เหลือเชื่อ-ทรัมป์หารือ จะประกาศกฎอัยการศึก

ตลาดหลักทรัพย์ที่นิวยอร์ก ทั้ง 3 กระดานหลักยังคงเดินหน้าทำลายสถิติวันแล้ววันเล่า ตอบรับต่อข่าว FDA อนุมัติเร่งด่วนให้วัคซีนของบริษัท ไฟเซอร์ สามารถนำมาฉีดป้องกันโรคโควิดในสหรัฐฯ (หลังจากทางการอังกฤษได้ผ่านการอนุมัติตัดหน้าสหรัฐฯ และกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่นำวัคซีนออกมาฉีดให้ประชาชนได้ก่อนใคร)

ตามมาด้วยแคนาดา (นำวัคซีนของไฟเซอร์มาฉีดให้ประชาชนก่อนสหรัฐฯ เช่นกัน) และหลายประเทศในตะวันออกกลาง (เช่น บาห์เรน, ซาอุดีอาระเบีย) และล่าสุดกำลังจะได้อนุมัติจากทางการญี่ปุ่นเพื่อรีบฉีดให้ประชาชน

และยังมีวัคซีนจากประเทศรัสเซีย และจีน ก็ได้เริ่มนำมาฉีดให้ประชาชนประเทศอื่นๆ ที่มีสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งรัสเซีย และจีน

ทรัมป์ได้รีบเขียนทวิตเตอร์ตอกย้ำว่า เขาเป็นผู้ที่ทำให้ตลาดทุนยังทำลายสถิติก็เพราะวัคซีนที่เขามุ่งมั่นในการเร่งรัดเพื่อให้ออกมาหยุดยั้งการระบาดของโควิด และทำให้ตลาดทุนเดินหน้าอย่างน่าพิศวง

จึงมีหลายคนที่ย้อนกลับไปว่า ในช่วง 2-3 เดือนก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้ง เขาได้ออกมากล่าวหาไบเดนว่าเป็นพวกซ้ายจัด, เป็นคอมมิวนิสต์...และถ้าคนอเมริกันเลือกไบเดนเข้ามา จะทำให้ตลาดทุน Crash หรือพังทลายในฉับพลัน

ปรากฏว่า หลังการนับคะแนน 3-4 วันลงคะแนน ปรากฏคะแนนของไบเดนเริ่มนำ และทิ้งห่างคะแนนของทรัมป์มากยิ่งขึ้น-ปรากฏว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 3 กระดานหลัก กลับมีแต่เดินหน้าทำลายสถิติ

ยิ่ง 45 วันหลังวันลงคะแนนเลือกตั้ง ได้มีการลงคะแนนของ Electoral College ทำให้ไบเดนชนะอย่างเป็นทางการ ด้วยคะแนน 306 ขณะที่ทรัมป์ได้แค่ 232 คะแนน

วันนั้นก็เป็นอีกวันที่ตลาดทุนขานรับ โดยทำลายสถิติอีกครั้งหนึ่ง

และท่ามกลางการหมกมุ่นของทรัมป์ที่ยังดันทุรังยืนกรานว่า เขาชนะการเลือกตั้ง แต่ถูกโกงด้วยการเปลี่ยนคะแนนในระบบซอฟต์แวร์ของเครื่องนับคะแนน ให้เอาคะแนนของเขาไปเปลี่ยนเป็นของไบเดนเป็นล้านๆ คะแนน

ในวันที่ศาลสูงสุด (Supreme Court) กำลังจะพิจารณาตามคำร้องของอัยการรัฐเทกซัส (พร้อมๆ กับคำร้องเสริมจากทรัมป์เอง และจาก ส.ส. 126 คนของพรรครีพับลิกัน) ...ได้มีการชุมนุมโดยขบวนการฝ่ายของทรัมป์ ซึ่งขาดเสียไม่ได้คือกลุ่ม Q-Anon, Proud Boys และกลุ่มบูชาคนขาวหลายกลุ่ม ได้ปรากฏกายของพลโทไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงคนแรกของทรัมป์

เขาได้ปราศรัยสนับสนุนผู้ชุมนุม และได้เรียกร้องให้ทรัมป์ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อจัดให้มีการตรวจสอบเครื่องนับคะแนนในรัฐสมรภูมิ และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยเขาเห็นพ้องกับเหล่าผู้ชุมนุมที่หัวปักหัวปำกับทรัมป์ว่า ฝ่ายไบเดนได้โกงคะแนนจากทรัมป์อย่างเป็นระบบ

ต่อมา นายพลไมเคิล ฟลินน์ ได้ไปออกรายการที่สถานี Newsmax ซึ่งเพื่อนสนิทของทรัมป์เป็นเจ้าของสถานี (และสถานีข่าวนี้เป็น 1 ใน 2 สถานีที่ออกข่าวแบบเอียงไปทางสร้างข่าวปลอม, ข่าวเท็จ เพื่อสนับสนุนทรัมป์อย่างออกนอกหน้า...และซึ่งอาจเป็นสถานีที่ทรัมป์กำลังเล็งจะมาเพิ่มทุนเพื่อเข้ามาเป็นเจ้าของ หลังจากเขาหมดหน้าที่ที่ทำเนียบขาว...และเพื่อเริ่มก่อกวนการทำงานของไบเดนตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมทีเดียว)

นายพลฟลินน์ไปพูดที่ Newsmax ในวันพฤหัสฯ ที่แล้ว พอวันศุกร์ที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ได้เรียกประชุมด่วนที่ห้องรูปไข่ โดยมีนายพลฟลินน์เข้าร่วมเสนอความคิดการประกาศกฎอัยการศึก และตามรายงานในหลายสื่อจากผู้เข้าร่วมประชุม ปรากฏมีนางซิดนีย์ พาวเวลล์ ทนายความหญิงชื่อดังก็เข้าร่วมประชุม พร้อมทีมงานของทรัมป์ ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างจะตึงเครียด เพราะทรัมป์ได้ยกตัวอย่างว่า เขาไม่ได้รับการปกป้อง (จากทีมงานของเขา และหลายคนในพรรครีพับลิกันโดยเฉพาะนายมิตช์ แมคคอนเนลล์) อย่างที่ทนายซิดนีย์ พาวเวลล์ ได้ทุ่มเทให้กับเขา เพราะเธอเป็นตัวการที่ได้เริ่มประกาศในที่สาธารณะว่าเครื่องนับคะแนนเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิถูกเจาะระบบหรือมีการตั้งระบบเพื่อโกงคะแนนถึงกับได้ (พูดพลาด) กล่าวหาว่า คนที่คิดร้ายโกงคะแนนทรัมป์ ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายฮูโก ชาเวซ (ซึ่งเขาได้ตายไปนานแล้ว) อดีตผู้นำของเวเนซุเอลา...ตอนนั้นเธอยังอยู่ในทีมทนายความของทรัมป์ ที่มีหัวหน้าทีมคือ อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก.. .นายจูลีอานี...ซึ่งจูลีอานีถึงกับอ้าปากค้าง เพราะการนำฮูโก ชาเวซมาอ้าง ทำให้เหตุผลการโกงคะแนนดูเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะชาเวซไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้ว...จะมาสั่งการให้โกงคะแนนได้อย่างไร...นายจูลีอานีเลยประกาศว่า นางซิดนีย์ ไม่ได้อยู่ในทีมทนายของทรัมป์ แต่เธอทำงานเป็นเอกเทศ

แต่ที่ห้องรูปไข่ในวันศุกร์ ทรัมป์เชิญเธอมา และได้แต่งตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าทีมทนายของเขาแทนจูลีอานี (ซึ่งขณะนี้ติดเชื้อโควิด และต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน)

ซิดนีย์และนายพลไมเคิล ฟลินน์ เรียกร้องให้ทีมของทรัมป์ออกมาปกป้องทุ่มเทให้กับทรัมป์มากกว่าที่เป็นอยู่...เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง เพราะบางคนในทีมของทรัมป์บอกว่า จะยิ่งทำให้ทรัมป์เสียหาย ถ้าประกาศกฎอัยการศึก และมีการติดต่อนายพลหลายคนที่ขอไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และจะไม่ยอมเอากองทัพออกมาเพื่อสอบการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ

ทรัมป์บอกว่า จะแต่งตั้งนางซิดนีย์ พาวเวลล์ เป็นอัยการพิเศษช่วงประกาศกฎอัยการศึก เพื่อเข้าตรวจสอบการโกงการเลือกตั้ง

นายพลฟลินน์ ยกว่า เคยมีประกาศกฎอัยการศึกแล้วถึง 64 ครั้งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ แต่ฝ่ายทหารขอไม่เห็นด้วยกับการประกาศกฎอัยการศึก เพราะคน Electoral College ได้ลงคะแนนแล้ว และผู้ว่าทั้ง 50 รัฐก็ได้เซ็นกำกับการลงคะแนนตามกฎทุกอย่าง รวมทั้งรมต.ยุติธรรม บิล บาร์ ก็ได้ออกมายืนยันว่า ไม่มีการโกงการเลือกตั้ง

ในที่สุด บริษัทที่เป็นเจ้าของเครื่องนับคะแนนก็ออกมาประกาศจะฟ้องนางซิดนีย์ พาวเวลล์ ที่ไปกล่าวในที่สาธารณะว่าเป็นเครื่องที่โกงการเลือกตั้ง

ทรัมป์ได้ออกมาทวีตในวันเสาร์ว่า ไม่มีการประชุมหารือเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก...บอกว่า เป็นข่าวปลอม...ทั้งๆ ที่ผู้ร่วมประชุมบางคนเป็นคนนำเรื่องนี้มาบอกกับสื่อเช่น NYT ด้วยซ้ำ