบสภา หรือปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงครึ่งปีหลัง 2551 และคาดว่า จะเกิดปฏิวัติรัฐประหารในปี 2552
ทั้งนี้ รัฐบาลชุดใหม่ควรจะปฏิรูประบบการปกครองให้เป็นธรรมมากขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างอำนาจในระบบราชการที่สร้างความไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจจะทำให้มีโอกาสรอดพ้นจากวิกฤตไปได้ แต่หากใช้อำนาจที่ได้มาด้วยการช่วยเหลือพวกพ้อง ไม่สนใจบ้านเมือง ก็จะทำให้เกิดความแตกแยกอย่างหนัก จนต้องพ้นจากตำแหน่งในครึ่งปีหลังของปี 2551
สำหรับตลาดหุ้นไทยปีนี้ จากที่ดาวเสาร์มีการโคจรดาวพุธ ซึ่งเป็นดาวครองเรือนที่ 5 ซึ่งเกี่ยวกับการลงทุนนั้นทำให้ตลาดหุ้นไม่ดีเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน แต่จากที่ดาวดังกล่าวโครจรเข้ามาเมื่อปลายปีที่ผ่านมาจึงทำให้ตลาดหุ้นไม่ดีอีก 2 ปี
“แม้ปีนี้ตลาดหุ้นจะไม่ดี แต่ในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้ามีดาวพฤหัสโคจรเข้ามา อาจจะจะช่วยทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นได้ ถึงแม้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนรัฐบาลจะมีปัญหาในเรื่องการยุบสภาก็ตาม”
**ลุ้นเฟดหั่น ด/บ 0.5%
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และถ่านหิน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวดี ประกอบกับมีความชัดเจนในเรื่องสถานการณ์การเมืองทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
“หุ้นกลุ่มพลังงาน ถ่านหิน มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นประมาณ 30-35% แรงซื้อที่เข้ามาจึงทำให้หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ” นายชัย กล่าว
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นวันนี้ (31 ม.ค.) ดัชนีมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ โดยต้องติดตามผลการประชุมพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของเฟด ถ้าหากมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% จากปัจจุบันที่ 3.5% ตามคาดการณ์จะมีผลดันดัชนีปรับเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมถึงราคาน้ำมัน และราคาถ่านหินในตลาดโลกด้วย โดยประเมินแนวรับที่ 750 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 774-775 จุด ขณะที่แนะนำนักลงทุนระยะกลางและระยะยาวให้ถือเงินสด เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (30 ม.ค.) ดัชนีแกว่งตัวอย่างผันผวนตลาดทั้งวัน ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มพลังงานและถ่านหิน บวกกับการเก็งกำไรข่าวการประชุมปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนนี้ ส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 763.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.61 จุด หรือ 1.14% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 766.39 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 751.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,576.96 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 122.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 318.63 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 196.04 ล้านบาท
นายไพศาล ซอยพิบูลย์เวศน์ โหราพยากรณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ และการพยากรณ์หุ้น เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 4 เดือนแรกจะมีความผันผวน แต่จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาล และเปิดรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุน และผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 900 จุดได้ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมนี้
“นักลงทุนควรเริ่มทยอยซื้อหุ้นในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.จะได้รับผลตอบแทนที่ดี หลังจากนั้นตลาดหุ้นจะทรงตัวไปอีกประมาณ 3-4 เดือน โดยช่วงเดือน ก.ค.และ ส.ค.จะเป็นช่วงที่รัฐบาลจะมีปัญหาจะมีการปรับรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ไม่ดีออกหาคนเข้ามาทำหน้าที่แทน”
สำหรับหุ้นในตลาดหุ้นไทยนั้น มีสัดส่วนประมาณ 50% เป็นหุ้นที่นิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว อีก 30% เป็นหุ้นที่ดีแต่ขาดการพัฒนา ขณะที่มีเพียง 20% เท่านั้นที่เป็นหุ้นทีดีน่าลงทุน และมีพื้นฐานดี โดยหุ้นที่น่าลงทุน คือ พลังงาน ขณะที่หุ้นอสังหาริมทรัพย์ จะต้องรอซื้อในช่วงเดือน เม.ย.จากที่จะได้ปัจจัยหนุนจากการจัดตั้งรัฐบาล”
ส่วนดวงชะตาของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน มีวาสนาในการดำรงตำแหน่งนายกฯ เพียง 2 ปี เท่านั้น หลังจากที่พ้นจากตำแหน่งก็จะไปเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตการดำรงตำแหน่งของตนเอง ซึ่งจะได้รับความนิยม
นายเจษฎา โลหอุ่นจิตร นักเศรษฐศาสตร์ผู้ศึกษาในโหราศาสตร์สากล เจ้าของนามปากกา ยูเรสโต กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ดาวเมือง ปี 2551 การเมืองจะไม่นิ่งจากแรงกดดันหลายๆ ด้าน แต่จะไม่ถึงเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นปฏิวัติรัฐประหาร หรือฉีกรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะเป็นการยุบสภา หรือปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงครึ่งปีหลัง 2551 และคาดว่า จะเกิดปฏิวัติรัฐประหารในปี 2552
ทั้งนี้ รัฐบาลชุดใหม่ควรจะปฏิรูประบบการปกครองให้เป็นธรรมมากขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างอำนาจในระบบราชการที่สร้างความไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจจะทำให้มีโอกาสรอดพ้นจากวิกฤตไปได้ แต่หากใช้อำนาจที่ได้มาด้วยการช่วยเหลือพวกพ้อง ไม่สนใจบ้านเมือง ก็จะทำให้เกิดความแตกแยกอย่างหนัก จนต้องพ้นจากตำแหน่งในครึ่งปีหลังของปี 2551
สำหรับตลาดหุ้นไทยปีนี้ จากที่ดาวเสาร์มีการโคจรดาวพุธ ซึ่งเป็นดาวครองเรือนที่ 5 ซึ่งเกี่ยวกับการลงทุนนั้นทำให้ตลาดหุ้นไม่ดีเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน แต่จากที่ดาวดังกล่าวโครจรเข้ามาเมื่อปลายปีที่ผ่านมาจึงทำให้ตลาดหุ้นไม่ดีอีก 2 ปี
“แม้ปีนี้ตลาดหุ้นจะไม่ดี แต่ในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้ามีดาวพฤหัสโคจรเข้ามา อาจจะจะช่วยทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นได้ ถึงแม้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนรัฐบาลจะมีปัญหาในเรื่องการยุบสภาก็ตาม”
**ลุ้นเฟดหั่น ด/บ 0.5%
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และถ่านหิน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวดี ประกอบกับมีความชัดเจนในเรื่องสถานการณ์การเมืองทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
“หุ้นกลุ่มพลังงาน ถ่านหิน มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นประมาณ 30-35% แรงซื้อที่เข้ามาจึงทำให้หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ” นายชัย กล่าว
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นวันนี้ (31 ม.ค.) ดัชนีมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ โดยต้องติดตามผลการประชุมพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของเฟด ถ้าหากมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% จากปัจจุบันที่ 3.5% ตามคาดการณ์จะมีผลดันดัชนีปรับเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมถึงราคาน้ำมัน และราคาถ่านหินในตลาดโลกด้วย โดยประเมินแนวรับที่ 750 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 774-775 จุด ขณะที่แนะนำนักลงทุนระยะกลางและระยะยาวให้ถือเงินสด เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน