“หมอลักษณ์” ฟันธง “รบ.สมชาย” ช่วยคลี่คลายปัญหาได้แค่เพียงระดับหนึ่ง เหตุเพราะมีบารมีสามารถคุยกับ “พันธมิตรฯ” ได้ มั่นใจอยู่ได้ไม่เกิน 3-4 เดือน ก่อนโยนบาป “รธน.” เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ดีจึงต้องแก้ไขด้วยการทำประชาพิจารณ์ อ้างทำนายอายุ “รบ.หมัก” ไม่ผิดพลาด
วานนี้ (25 ก.ย.) นายลักษณ์ เลขานิเทศ โหราศาสตร์ชื่อดัง วิเคราะห์อายุรัฐบาลสมชาย 1 ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมว่า ตามหลักโหราศาสตร์แล้ว ดวงเมืองอยู่ในลักคณาราศีเมษ ที่ผ่านมามีดาวมาทำมุมร้ายกับดวงเมือง คือ ดาวพฤหัสบดี อันหมายถึงระบบตุลาการ กฎหมาย การบริหารราชการ พระสงฆ์ เศรษฐกิจ ตั้งแต่ปี 2549 ดาวพฤหัสฯ โคจรทับดวงเมืองจนเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เช่น รัฐประหาร การกำเนิดของรัฐธรรมนูญฉบับ คมช. การเมืองมีปัญหา บุคคลสำคัญ หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะสิ้นบุญ
“ตอนนี้ดาวพฤหัสฯ โคจรวิปริต หมายความว่าก่อนหน้านั้นโคจรถอยหลัง คือ โคจรช้ากว่าโลก และเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะนั้นดาวพฤหัสฯ โคจรช้ากว่าโลก หากตอนนั้นมีการเลือกนายกฯ จริงก็จะมีปัญหาตามมา แต่ยังดีที่มีการเลื่อนมาเลือกนายกฯ ในวันที่ 16 ก.ย. ก็ถือว่าดีขึ้นตามหลักโหราศาสตร์ และดวงเมือง เพราะตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.เป็นต้นมา ดาวพฤหัสฯ เริ่มโคจรเดินหน้าบ้างแล้ว แม้ยังไม่เสถียรมั่นคงมากนักเพราะเพิ่งเริ่มต้น เท่ากับว่ารัฐบาลเพิ่งเริ่มต้นทำงาน และยังไม่มั่นคงนัก แต่กำลังจะเริ่มคงที่ในช่วงหลังวันออกพรรษา”
นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า หลังวันที่ 4 ธ.ค.และตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป ดาวพฤหัสฯ จะโคจรผ่านราศีธนูไปสู่ราศีมังกรในรอบสิบสองปี และอยู่ในมุมเสื่อมของวงการการเมือง จะทำให้รัฐบาลอ่อนแรงลงไป และอยู่ไม่ยืด โดยมีเหตุมาจากรัฐธรรมนูญนั่นเอง ผลที่ตามมาคือ จะส่งผลต่อนักการเมืองที่ต้องอ่อนแรงลงไปอีก 1 ปี ฉะนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว นายสมชายควรยุบสภา และช่วงนั้นก็น่าจะเสนอการทำประชาพิจารณ์แก้รัฐธรรมนูญไปด้วยกัน เพื่อให้รัฐบาลต่อไปทำงานอย่างไม่มีปัญหา
“ถึงตอนนั้นผมฟันธงว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังอยู่ ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็จะมีปัญหาในการบริหารบ้านเมือง ฉะนั้น ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยวิธีประชาพิจารณ์ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากที่สุด มันถึงจะนำไปสู่การเมืองใหม่ และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งลงได้ หลังจากนั้นคือปี 2551 ดาวพฤหัสฯ จะโคจรวิปริต คือ โคจรถอยหลังอีกครั้ง” นายลักษณ์ กล่าว
นายลักษณ์ กล่าวต่อว่า นายสมชายเกิดในราศีสิงห์ โดยผู้ที่เกิดในราศีนี้จะมีบุคลิกประนีประนอม เด็ดขาด จริงใจ ชัดเจน ไม่กะล่อน เป็นผู้ที่มีบารมี และน่าจะมาคลี่คลายสถานการณ์บ้านเมืองที่ร้อนระอุจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง รวมทั้งภัยธรรมชาติลงไปได้ระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับผู้ใหญ่หลายคนทางการเมือง เช่น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ เป็นต้น
“คนในราศีที่กล่าวมาเหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงนี้ เพราะดาวประจำตัว คือ ดวงอาทิตย์ ซึ่งหลักโหราศาสตร์นั้น ดวงอาทิตย์เป็นมิตรกับครู ซึ่งครูนั้นมีสัญลักษณ์ คือ ดาวพฤหัสฯ ตรงนี้มันจะเป็นคุณกัน ที่ผ่านมาบ้านเมืองมีปัญหา แต่เมื่อนายสมชายเข้ามาทำงาน ปัญหามันก็คลี่คลายไประดับหนึ่ง เท่ากับว่าเกิดปรากฏการณ์ที่ดี ผมทราบว่านายสมชายไปไหว้พระที่วัดสระเกศ และตามตำนานนั้นวัดนี้คือวัดคู่เมือง หากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไปสักการะทำบุญที่วัดนี้จะกระทำการใดๆ ก็สำเร็จ” นายลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามถึงบารมีของนายสมชายจะสามารถทำงานได้นานเท่าใด นายลักษณ์ กล่าวว่า นายสมชายมีบุญบารมีที่จะมาคลี่คลายปัญหาลงไประดับหนึ่ง แต่มันก็มีปัญหาตามมาในการทำงาน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้นั้น ไม่ว่าใครขึ้นมาบริหารประเทศก็ต้องมีปัญหา เพราะฤทธิ์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่เกิดในช่วงเวลาที่ไม่ดี ฉะนั้นควรแก้ไข ส่วนอายุของรัฐบาลชุดนี้ ขอฟันธงว่าจะอยู่ไม่ยืด คืออยู่ได้เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น
ส่วนนายสมชายจะคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองกับกลุ่มพันธมิตรฯ ได้สำเร็จหรือไม่นั้น นายลักษณ์ กล่าวว่า ดูตามดวงชะตาแล้ว นายสมชายมีบารมีในการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งน่าจะทำเรื่องร้อนให้เย็นลงได้ และสถานการณ์จะคลี่คลายลงไประดับหนึ่งจนถึงเดือน ธ.ค.นี้ หมายความว่า นายสมชาย จะคลี่คลายปัญหาได้ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ กลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะกลับมามีกำลังอีกครั้ง เพราะช่วงนี้หากกลุ่มพันธมิตรฯ ขยับทำการใดๆ ก็จะมีปัญหา และสังคมไม่ยอมรับ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยทำนายว่ารัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช จะอยู่ได้นานแต่ทำไมเหตุการณ์ไม่ตรงคำทำนาย นายลักษณ์ กล่าวว่า ตนเคยพูดว่ารัฐบาลนายสมัครอยู่ได้ถึงหนึ่งปีก็ถือว่าบุญแล้ว