เมืองไทย 360 องศา

ตามรายงานระบุว่า ในวันพฤหัสบดี ที่ 3 ตุลาคมนี้ สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมและรับทราบรายงานของของ คณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม

แม้ว่าจะใส่เกียร์ถอยกรูดกันไปแล้วสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่มีความหมายเข้าใจกันว่ามีเจตนาเน้นในเรื่องการลดมาตรฐานจริยธรรมของนักการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่หากพิจารณาถึงผลที่ตามมาก็ต้องบอกว่าพรรคเพื่อไทยมีความ

เรียกว่ามาเป็นระลอก ต่อเนื่องกันแบบไม่พัก ทั้งเรื่องการทดสอบภาวะผู้นำ สติปัญญา ความพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำประเทศของนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขณะเดียวกันเธอก็ “พลาด” แบบต่อเนื่อง

กลายเป็นว่า เวลานี้การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาททั่วประเทศ ที่เดิมมีการประกาศให้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ หรืออีกไม่กี่วันข้างหน้า มีอันต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด และมีแนวโน้มว่าน่าจะล้มเหลวตามเคย

หากพิจารณาสภาพของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเวลานี้ แทบไม่เหลือภาพของ “พยัคฆ์บูรพา”เลย เพราะกำลังถูกฝ่ายตรงข้ามไล่ต้อนไปจนแทบจะติดมุมแล้ว ขณะที่มือไม้ หรือลูกสมุนที่เคยมี หลายคนเริ่มตีจาก ที่เหลืออยู

มีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า นโยบายเติมเงินหนึ่งหมื่นบาทผ่าน “ดิจิทัล วอลเล็ต” ที่เป็นนโยบาย “เรือธง” ของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยมาถึงตอนนี้ น่าจะมีการแจกแค่ครั้งเดียว โดยแจกให้กับ “กลุ่มเปราะบาง”

ผลการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ความจริงทางการเมืองออกมาให้เห็นหลายอย่าง ซึ่งมีผลต่อพรรคประชาชน หรือพรรคก้าวไกลเดิมได้อย่างดีว่า พวกเขาจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหน

แม้ว่ายังเป็นช่วงเริ่มต้นของรัฐบาลที่นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาผ่านมาเพียงไม่กี่วัน อีกทั้งเพิ่งเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาไปเพียง 2-3 วันเท่านั้น

จากคำพูดล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กันยายน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า นโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ในเฟสที่สอง จะแจกเป็นเงินสด