บทความโดย แพทย์หญิง วารีรัตน์ โขมศิริ ผู้บริหาร นีโอเลเซอร์ คลินิก และผู้บริหาร บริษัท อินโนเวทีฟ เฮลท์ จำกัด |
ข้าวและควินัว คือ 2 สุดยอดอาหารที่ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติว่าเป็นอาหารของมวลมนุษยชาติในปี 2004 และปี 2013 ตามลำดับ
โดยทั้งข้าวและควินัวถูกมองว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง อีกทั้งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถเพาะปลูกได้อย่างแพร่หลาย จนทำให้องค์การสหประชาชาติเห็นว่า การส่งเสริมการบริโภคข้าวและควินัวจะช่วยลดปัญหาด้านโภชนาการและความอดยากของผู้คนบนโลกของเรา
แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องฮือฮา จนทำให้กิดการเปรียบเทียบประโยชน์ของข้าวและควินัวอย่างแพร่หลาย เพราะผู้นำมาเลเซียให้สัมภาษณ์ว่า ตนเลิกทานข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักแบบเดิมของชาวมาเลเซีย แล้วหันไปบริโภคธัญพืชอย่าง “ควินัว” แทน เพราะรู้สึกว่า “ควินัวดีกว่าข้าว” เนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลน้อยกว่า
ดังนั้น วันนี้ หมอจะพาไปทำความเข้าใจกันค่ะว่า เพราะอะไร? นายกรัฐมนตรีมาเลเซียถึงได้เปลี่ยนใจไปทานควินัวเเทนข้าว
โดยทั่วไป ทั้งควินัวและข้าวไม่ขัดสี ถูกเรียกว่าเป็น “โฮลเกรน” และให้คุณประโยชน์ที่ดีต่อสขุภาพในด้านคุณค่าอาหาร อย่างไรก็ตาม ทั้งควินัวและข้าวก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันในด้านขององค์ประกอบวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งให้โภชนาการที่แตกต่าง ต่อร่างกาย มากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่ละประเภท
คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจดูว่าควินัวเป็นสิ่งใหม่ไกลตัว แต่จริงๆ ควินัวมีวิธีหุงและปรงุสุกไม่แตกต่างจากข้าว เพราะใช้อัตราส่วนของน้ำและวิธีหุงเช่นเดียวกับข้าว นอกจากวิธีการปรุงสุกที่ไม่แตกต่างกัน พลังงานที่ได้รับจากการ บริโภค ทั้งควินัวและข้าวก็แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย กล่าวคือ ควินัวและข้าวหุกสุก ½ ถ้วย ให้พลังงาน 111 กิโลแคลอรี่ และ 109 กิโลแคลอรี่ ตามลำดับ แต่มีจุดแตกต่างก็คือ ควินัวให้คาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่าข้าว 20 กรัม แต่ข้าวให้คารโบไฮเดรตถึง 22 กรัม จึงทำให้ดูคล้ายว่า ควินัวจะได้เปรียบในเรื่องของค่าน้ำตาลที่ร่างกายจะนำไปใช้จากการเปลี่ยนแปลงปริมาณคาร์โบไฮเดรต
นอกจากความสำคัญในเรื่องพลังงานและคาร์โบไฮเดรตแล้ว จากการศึกษาข้อมูลโภชนาการทางด้านสารอาหารหลัก พบว่า ควินัวอาจจะเป็นอาหารทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคมากกว่าข้าวไม่ขัดสี เพราะควินัวให้ไฟเบอร์และโปรตีนที่มากกว่า โดยการบริโภคควินัว 1 ถ้วย ให้โปรตีน 8 กรัม และไฟเบอร์ 5 กรัม ในขณะที่ข้าวไม่ขัดสีให้คุณค่าโปรตีนเพียง 5 กรัม และให้ไฟเบอร์แค่ 4 กรัม
ยิ่งกว่านั้น ในด้านคุณค่าของสารอาหาร รองจากพวกแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ
แร่ธาตุจากควินัวดูจะมีคุณค่ามากกว่าข้าวพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น ข้าวสาลีปริมาณ 100 กรัม จะพบแคลเซี่ยมเพียง 50.3 มิลลิกรัม แต่ในควินัวจะมีสูงถึง 148.7 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังแมกนเซียมและเหล็ก ที่ช่วยเสริมสร้างทั้งกระดูกและเม็ดเลือดแดงที่มากกว่า โดยครึ่งถ้วยของควินัวหงุสุก ให้แมกนีเซียมสูงถึง 59 มิลลิกรัม ในขณะที่ข้าวไม่ขัดสีให้เพียง 42 มิลลิกรัม
นอกจากนั้น ควินัวก็มีธาตุเหล็กมากกว่าข้าวไม่ขัดสีถึง 3 เท่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวิตามินนั้น แม้ควินัวและข้าวไม่ขัดสีจะมีวิตามินบีเช่นเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกันก็คือชนิดของวิตามินบที่ได้รับ โดยควินัวนั้นให้โฟเลทสูงและช่วยในเรื่องดีเอ็นเอและสมอง รวมทั้งสารสื่อประสาท ส่วนข้าวไม่ขัดสีจะให้คุณค่าทางด้านวิตามินบี 3ไนอะซินมากกว่า ซึ่งมีประโยชนเรื่องช่วยการไหลเวียนของเลือด และความชุ่มชื้นของผิว
จากการเปรียบเทียบเฉพาะคุณค่าทางสารอาหาร ก็อาจกล่าวได้ว่าควินัวเหมาะสมกับการบริโภค ไม่แพ้ข้าวไม่ขัดสี และควินัวก็เหมาะสมทั้งกับเด็ก สตรี และคนชรา เนื่องจากเพราะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนา สมอง เซลล์ กระดูก และลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก และโฟเลท
(ขอบคุณภาพจาก Swizer)