เมื่อประชาธิปไตยกลายเป็น “อาวุธแห่งการทำลายล้าง”

เป็นไงทั่น!!!...เล่นเอา “อึ้ง-ทึ่ง-เสียว” ถึงขั้นขนหัวลุก ขนคอตั้ง กันเลยหรือไม่? เพียงใด? สำหรับผลการเลือกตั้งบ้านเราเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะขนาดผู้กินน้ำตาลเป็นอาหารหลัก อย่างคุณพี่ “สุนันท์ ศรีจันทรา” ท่านยังอดไม่ได้ที่ต้องหลุดปากไว้ในคอลัมน์ “ชุมชนคนหุ้น” เมื่อวันอังคารที่ 16 พ.ค.ถึงขั้นว่า “หุ้นพังยับ...รับก้าวไกลชนะ” เอาเลยถึงขั้นนั้นหรือถึงกับส่งผลให้ดัชนีซื้อ-ขายหุ้นเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ 15 พ.ค. ปักหัวดิ่งระเนนระนาดลงไปถึง 19.97 จุดเอาเลย...ว่าซั่น!!!

แต่เอาเป็นว่า...ปิดท้ายสัปดาห์นี้ คงต้องขออนุญาตชวนไปดู “เลือกตั้งตุรกี-ตุรเคีย” ที่ได้ฤกษ์ ได้เวลาเลือกวันเดียวกันกับบ้านเราเป็นประเดิมเริ่มต้นไว้ก่อนก็แล้วกัน เพราะนั่น...ก็น่าจะขนหัวลุก ขนคอตั้ง ไม่น้อยไปกว่ากัน เหมือนอย่างที่รัฐมนตรีมหาดไทยประเทศไก่งวง “นายSuleyman Soylu” ถึงกับต้องออกมาพูดจาปราศรัย ในระหว่างช่วงเลือกตั้งถึง “การก่อการร้ายทางวัฒนธรรม” อันอาจส่งผลให้ประเทศตุรเคียต้องเผชิญกับ “การทำลายโครงสร้างครอบครัว ศีลธรรม อารยธรรม ทำลายประวัติศาสตร์ ศาสนา ค่านิยมประเพณี ไปจนถึงสิ่งที่พ่อๆ แม่ๆ ของเราเคยสอนเอาไว้” เอาเลยถึงขั้นนั้น โดยเฉพาะ ถ้าหากผู้นำคนปัจจุบันอย่างคุณลุง “แอร์โดกัน” หรือ “โดอัน” (Recep Tayyip Erdogan) อะไรประมาณนั้น เกิดไม่มีสิทธิ์ “ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ” เหมือนอย่างคุณลุง “บิ๊กตู่” บ้านเรา ที่น่าจะไปแล้ว-ไปเลย-ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี เพราะบรรดาพวกเด็กๆ ส้มๆ แดงๆ ที่ชอบยุ ชอบเชียร์ ให้ใครต่อใครเลิกเคารพพ่อๆ แม่ๆ เลิกนับถือครูบาอาจารย์ ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรทำนองนั้น ช่างมาแรง-แซงโค้งเสียเหลือเกิน...

แต่อย่างที่พอทราบๆ ไปแล้วนั่นแหละว่า...เลือกตั้งตุรเคียช่วงวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มันยังไม่ถึงกับ “แพ้ขาด-ชนะขาด” หรือยังไม่มีฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด ชนะกันเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ออกมา “เขย่าประชาธิปไตยในมือของท่าน” โดยสำหรับคุณลุง “แอร์โดอัน” แห่งพรรค “AKP” หรือ “The Justice and Development Party” ท่านได้คะแนนเพียงแค่ 49.24 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง หรือจากจำนวนผู้ออกเสียงประมาณ 26 ล้านเสียง ขณะที่คู่แข่ง คู่ชิง อย่างคุณปู่ “คิลิคดาโรกลู” (Kemal Kilicdaroglu) แห่งพรรค “CHP” หรือ “The Republican People’s Party” ตามมาหายใจรดต้นคออยู่ที่ประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ หรือจากจำนวนผู้ออกเสียง 23.8 ล้านเสียง ดังนั้น...เลยต้องมีการ “ตัดเชือก” รอบ 2 ในช่วงอาทิตย์โน้น หรืออาทิตย์ที่ 28 พ.ค.ตามระเบียบกฎเกณฑ์ของประเทศไก่งวงเขา...

โดยที่ “ชัยชนะ” หรือ “ความพ่ายแพ้” ของคู่แข่ง-คู่ชิงในการเลือกตั้งตุรเคียราวนี้ เผลอๆ...อาจหนักหนา-สาหัสกว่าบ้านเราไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า หรืออาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทาง “ภูมิรัฐศาสตร์” แห่งการเผชิญหน้า ระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก ระหว่างพวก “โลกขั้วเดียว” กับพวก “โลกหลายขั้ว” เอาเลยก็ไม่แน่!!! หรืออาจส่งผลให้ประเทศตุรเคียต้องตีลังกากลับ หันไปฝักใฝ่อเมริกา ฝักใฝ่ยุโรป แทนที่เคยเอียงบ่า เอียงไหล่ หันมาทางจีน ทางรัสเซีย อันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง “ดุลอำนาจ” ในระดับภูมิภาค หรือระดับโลก เอาเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในฐานะที่ประเทศนี้ถือเป็นหนึ่งในสมาชิก “นาโต” ที่กำลังพยายามขยายขอบเขตอำนาจ อิทธิพล ไม่ใช่แค่ในยุโรป หรือยุโรปตะวันออกเท่านั้น แต่ยังถึงกับคิดมาตั้งแฟรนไชส์แถวๆ ญี่ปุ่น หรือแถวๆ ภูมิภาคเอเชียใกล้ๆ บ้านเรากันซะอีกต่างหาก...

เพราะคู่แข่ง-คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างคุณปู่ “คิลิคดาโรกลู” ท่านก็ป่าวประกาศเอาไว้ชัด ว่าท่านกำลังคิดที่จะเตรียมปรับปรุงสัมพันธภาพที่เสื่อมโทรมลงไปกับ “นาโต” คิดที่จะกลับเข้าไปขอเป็นหนึ่งในสมาชิกชาติ “อียู” ที่ยังคงคาราคาซังอยู่จนทุกวันนี้ โดยพร้อมที่จะส่งเสริมให้เกิดการปฏิรูประบบยุติธรรม สิทธิมนุษยชน ตามมาตรฐานอียู หรือมาตรฐานตะวันตก อันส่งผลให้บรรดา “สื่อตะวันตก” ทั้งหลาย ไม่ว่า “The Economist”, “Der Spiegel” หรือ “Le Point” ฯลฯ ออกมายุ ออกมาเชียร์ กันสนั่นหวั่นไหว โดยเฉพาะ “The Economist” นั้น ถึงขั้นป่าวป้องร้องตะโกนในข้อเขียน บทความ ว่า “Erdogan must go” หรือ “Save Democracy” เสือกไสไล่ส่งให้คุณลุง “แอร์โดอัน” ต้อง...ไสหัวออกไป เพื่อดำรง รักษา ความเป็นประชาธิปไตยตามมาตรฐานตะวันตก เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

ดังนั้น...คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บรรดาพวกรวมทาสสร้างชัย (ประทานโทษ) รวมไทยสร้างชาติ อย่างรัฐมนตรีมหาดไทยคุณลุง “Suleyman Soylu” ท่านถึงกับฟันธง-ฟันเฟิร์มแบบคล้ายๆ การปราศรัยของคุณลุง “ไซรรงค์(ไตรรงค์)สุวรรณคีรี” บ้านเรา ด้วยข้อกล่าวหาว่าคุณพ่ออเมริกานั่นแหละ ที่พยายามเข้ามา “แทรกแซงการเลือกตั้งในตุรเคียตั้งแต่ต้น” หรือกระทั่งประธานาธิบดี “แอร์โดอัน” ถึงกับออกมาเน้นย้ำในการปราศรัยครั้งสุดท้าย เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 13 พ.ค. ถึงขั้นว่า... “โจ ไบเดน คือผู้มอบคำสั่งให้โค่นล้มแอร์โดอันลงไปให้ได้ ผมรู้เรื่องนี้...และคนของผมทุกคนก็รู้เรื่องนี้” นี่...ชัดๆ จะจะถึงขั้นนั้น หนักซะยิ่งกว่าการออกแถลงการณ์อยากเห็นผลเลือกตั้งประชาธิปไตยในบ้านเรา ของท่านเอกอัครราชทูตอเมริกา “นายโกเดค” หรือ “Robert F. Godec” ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ส่วนฝ่ายตรงข้ามอเมริกา อย่างหมีขาวรัสเซียจะฉวยโอกาสแทรกแซงสร้างภาพปลอม เทปปลอม ข่าวปลอม ฯลฯ อย่างที่คู่แข่ง-คู่ชิงประธานาธิบดี คุณปู่ “คิลิคดาโรกลู” ท่านออกมา “ทวีต” ไว้ในช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมาหรือไม่? เพียงใด? อันนี้โฆษกรัสเซีย “นายDmitry Peskov” เขาก็ออกมาแถลง ชี้แจง ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าไม่มีมูลความจริงใดๆ แม้แต่น้อย หรือใครที่ไปให้ข้อมูลดังกล่าวกับคุณปู่ในเรื่องนี้ ก็คือผู้ขี้หก มดเท็จเท่านั้นเอง...

แต่สรุปเอาเป็นว่า...คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า “การเลือกตั้ง” ตามมาตรฐานประชาธิปไตยแบบตะวันตกนั้นเอาไป-เอามาแล้ว มันสามารถก่อให้เกิด “อัตราเสี่ยง” หรือเป็นอะไรที่ “อันตราย” ไม่น้อยทีเดียว ต่อ “อธิปไตย” ของแต่ละชาติแต่ละประเทศขึ้นมาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะต่อการปรับเปลี่ยน “นโยบาย” สำคัญๆ ที่บรรดาผู้ใช้สิทธิออกเสียงทั้งหลาย อาจไม่ได้ให้ความสนใจ หรือให้ความสำคัญมากมายสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ “อารมณ์-ความรู้สึก” ส่วนตัว หรือแบบเฉพาะหน้าไปตามการไหลไป-ไหลมาของ “กระแส” ทั้งหลาย ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อโลกได้ “แบ่งขั้ว” หรือ “แบ่งข้าง” ยิ่งขึ้นไปเท่าไหร่ บรรดา “อัตราเสี่ยง” หรือ “อันตราย” ในลักษณะดังกล่าว ก็ยิ่งมีแต่จะเพิ่ม...กับ...เพิ่ม ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น!!!

คือไม่ใช่แต่เฉพาะตุรกี-ตุรเคียเท่านั้น ที่ชัยชนะ-ความพ่ายแพ้ของการเลือกตั้ง อาจนำมาซึ่งการแยกขั้ว แยกฝ่ายกันในระดับโลกเอาเลยก็ว่าได้ แม้แต่ในบรรดาประเทศยุโรปทั้งหลาย ที่ถือเป็น “แม่แบบประชาธิปไตย” ก็เถอะ การปฏิเสธอำนาจอธิปไตยของปวงชน โดยบรรดา “รัฐบาลเสรีนิยม” แต่ละรัฐบาล นับวัน...ก็ปรากฏให้เห็นเป็นที่เด่นชัดยิ่งเข้าไปทุกที ชนิดไม่ว่าสินทรัพย์ของชาวเยอรมันที่ไปร่วมลงทุนกับชาวรัสเซีย อย่างท่อแก๊ส “Nord Stream 1-2” ถูกวางระเบิดทำลายกันเห็นๆ อุตสาหกรรมทั้งระบบของประเทศพังพินาศ ยับเยิน เกิดวิกฤตพลังงาน วิกฤตเงินเฟ้อ จนบรรดาปวงชนชาวเยอรมันต้องออกมาเดินขบวนกันเป็นแถวๆ แต่ก็มิอาจฉุดรั้ง หน่วงเหนี่ยว ให้รัฐบาลของตัวเองเดินตามก้น ยอมเป็น “พรมเช็ดเท้า” ให้กับประมุขโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาได้เลยแม้แต่น้อย อันเนื่องมาจากการแบ่งขั้ว แบ่งฝ่าย แยกข้าง แยกฝ่าย ออกเป็นคนละโลกในตราบเท่าทุกวันนี้ เช่นเดียวกับอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน ฯลฯ และอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ที่บรรดา “ผลประโยชน์แห่งชาติ” หรือ “อธิปไตยของชาติ” ต้องถูกล่วงละเมิด โดยรัฐบาลเสรีนิยมทั้งหลาย ที่พร้อมหันไปยืนข้างคุณพ่ออเมริกา ตามมาตรฐานประชาธิปไตยตะวันตกนั่นแหละเป็นสำคัญ...

สิ่งที่เรียกว่า “ประชาธิปไตย” ...มันเลยไม่ได้เป็นสิ่งที่วิเศษวิเสโสระดับผัวทา-เมียหาย-พ่อตาดม-แม่ยายฟื้น เอาเลยแม้แต่น้อย เผลอๆ...อาจกลายเป็นเพียง “เครื่องมือ” ในการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจ เปลี่ยนภูมิรัฐศาสตร์แห่งการต่อสู้ ยื้อแย่ง แข่งขันของโลกทั้งโลก ที่กำลังถูกแบ่ง ถูกแยก ออกเป็น 2 ข้าง 2 ฝ่ายยิ่งเข้าไปทุกที หรือเป็นอย่างที่คุณพี่จีนท่านตั้งข้อกล่าวหาคุณพ่ออเมริกาเจ้าภาพการประชุม “Summit for Democracy” ถึง 2 ครั้ง 2 หน นั่นแหละว่า...กำลังคิดจะใช้ประชาธิปไตยเป็น “อาวุธแห่งการทำลายล้าง” (Weapon of Mass Destruction) หรือเพื่อยุยงให้เกิดการแตกแยกและการเผชิญหน้าในหมู่มวลชน เพื่อตอบสนองการดำรง รักษา ความเป็น “ประมุขโลก” ให้คงอยู่ต่อไปให้จงได้ ส่วนบ้านเรานั้นสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยจะเป็นไปในแบบไหน ลักษณะไหน ก็คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดาพวกแดงๆ ส้มๆ ทั้งหลาย ที่จะสร้างความขนหัวลุก ขนคอตั้ง ความอึ้ง-ทึ่ง-เสียว ชนิดไปไกลถึงระดับ “ชักศึกเข้าบ้าน” กันเลยหรือไม่? เพียงใด?