เป็นเสียงประกาศดังลั่นในสภาสามัญของอังกฤษ เมื่อนายกฯ จอมพลิ้วบอริส จอห์นสัน ทำใจดีสู้เสือ หลังจากทราบรายงานการสอบการจัดงานเลี้ยงที่ทำเนียบเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ในช่วง 2020 (ที่เป็นช่วงระบาดหนักสุดของอังกฤษ ระลอกแรก และเป็นปีที่ยังไม่ได้มีการค้นพบวัคซีนใดๆ)...และล่วงเลยมาถึงปี 2021 ที่ยังมีการละเมิดกฎการล็อกดาวน์ (ห้ามจัดงานเลี้ยงใดๆ) ที่ทำเนียบรัฐบาล
แต่รายงานการสอบ (ที่จัดทำโดย Sue Gray ข้าราชการพลเรือนอาวุโส ที่เข้ามาทำหน้าที่ประธานสอบแทนเลขาธิการ ครม.Simon Case-เพราะนายไซมอน เคส ได้ลาออกจากประธานการสอบเพราะเขาละเมิดกฎหมายที่ห้ามจัดงานเลี้ยงในช่วงล็อกดาวน์) ก็ถูกฝ่ายผู้บัญชาการตำรวจห้ามนำรายงานส่วนที่ตำรวจเองกำลัง (เพิ่งเริ่ม) สอบ (เรื่องการละเมิดกฎล็อกดาวน์ที่ทำเนียบรัฐบาล) ออกเผยแพร่ เพราะจะเป็นการผิดกฎหมาย...ประหนึ่งว่า นายกฯ บอริส จอห์นสัน ได้เกราะกำบังเพิ่มเติมจากการเข้ามาแทรกแซงจากคำสั่งของสกอตแลนด์ยาร์ดในครั้งนี้ ทำให้รายงานการสอบของนางซู เกรย์ ทั้งฉบับยังไม่ออกมาสู่สายตาของสาธารณชน
รายงานของซู เกรย์ ได้ส่งให้นายกฯ จอห์นสัน แล้วบางส่วน ซึ่งมีสรุปที่เน้นว่า การจัดงานเลี้ยงในช่วง 2 ปี (ที่อังกฤษเข้มงวดกฎและมาตรการป้องกันการระบาด) ที่ทำเนียบเลขที่ 10 มีถึง 16 ครั้ง และยังต้องรอรายงานอีกฉบับของตำรวจที่แยกสอบสวน (ละเอียดกว่าการสอบสวนของซู เกรย์) ว่า นายกฯ จอห์นสัน ได้ร่วมด้วยกี่ครั้ง และนายกฯ ละเมิดกฎหมายหรือไม่?
รายงานของซู เกรย์ ได้สรุปว่า เป็นการขาดผู้นำ (ผู้บังคับบัญชา) ที่ดีที่ทำเนียบ โดยเฉพาะมีการดื่มเหล้าที่ทำเนียบในงานเลี้ยงในช่วงล็อกดาวน์ หรือในช่วงเวลาทำงานที่ไม่เหมาะสม
สำหรับนายกฯ บอริส จอห์นสัน เขาต้องไปตอบกระทู้ในสภาฯ เรื่องการละเมิดกฎหมายที่ทำเนียบช่วงล็อกดาวน์ โดยมีการจัดงานเลี้ยงดื่มเหล้า (ขณะที่ร้านอาหารห้ามขายแอลกอฮอล์ทั่วอังกฤษ)...และเขาได้เตรียมเผชิญหน้ากับคำท้าทายสบประมาทจากหัวหน้าฝ่ายค้านที่ให้เขาลาออก เพราะไม่มีเกียรติศักดิ์ศรีอะไรเหลืออยู่แล้ว ในเมื่อไม่เคารพกฎล็อกดาวน์ที่ตนเองเป็นผู้ออกกฎเอง
ในการตอบกระทู้ทั้ง 2 วันในช่วง 1 สัปดาห์ เขาได้ (เตรียมมาอย่างเจนเวที) กล่าวขอโทษต่อประชาชนที่เขากล่าวว่า เขาเข้าใจดีถึงความรู้สึกโกรธแค้นของประชาชน เมื่อรู้ถึงการ (ลอบ) จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เฮฮาที่ทำเนียบ
แต่เขาหักมุม (หรือกลิ้งกลอก-อย่างชำนาญ) ว่า เขาจะเข้าไปจัดการกับความไร้ระเบียบที่ทำเนียบ เขาบอกว่า “ผมจะแก้ไขให้ดีขึ้นแน่ๆ” (“I Will Fix It”)... แต่ผมจะไม่ลาออก เพราะขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาใหญ่ๆ มากมายรอการแก้ไข...เช่น...เรื่องเงินเฟ้อ ข้าวของราคาสูงขึ้น (เพราะปัญหาคอขาดของวัตถุดิบและสินค้าติดขัดเรื่องการขนส่ง)...รวมทั้งเรื่องการระบาดของโอมิครอน ซึ่งนายกฯ จอห์นสัน ก็รีบผ่อนคลายกฎเข้มต่างๆ จนแทบไม่เหลือกฎอะไรอีกแล้ว...และทำให้ประชาชน (โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ร้านค้าต่างๆ) พอใจมาก...เป็นการหันมาเอาใจประชาชนเพื่อกลบเรื่องที่เขาทำผิดกฎหมายการล็อกดาวน์ถึง 2 ปีเต็ม
นายกฯ จอห์นสัน ยังเบี่ยงเบนที่ถูกกดดันให้เขาลาออก (เพราะละเมิดกฎหมายช่วงล็อกดาวน์) ด้วยการยกเอาเรื่องรัสเซียจะบุกยูเครนมากลบข่าวที่ตนกำลังเพลี่ยงพล้ำในสภาฯ อย่างหนัก
เขารีบกุลีกุจอส่งอาวุธหนักทันสมัยไปช่วยเคียฟ เช่น ขีปนาวุธต่อสู้รถถัง (เจาะรถถังได้) พร้อมครูฝึกจำนวนเป็นร้อยส่งให้รัฐบาลที่เคียฟ และบอกว่าจะต้องรีบเดินทางไปให้กำลังใจ รวมทั้งให้การสนับสนุนต่อ ปธน.ของยูเครนด้วยตัวเอง...โดยหนีออกจากความร้อนแรงของสภาฯ ไปอย่างฉับพลัน...เป็นการเปลี่ยนวาระของชาติ... ที่ตนเองกำลังร่อแร่ที่จะถูก ส.ส.(ในพรรคและในสภาฯ) ขับออกนั่นเอง
ขนาดอดีตนายกฯ หญิง เทเรซา เมย์ ถึงกับเขียนบทความลงในนสพ.ในเขตเลือกตั้งของเธอว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้” ในเรื่องการละเมิดกฎหมายที่ทำเนียบถึง 2 ปีที่ผ่านมา
ในการตอบกระทู้ครั้งที่ 2 ของนายกฯ จอห์นสัน (ก่อนที่เขาจะรีบบินหนีไปเคียฟ) อดีตนายกฯ เมย์ก็ถึงกับลุกขึ้นอภิปรายในสภาฯ กดดันจอห์นสัน เพื่อให้ลาออก เธอได้พูดว่า จะเป็นด้วยเพราะนายกฯ จอห์นสัน ไม่เข้าใจในกฎที่ตนเองประกาศออกมาช่วงล็อกดาวน์ (ที่ห้ามจัดงานเลี้ยง-มีการเลี้ยงด้วยแอลกอฮอล์) หรือไม่นำพาต่อกฎหมายที่ตนเป็นคนออกกฎเอง...เธอถามว่า เป็นเพราะอะไรกันแน่?
ด้วยความกลิ้งกลอกของจอห์นสัน เขาได้พลิกมาเบี่ยงเบนการถูกรุกฆาตในสภาฯ, และคะแนนนิยมที่ลดฮวบจนตามหลังผู้นำฝ่ายค้านถึง 10-12% เขาจึงพลิกบิดเบือนวาระแห่งชาติจากที่กำลังลุ้นกันว่า เขาจะอยู่หรือจะไป?... จะถูกขับออกโดย ส.ส.ในพรรค และ ส.ส.ในสภาฯ-ได้หรือไม่? (ดังที่เคยมีตัวอย่างในอังกฤษเกิดขึ้นกับนายกฯ แทตเชอร์ หรือโทนี แบลร์) เป็นต้น
มาเป็นเรื่องที่รัฐบาลกำลังจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อสูง และเรื่องต่างประเทศที่เขายืนยันว่ารัสเซียกำลังจะบุกยึดยูเครน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการอยู่ดีมีสุขของทั่วยุโรป ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่ออังกฤษด้วย
คงต้องตามกันต่อไปว่า นายกฯ จอห์นสัน จะรอดหรือสามารถจะอยู่ต่อในตำแหน่งได้หรือไม่-หลังจากรายงานการสอบของตำรวจออกมาในอีกไม่ช้า
แต่ครม.ยังอยู่เหนียวแน่นกับจอห์นสัน ซึ่งกำลังถูกท้าทายจากหัวหน้าฝ่ายค้านให้ ส.ส.ในพรรคของจอห์นสันเองออกมาปกป้องรักษาศักดิ์ศรีความน่าเชื่อถือของพรรค และมาตรฐานความน่าเชื่อถือของอังกฤษ (ที่ต้องเคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัด) ด้วยการตีจากจอห์นสัน เพื่อกดดันให้เขาลาออก
การเอาเรื่องต่างประเทศมากลบปัญหาของตนเองจะได้ผลหรือไม่ คงจะปรากฏผลในอีกไม่นานเกินรอ