ใครจะไปนึกว่า ท่ามกลางการต่อสู้ขนาดต้องมอบสละชีวิต เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดและที่ทำมาหากินเพื่อรักษาแผ่นดินไว้ให้แก่ลูกหลาน จะเกิดการโกงกินในหมู่ข้าราชการ, นักการเมือง และนักธุรกิจ
แต่มันได้เกิดขึ้นแล้วอย่างโจ่งครึ่มที่ยูเครน จนในอาทิตย์นี้ปธน.เซเลนสกี้ ก็ต้องประกาศปรับครม.ขนานใหญ่ และถึงกับมีรมต. 4 คนและที่ปรึกษาใกล้ชิดสุดของเขา ผู้ว่าอีก 5 จังหวัด และหน่วยงานต้องรีบเขียนจดหมายลาออก ก่อนที่จะถูกปลดออกนั่นเอง
เป็นข่าวเริ่มจากเสียงซุบซิบในหมู่ผู้สื่อข่าวของยูเครน จนต่อมาก็เป็นข่าวหราอยู่ในหน้านสพ.-คล้องจองกับข้อสังเกตของฝ่ายสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ ที่ต้องการเพิ่มการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้นกับเงินที่ประเทศสหรัฐฯ เจียดจากงบประมาณของตน รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทยอยส่งไปหลายเที่ยวให้กับยูเครน ก็มีข่าวกระเส็นกระสายว่า ขีปนาวุธและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก (อาจถึงครึ่งหนึ่ง) ที่ประเทศสมาชิกนาโตส่งให้รัฐบาลและกองทัพยูเครนนั้น ไปโผล่อยู่กับกองทัพและทหารรัสเซีย!!!
ขณะนี้สภาล่างหรือสภาผู้แทนของสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในมือของพรรครีพับลิกัน ซึ่งทำท่าจะไม่ยอมปล่อยงบช่วยเหลือ ทั้งเงิน+อาวุธที่ให้ยูเครนไปได้ง่ายๆ คล่องคอคล่องมือเหมือนสมัยที่สภาล่างตกอยู่ในมือของเดโมแครต!
โดยรีพับลิกันมีข้อสังเกตว่าที่ไบเดนกระวีกระวาดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนนั้น แม้ส่วนใหญ่เพื่อให้สงครามในยูเครนเป็นการทำให้รัสเซียอ่อนแอลง และน่าจะทำให้ยุโรปอ่อนแอลงด้วย (ที่จะแข่งขันกับสหรัฐฯ)
แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ เรื่องที่ลูกชายฮันเตอร์ของปธน.ไบเดน เคยได้รับประโยชน์ถึงกับนั่งอยู่ในคณะกรรมการใหญ่ของบริษัทพลังงานรัฐวิสาหกิจยักษ์ของยูเครน ซึ่งเขาได้ตำแหน่งนี้มาแม้เขาจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือเก่งกาจอะไรที่จะพลิกฟื้นบริษัทพลังงานแห่งนี้ (หลังเกิดเหตุการณ์จลาจลโค่นปธน.ที่ฝักใฝ่รัสเซีย)
แต่ก็เพราะเขาเป็นลูกชายของรองปธน.ไบเดน (ในขณะนั้น-ช่วงปธน.ของสหรัฐฯ คือ โอบามา) ซึ่งได้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน การจลาจลทางการเมืองเพื่อขับไล่โค่นปธน.ที่สนิทสนมและอยู่ใต้อิทธิพลของมอสโก และเปลี่ยนแปลงรัฐบาล รวมทั้งการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เปิดทางให้ยูเครนสมัครเข้าเป็นสมาชิกของนาโตและอียู
รีพับลิกันโดยเฉพาะปีกของโดนัลด์ ทรัมป์, ปักใจเชื่อว่า ไบเดนมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับการที่สหรัฐฯ ช่วยยูเครนเปลี่ยนแปลงโค่นรัฐบาลเก่า และฮันเตอร์เข้านั่งในบอร์ดของบริษัทรัฐวิสาหกิจพลังงาน ก็เพราะอิทธิพลของพ่อซึ่งเป็นรองปธน.สหรัฐฯ
รมต.และที่ปรึกษาสำคัญๆ ของเซเลนสกี้ที่รีบชิงลาออก หลังมีข่าวหนาหูผ่านทางสื่อของยูเครนเช่น รมช.กลาโหมที่รับประโยชน์ใต้โต๊ะกับการส่งอาหารและอุปกรณ์บางส่วนให้แก่กองทัพยูเครน
เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา หน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชันของยูเครนเปิดเผยว่า กำลังสอบสวนการฉ้อราษฎร์ที่กำลังเกิดขึ้น ภายใต้การดูแลของรมช.กลาโหมผู้นี้
อาทิตย์นี้จะมีการปรับ ครม.ครั้งใหญ่เพราะมีทั้งรมต.และที่ปรึกษาปธน.ที่เป็นข่าวรับเงินใต้โต๊ะเพื่อพิจารณาการจัดซื้อจัดจ้างให้แก่กองทัพ ที่ปรึกษาคนสนิทของเซเลนสกี้ถูกควบคุมตัวโดยคณะกรรมการปราบคอร์รัปชัน ด้วยข้อหารับใต้โต๊ะในการซื้อหม้อปั่นไฟจำนวนมากด้วยราคาสูงลิบเกินจริง
ก็น่าแปลกที่ตัวปธน.เองได้นั่งทับอยู่กับข่าวโกงกินเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศนี้มาเป็นเวลาหลายเดือน เพราะสงครามก็กำลังจะครบรอบ 1 ปีพอดี และยังไม่มีทีท่าจะเปิดโต๊ะเจรจาหยุดยิงอะไรทั้งนั้น มีแต่กำลังยกระดับการต่อสู้ให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น จากที่นาโตจะส่งอาวุธร้ายแรงและทันสมัยยิ่งขึ้นให้แก่ยูเครน เพื่อไปสู้กับรัสเซียที่มีแผนจะบุกใหญ่ในฤดูใบไม้ผลินี้
ในยามสงครามที่เหล่าพ่อแม่ต้องจำใจส่งลูกชาย (และหญิง) ของตนไปรบเพื่อปกป้องเอกราชของชาติ แต่ก็จะมีเหล่านักการเมืองผู้มีอำนาจ หรือรวมทั้งแม่ทัพ (ชั่ว) บางคน ที่สบโอกาสในการโกงกินกับการจัดหาอาวุธที่ไม่มีประสิทธิภาพมาให้ทหารปกป้องชีวิตตนเองก็ยังเอาไม่อยู่ ยิ่งถ้าเป็นเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ก็ยิ่งคล่องคอคล่องมือยิ่งขึ้น สร้างความร่ำรวยแก่นักการเมืองและแม่ทัพนายกองบางคนบนซากกระดูกของเหล่าทหารแนวหน้าที่อาจมีอาวุธไม่ครบ, อาวุธไร้ประสิทธิภาพ, อาหารไม่พอเพียง เป็นต้น
ในสงครามเวียดนามที่ได้เห็น ปธน.โง ดินห์ เดียม ที่สร้างความมั่งคั่งให้ครอบครัวจากการโกงกินงบช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จนลือชื่อของมาดามโงสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเวียดนามขณะนั้น...รวมทั้งนายพลเหงียน เกากี ที่ได้สวาปามงบกองทัพไปมหาศาล...จนในที่สุดเวียดนามก็ “สิ้นชาติ” ตกอยู่ในมือของเวียดนามเหนือ ก็เพราะการคอร์รัปชันหนักมือนี่เอง
รัฐบาลหุ่นของฮามิด คาร์ไซ ที่อัฟกานิสถานก็เป็นอีกตัวอย่างของการคอร์รัปชันงบกองทัพที่ได้มาจากการบริจาคของสหรัฐฯ และนาโต จนวันนี้ตอลิบานได้ทวงคืนประเทศได้สำเร็จ ก็เพราะมีคอร์รัปชันหนักหน่วงจากรัฐบาลคาร์ไซ รวมทั้งรัฐบาลสุดท้ายที่ปธน.รีบบินหนีตอลิบานไปในเฮลิคอปเตอร์นั่นเอง
เซเลนสกี้กำลังพยายาม (ตบตา) ปรับครม.เพื่อให้นาโตมีความเชื่อมั่นว่า รัฐบาล+กองทัพยูเครนจะไม่มีคอร์รัปชันหนักแบบที่ผ่านมา
เพื่อเตรียมรับอาวุธและเงินช่วยเหลือล็อตใหม่ที่กำลังจะเดินทางมาถึงนั่นเอง