ถึงใหญ่ขนาดไหน ก็ต้องถูกปลดออก

นายกฯ อังกฤษปลดหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมอังกฤษออกจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่า เป็นเรื่องราวใหญ่โตที่ไม่เคยเกิดขึ้นในอังกฤษมาก่อน หรือแม้แต่ในที่อื่นๆ ด้วย

จดหมายปลดออกนี้ลงวันที่ 29 มกราคม (ซึ่งเป็นวันอาทิตย์) และเป็นข่าวครึกโครมมากในอังกฤษในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา

หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมนี้ มีประวัติการบริหารบ้านเมืองในตำแหน่งรมต.ภายใต้นายกฯ ถึง 3 คน และเป็นนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งของอังกฤษที่เป็นผู้ริเริ่มร่วมก่อตั้งบริษัทรับทำโพลที่สำคัญของอังกฤษคือ YouGov อันลือลั่น และผลโพลจะมีประเด็นทั้งด้านการตลาด, ด้านสังคม, ด้านเศรษฐกิจ, ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, ด้านการเมือง

เขากลายเป็นอดีตหัวหน้าพรรคอนุรักษฯ ของอังกฤษ ซึ่งหนังสือที่นายกฯ ริชี ซูนัค ที่ได้ประกาศปลดออกจากนั้นได้พูดถึงผลการสอบสวนโดยที่ปรึกษาอิสระ เซอร์ลอรี แมกนัส (ตำแหน่งที่ปรึกษาอิสระของนายกรัฐมนตรีในด้านดูแลผลประโยชน์ทับซ้อนของเหล่ารมต.) ซึ่งตัวอดีตหัวหน้าพรรคก็ได้ตกลงร่วมมือกับการสอบสวนนี้

ผลการสอบสวนได้มาถึงนายกฯ ซูนัค และตัวหัวหน้าพรรคก็ได้รับทราบเช่นกัน

นายกฯ ซูนัคเขียนในจดหมายปลดออกว่า ผลการสอบสวนปรากฏชัดเจนว่า มีการละเมิดจรรยาบรรณการเป็นรมต. (หรือเทียบเท่า) อย่างรุนแรง

ดังนั้น ผม (นายริชี ซูนัค) ซึ่งได้แจ้งให้คุณ (อดีตหัวหน้าพรรค) ทราบแล้วถึงการตัดสินใจของผมที่จะปลดคุณออกจากตำแหน่งในรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Paragraph ต่อไปเป็นคำที่นายกฯ ซูนัคได้กล่าวว่า คุณ (อดีตหัวหน้าพรรค) ควรจะภูมิใจอย่างยิ่งกับความสำเร็จในงานตำแหน่งต่างๆ ที่หลากหลาย ภายใต้รัฐบาลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในงานที่คุณรับผิดชอบจัดหา และอำนวยการโครงการวัคซีนโควิด-19 ทำให้ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤตโควิดมาได้ด้วยดี และช่วยชีวิตคนเป็นจำนวนมาก

ผมและอดีตนายกฯ หลายท่าน (ที่อดีตหัวหน้าพรรคได้ร่วมรัฐบาลในตำแหน่งรมต.หลายกระทรวง) รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับอดีตผู้ลี้ภัยที่เกิดที่อิรักและมาจากชนชาติเชื้อสายเคิร์ด และได้พัฒนาเจริญเติบโตจนได้รับตำแหน่งระดับสูงสุดในรัฐบาลซึ่งเป็นคุณค่าสูงส่งที่ประเทศนี้ได้สร้างขึ้น

นายกฯ ริชี จบท้ายว่า ผมทราบดีว่าจะยังได้รับการสนับสนุนในสภา (จากการเป็น ส.ส.เขตของท่าน) ที่ท่านได้ทุ่มเทมาอย่างสม่ำเสมอ และสุดท้ายได้กล่าวขอบคุณที่ท่านได้ทำงานทุ่มเทให้กับทั้งเขตเลือกตั้งของท่าน และให้กับรัฐบาลทั้งปัจจุบันและที่ผ่านมา

เป็นการเชือดแบบมีดโกนอาบน้ำผึ้งตามสไตล์ของนายกฯ อังกฤษที่ส่วนใหญ่จบมาจากออกซฟอร์ดเช่นนายกฯ ซูนัค

ที่นายกฯ ซูนัคต้องเชือดอดีตหัวหน้าพรรคนาดิม ซาฮาวี (ที่เกิดในดินแดน Kurd (เคิร์ด) ที่ประเทศอิรัก และได้ดิบได้ดีที่อังกฤษ จนได้เป็นรมต.ในรัฐบาลของนายกฯ เดวิด คาเมรอน, เทเรซา เมย์, บอริส จอห์นสัน, ลิซ ทรัสส์ และริชี ซูนัค และได้เคยเป็นรมต.ในหลายๆ กระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงจัดหาวัคซีนและการบริหารการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ

ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษฯ ก็คือรมต.ว่าการกระทรวงการคลัง ในปลายสมัยของบอริส จอห์นสัน ในขณะที่รมต.คลังริชี ซูนัค (รมต.คลังขณะนั้น) ได้ตัดสินใจลาออกเพื่อกดดันให้นายกฯ บอริส จอห์นสัน ลาออก เนื่องจากคดีฉาวโฉ่ที่นายกฯ จอห์นสันได้ละเมิดกฎห้ามจัดงานรื่นเริง และชุมนุมเกิน 4 คนในช่วงล็อกดาวน์ และนายกฯ จอห์นสันได้ร่วมงานฉลองวันเกิดที่คู่หมั้นจัดให้ที่ทำเนียบฯ จนมีแรงกดดันจากเหล่า ส.ส.ของพรรคอนุรักษฯ ที่ไม่ไว้วางใจนายกฯ บอริส จอห์นสัน และกำลังรวบรวมเสียงส่วนใหญ่เพื่อปลดนายกฯ จอห์นสันออกจากตำแหน่ง

นายกฯ ริชี ต้องจำใจปลดหัวหน้าพรรคออก เพราะผลการสอบมันแน่ชัดว่า อดีตรมต.คลังนาดิม ซาฮาวี ได้โกหกหรือปกปิดที่ตัวเขาถูกสอบถามจากสรรพากรตั้งแต่เขาต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน (เมื่อเข้ามาเป็นรมต.สนับสนุนเทเรซา เมย์) และมีหุ้นของบริษัท YouGov ที่เขาทยอยแบ่งขายออก และได้กำไรมากมาย แต่เป็นนิติกรรมอำพรางที่เขาไปทำที่เกาะหลบภาษีโพ้นทะเล และไม่ได้แจ้งถึงธุรกรรมนี้ในใบแสดงหลักฐานในการเข้าเป็นรมต.

เมื่อสื่อได้ทำข่าวเจาะถึงธุรกรรมอำพรางนี้ เขาก็ได้แต่พูดจากลับไปกลับมา โดยเฉพาะเมื่อถูกคณะกรรมการดูแลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของเหล่ารมต.ได้ให้เขาแสดงความโปร่งใส ก็มีการให้การแบบโกหกหลายเรื่อง จนในที่สุด นสพ. The Independent ก็ออกมาชี้เรื่องนี้อีก เมื่อนายกฯ ริชีตั้งเขาเป็นหัวหน้าพรรคในสภา

นายกฯ ริชี จึงต้องตั้งที่ปรึกษาอิสระมาสอบเรื่องนี้ และนำมาสู่การปลดออก เพราะนายกฯ ริชี ได้ประกาศเมื่อเข้ามาเป็นนายกฯ ว่า จะเป็นครม.ที่มีศักดิ์ศรี, บริหารโปร่งใสแบบมืออาชีพ

ซึ่งพรรคแรงงานก็โจมตีนายกฯ ริชีว่า ทำผิดกฎหมายบ่อยๆ เหมือนอยู่เหนือกฎหมาย โดยนายกฯ ริชี เองก็ถูกคดีละเมิดกฎหมายล็อกดาวน์ เพราะไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของนายกฯ บอริส จอห์นสัน ทั้งนายกฯ จอห์นสันและรมต.คลังริชี ซูนัค ถูกปรับจากการทำผิดกฎหมายในครั้งนั้น

เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน นายกฯ ริชี ก็ทำผิดกฎหมายที่นั่งด้านหลังของรถยนต์ แล้วถ่ายวิดีโอทำสตรีมมิ่งขณะรถเคลื่อนที่ เพื่อบรรยายถึงผลสำเร็จนโยบายของเขาที่กำลังทำในโครงการต่างๆ แต่เขาไม่ได้คาดเข็มขัด ก็เลยถูกตำรวจจับและปรับไปเรียบร้อย

พรรคแรงงานกระพือเรื่องนายกฯ พรรคอนุรักษนิยมชอบใช้สองมาตรฐานต่อกฎหมาย โดยที่ประชาชนต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ชาวพรรคอนุรักษฯ จะอยู่ “เหนือ” กฎหมายเสมอๆ!!

และโจมตีว่า นายกฯ ซูนัค ไม่กล้าปลดหัวหน้าพรรคที่ทำผิดกฎหมายช่วงเป็นรมต. โดยเฉพาะในการเป็นรมต.คลัง ได้ยอมทำข้อตกลงจ่ายค่าปรับยอมความกับกรมสรรพากร ในรายได้จากการขายหุ้น YouGov และไม่ยอมจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง

แต่เมื่อรมต.นาดิม ซาฮาวี เป็นรมต.คลัง (ช่วงสั้นๆ ปลายสมัยบอริส จอห์นสัน) ได้ฉวยโอกาสทำสัญญายอมความ ในความผิดหลบเลี่ยงการเสียภาษีโดยจ่ายค่าปรับให้กรมสรรพากรซึ่งนับเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน และนายกฯ ริชี ก็ไม่กล้าปลดออกตั้งแต่ต้น

แต่ซื้อเวลาโดยตั้งกรรมการอิสระมาสอบอีกที

และตัวนายกฯ ริชี ซูนัค เองก็มีเรื่องของภรรยาที่เป็นคนต่างด้าว และใช้รูโหว่ของกฎหมาย ไม่นำเอารายได้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ (จากกิจการ Infosys ที่เธอเป็นทายาทของตระกูลมั่งคั่งนี้) มาจ่ายเป็นภาษีให้แก่อังกฤษ ในขณะที่สามีเป็นรมต.คลัง!

ต่อมาเมื่อริชี เป็นนายกฯ จึงต้องการให้ภรรยานำรายได้ในต่างประเทศมาจ่ายเป็นภาษีให้แก่อังกฤษในที่สุด

การปลดหัวหน้าพรรค (และอดีตรมต.คลัง) ครั้งนี้ แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายที่ต้องใช้เสมอหน้ากัน

ไม่มีคำว่า บกพร่องโดยสุจริตหรือหาเหตุผลจอมปลอมมาแก้ต่างเช่น เปลี่ยนความเร็วของรถ (กรณีคนรวยแบบบอส) หรือเปลี่ยนจากเจ้าหน้าที่ทำผิดในการรีดไถข่มขู่จะรับสินบน กลายเป็นผู้ให้สินบนเป็นฝ่ายผิดเพราะยัดเยียดเสนอสินบนเสียเอง เป็นต้น!!