xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้นำองค์กรเฝ้าระวังซ้อมทรมาน” ร่อนบันทึกจากอเมริกา เผยกลับถึงไทยคนแรกที่อยากพบคือ “แม่ทัพภาค 4”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพจากเฟซบุ๊ก Pornpen Khongkachonkiet
 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ‘ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม’ เขียนบันทึกระหว่างศึกษาดูงานที่อเมริกา ระบุ “คิดถึงบ้าน จากเหตุการณ์ผู้ถูกควบคุมตัวสมองบวม” เผยคนแรกที่อยากพบกลับไม่ใช่แม่ แต่เป็น “แม่ทัพภาคที่ 4” ด้านเนื้อหาทั้งสะท้อนปัญหาเรื้อรัง แต่ก็ชี้ทางออกไว้ด้วย
 
วันนี้ (22 ก.ค.) น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังและบันทึกเรื่องราวกรณีการทรมานและการปฏิบัติอันโหดร้ายในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา ได้ให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับคดีความของชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง ได้เขียนบันทึกไว้ที่หน้าวอลล์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า Pornpen Khongkachonkiet เกี่ยวกับกรณีชาวบ้านจาก อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ถูกนำตัวไปสอบในค่ายอิงคยุทธบริหาร แล้วเกิดอาการสมองบวมจนต้องนำตัวส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ซึ่งกำลังเป็นข่าวใหญ่ในเวลานี้ โดยขึ้นข้อความเชิงพาดหัวความว่า “คิดถึงบ้าน จากเหตุการณ์ผู้ถูกควบคุมตัวสมองบวม บันทึก 21 ก.ค.2019” ตามด้วยรายละเอียดดังนี้
 
วันนี้เดินทางมาใกล้ ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมในดีซีมาสนามบินหนึ่ง ชม. มาใช้เวลารักษาความปลอดภัยกันอีกกว่าสองชั่วโมง ขึ้นเครื่องบินมาอีกสี่ชั่วโมง มาถึงรัฐยูทาท์ ที่มีเมืองหลวงชื่อ Salt Lake City ไว้ค่อยเล่าเรื่องประสบการณ์การเดินทางเพื่อการเรียนรู้ต่อ
 
แต่พอต่อเน็ตได้ก็พบว่า มีเหตุการณ์ซ้ำเดิมเกิดขึ้นคือ ถูกจับ ถูกควบคุมตัว สลบ ส่งโรงพยาบาล ไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่เท่าไรแล้วที่ล้มในห้องน้ำ แล้วต้องเข้าโรงพยาบาล ถ้ามีการแถลงฯ จากผู้คุมคนเดิมก็เข้าข่ายว่า จะทำแบบนี้ เป็นระบบหรือไม่
 
อีกข่าวหนึ่งที่เห็นคือ ปะทะเดือดผู้ก่อความไม่สงบอีกเหตุการณ์หนึ่ง ตัวละครที่เล่าเรื่องสองสามเรื่องนี้ก็ซ้ำเดิม วนเวียน เหมือนเราฉายหนังสั้นเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาสิบห้าปีแล้ว ยังไม่ได้ปิดเครื่องฉาย เหมือนไม่เหน็ดไม่เหนื่อย
 
คิดว่าที่ได้รับเชิญมาที่สหรัฐฯ ที่เขาเน้นงานเรื่อง De-radicalisation ก็เพราะเราทำงานเรื่องการต่อต้านและป้องกันการทรมาน รวมทั้งการเยียวยาด้วยร่วมกับเครือข่ายเพื่อนๆ ในพื้นที่ จชต. เน้นเฉพาะกลุ่มผู้ถูกจับ ถูกซ้อมทรมาน ถูกทำให้เสียชีวิติ ถูกบังคับให้สูญหาย ที่เป็นชาวมลายูมุสลิม ทำให้เราไม่ค่อยได้รับการตอนรับจากชาวไทยพุทธเท่าไร เพราะหาว่าเข้าข้างมุสลิม
 
เราได้รับคำยืนยันจากผู้เป็นหัวรุนแรงสุดโต่งสองคน ที่เราได้พบและได้ฟังคำบรรยายจากหญิงอเมริกันหัวรุนแรงชาวผิวขาว (ระดับปฏิบัติการ) และชายผิวขาวชาวอเมริกันนับถืออิสลามที่ประกาศตนว่า เป็น Jihadist (ระดับ Recruitor)
 
ทั้งสองคนพูดคล้ายกันในส่วนหนึ่งว่า การใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากเวลาและแนวคิด (Timing and Ideology) ที่ผสมกันอย่างลงตัว แต่มันต้องมีระบบที่เขาเรียกว่า Eco system ที่เหมาะสมด้วย จึงจะเกิดได้ เราจึงคิดว่าสิ่งที่เราทำกับเพื่อนๆ ในการต่อต้านการทรมาน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Timing and Ideology ไม่สามารถงอกเงยเป็นความคิดสุดโต่งได้
 
เราคิดว่ารัฐไทยก็เป็น Radical และฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงที่ไม่ใช่รัฐในไทยก็เป็น Radical
 
รัฐไทยไม่ยอมกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวัน แต่กลับยอมรับมีการทรมานในค่ายทหารเกิดขึ้นตลอดมา โดยไม่มีการนำคนผิดมาลงโทษ เขาทำทุกอย่างที่ต้องยุติการก่อเหตุรายวัน ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นความสงบฯ การจับกุมควบคุมตัว ปิดล้อมตรวจค้นมา 15 ปี เหตุการณ์สูงขึ้นรุนแรงขึ้นในช่วงหลัง 9/11 ปีสองปีนี้เหตุการณ์มีน้อยลงตามเทรนด์ของโลกด้วย แต่ก็ไม่สงบเสียที
 
ระบบทำงานที่ยังสั่งสมการใช้ความรุนแรงของรัฐไทยยังคงดำเนินอยู่การไม่ต้องรับผิด การแถลงขอโทษ ข้ออ้างว่าหกล้มในห้องน้ำ ยังคงใช้ได้ผลกับการอ้างต่อสื่อและต่อนายได้อยู่ อีกทั้งเพราะระบบยุติธรรมเราไม่เป็นกลาง เข้าข้างผู้มีอำนาจอยู่เสมอมา
 
ส่วน Timing & Ideology ของฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงที่ไม่ใช่รัฐก็ยังคงอบอวล แม้ดูเหมือนว่าจะมีทางออกมากขึ้นที่การใช้ความรุนแรงน่าจะลดลง เช่นในเรื่องการเจรจาสันติภาพ หรือการเลือกตั้ง การทำงานของภาคประชาสังคม แต่กลับดูเหมือนเดือน ก.ค.2019 ว่า ทางทหารจะยังไม่ยอมปล่อย และสยายปีกอำนาจทำงานแบบเหวี่ยงแหมากขึ้น จึงยังทำให้ Eco system ของฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐยังคงอยู่ ด่านทหารทั่วพื้นที่ยังคงมีความโกรธ เกลียด ความไม่ยุติธรรม ความเศร้าโศก และความเครียดสะสมของกลุ่มคนจำนวนมากรู้สึกและรับรู้ถึงความรุนแรง
 
คำตอบของคำถามว่า เราต้องดูหนังสั้นเรื่องแบบนี้วนไปกันอีกกี่รอบ กี่ปี คำตอบคือ เราต้องสร้างให้เกิด political will ของทั้งสองฝ่ายให้ได้ และสร้างระบบ Eco system แบบใหม่ๆ ที่ทำให้ Timing & Ideology (ที่ไม่พึงประสงค์) นั้นไม่มีโอกาสผสมกันลงตัวเป็นความรุนแรงได้
 
คิดถึงบ้านแล้ว อยากกลับไปสร้าง Eco system ใหม่ คนแรกที่อยากพบกลับไม่ใช่แม่ แต่เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 หวังว่าแม่คงไม่โกรธกัน #ยุติการทรมาน
 
 
อ่านเรื่องเกี่ยวเนื่อง 
 
- “ประธานพูโล” ร่อนแถลงการณ์อัดรัฐไทย กรณีนำชาวบ้านไปสอบในค่ายทหารแล้วเกิดอาการสมองบวมสาหัส

- กล้องวงจรปิดเสียทุกตัว! ทหารยันหลัง ตร.ขอภาพศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธฯ

- ภรรยาขึ้นโรงพักแจ้งความสามีสาหัสจากค่ายทหาร พ่วงให้การถูก จนท.บางหน่วยคุกคามหนักถึงใน รพ.ปัตตานี
 
- ตั้งทหารสอบทหารกรณีชาวบ้านเข้าไอซียูหลังถูกคุมเข้าค่ายที่ปัตตานี หมอชี้ถ้าหายก็ “เจ้าชายนิทรา”
 
- โฆษก กอ.รมน.แจงพร้อมให้ทุกฝ่ายร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุผู้ต้องสงสัยช็อกหมดสติขณะถูกคุมตัว
 
- “ประชาชาติ” กัดไม่ปล่อย จี้นายกฯ สางปัญหาไฟใต้ ตะเพิดให้ออกถ้าทำไม่ได้
 
- "วันนอร์" จี้แม่ทัพภาค 4 ต้องทำให้โปร่งใส หลังชาวบ้านหมดสติจากถูกคุมเข้าค่ายอิงคยุทธฯ ไม่ถึงวัน
 
- กอ.รมน.ภาค 4 แจงกรณี “อับดุลเลาะ อีซอมูซอ” ช็อกหมดสติระหว่างถูกควบคุมตัวในค่าย
 
- แม่ทัพภาค 4 รุดเยี่ยมผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่ รพ.ปัตตานี ยันเตรียมตั้งกรรมการสอบ
 
- ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงหมดสติเข้ารักษาตัวห้องไอซียู รพ.ปัตตานี หลังถูกคุมตัวเข้าค่ายทหาร
 


กำลังโหลดความคิดเห็น