ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงออกฤทธิ์ออกเดช ในการใช้อำนาจในช่วงเดือนสุดท้ายของการอยู่ในทำเนียบขาวในฐานะผู้นำประเทศ ตราบใดที่ตัวเองยังคงอยู่ก็ยังมีอำนาจทำอะไรก็ได้ที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของประชาชน แต่ตัวเองไม่สนใจ
ผู้นำทำเนียบขาวยังกล้าที่จะให้บรรดาผู้ใกล้ชิดสมุนจงรักภักดีกลุ่มสุดท้ายพิจารณาหาเหตุที่จะให้เจ้านายอยู่ในตำแหน่งให้นานที่สุด ทางเลือกหนึ่งที่ถกกันคือ จะให้ประกาศกฎอัยการศึกให้เลือกตั้งใหม่ใน 5 มลรัฐที่เป็นสมรภูมิของการช่วงชิงอำนาจ
แต่ข้อเสนอนี้ตกไปเพราะดูแล้วคงจะยากและผู้นำทหารคงจะไม่เล่นด้วย
แต่โดนัลด์ ทรัมป์ยังคงหาทางทำอย่างอื่นรวมทั้งปรึกษาหารือกับนักกฎหมาย และคนใกล้ชิดว่าจะมีทางเลือกอื่นอีกหรือไม่ แม้กระทั่งข้อเสนอที่ว่าเมื่อถึงเวลาที่จะต้องออกจากทำเนียบขาวช่วงเที่ยงวันของ 20 มกราคมปีหน้า ถ้ายังเพิกเฉยจะมีใครทำอะไรได้
ช่วงนี้ได้แต่ประกาศอภัยโทษและนิรโทษกรรมให้กับบรรดาสมุนคนใกล้ชิดที่ต้องคดีอาญาในเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องการให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ และหน่วยงานอื่นๆการผิดกฎหมายในคดีต่างๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การดำเนินคดี ทรัมป์หลังจากตกจากอำนาจ
นี่เป็นภาวะที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดสำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะไม่รู้ว่าอะไรรออยู่ แต่ที่แน่ชัดก็คือ คดีอาญาสารพัดเนื่องมาจากการกระทำผิดกฎหมายช่วงการดำรงตำแหน่งและก่อนหน้านี้ในฐานะเป็นนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
รวมทั้งคดีถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนสตรี 4 รายที่น่าหนักใจคือข้อกล่าวหากรณีเลี่ยงภาษีซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สามารถประกาศนิรโทษกรรมให้ตัวเองได้เพราะเป็นคดีระดับมลรัฐไม่ใช่รัฐบาลกลาง
ล่าสุดมีข่าวว่าจะยังประกาศให้ความคุ้มครองเจ้าชายของซาอุดีอาระเบีย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ไม่ให้ถูกฟ้องร้องคดีในศาลของสหรัฐอเมริกาในคดีการสั่งให้สังหารนักหนังสือพิมพ์ และอดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายจารกรรมซึ่งได้เคยทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ
เห็นได้ชัดว่าโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้คำนึงถึงคุณธรรมหรือความถูกต้องของหลักกฎหมายอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องการทำในสิ่งที่ตัวเองมีอำนาจและเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง
ในช่วงเดือนสุดท้ายของการเป็นผู้นำทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้แสดงว่าใส่ใจในการบริหารประเทศ ปล่อยให้มีการระบาดของโคโรนาไวรัสเหมือนอย่างที่เป็นมา
ไม่เร่งให้วัคซีนไปสู่ประชาชน การสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของโจ ไบเดนได้ก็จะเป็นการลดความแค้นส่วนหนึ่งในการพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้ง
ความแค้นชนิดฝังหุ่นยังลามไปถึงความพยายามที่จะหาเรื่องยื้อขอเสนอความช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของโคโรนาไวรัสมูลค่า 9 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยทั้งประชาชนอเมริกันที่ตกงาน และพึ่งความช่วยเหลือจากรัฐในด้านการเงิน
นอกจากนั้นก็ยังมีเงินช่วยเหลือสำหรับธุรกิจต่างๆ ในการจ้างงานซึ่งเป็นเงินพิเศษสำหรับแรงงานที่เหลือผลกระทบจากการระบาดอีกด้วย
มาตรการความช่วยเหลือประชาชนที่ว่างงาน และขาดรายได้กำลังจะสิ้นสุดลงช่วงสิ้นปีนี้ และประชาชนอเมริกันกว่า 12 ล้านคนยังตกงานและขาดรายได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าจะอยู่รอดได้อย่างไรถ้าไม่มีความช่วยเหลือจากรัฐบาล
จำนวนคนยากจนที่มีรายได้ต่ำกว่าระดับที่พออยู่ได้ก็มีจำนวนมากขึ้น มองไม่เห็นอนาคตเพราะไปสมัครงานแล้วไม่มีใครรับ ธุรกิจต่างๆ ก็อยู่ในสภาพย่ำแย่ถูกปิดตัวลงเพราะการระบาดของโคโรนาไวรัส
ความหวังที่เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวได้เร็วยังอยู่ในสภาวะเลือนรางเพราะปัจจัยต่างๆ ไม่เกื้อหนุน ตราบใดที่ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดและให้ธุรกิจทุกระดับดำเนินไปในสภาวะปกติ
สภาวะเศรษฐกิจในทวีปอื่นๆ ก็ยังย่ำแย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปซึ่งการระบาดยังถือว่าเป็นวิกฤตร้ายแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษซึ่งอังกฤษมีการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ ชาติยุโรปห้ามคนเดินทางจากอังกฤษเข้าประเทศ
ดังนั้นสินค้าจำเป็นยารักษาโรค และอาหารที่ส่งเข้าสู่เกาะอังกฤษจึงล่าช้าเพราะต้องผ่านพิธีการคัดกรองอย่างเข้มข้น ขบวนรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ยาวเหยียดบนเส้นทางสู่ท่าเมืองโดเวอร์ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนอังกฤษอย่างมาก
เมื่อสหรัฐฯ และยุโรปอยู่ในสภาวะที่เศรษฐกิจป่วยหนัก ภูมิภาคอื่นก็ต้องได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ความผันผวน ด้านราคาโภคภัณฑ์และสินค้าอื่นๆ จึงไม่สามารถอยู่ภายใต้การกำหนดได้เหมือนในวาระปกติ
ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ต้องรู้สึกเป็นห่วงกังวลและไม่คิดมากว่าสหรัฐอเมริกาจะอยู่ในสภาวะเช่นใด ห่วงแต่อนาคตของตัวเองว่าจะลงเอยอย่างไร
คนอเมริกันส่วนหนึ่งที่ยังเชื่อมั่นในโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังหวังว่าปาฏิหาริย์จะมีจริงที่จะทำให้ผู้นำห้าวอยู่ต่อไปได้ แต่ความเป็นจริงก็คือหนทางคงจะจบสิ้นวันที่ 20 เดือนหน้านี้และคนอเมริกันจะต้องอยู่กับผู้นำคนใหม่และทีมงาน
กว่าจะถึงวันนั้นคงจะคาดเดาได้ยากว่าผู้นำซึ่งถูกมองว่าจิตไม่อยู่ในสภาพปกติจะทำอะไร ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเป็นอยู่ในระดับไหน ผลสุดท้ายประวัติศาสตร์จะต้องจารึกชื่อของโดนัลด์ ทรัมป์ว่าเป็นผู้นำประเภทใดของชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก