ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกประชุมคณะที่ปรึกษาในห้องทำงานรูปไขเมื่อวันศุกร์ (18 ธ.ค.) ในนั้นรวมถึง ซิดนีย์ พาวเวลล์ ทนายความของประธานาธิบดี และ ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ สื่อมวลชนสหรัฐฯรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด พร้อมบรรยายว่าการประชุมเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และบางช่วงได้กลายเป็นศึกวิวาทะอันเผ็ดร้อน หลัง พาวเวลล์ และ ฟลินน์ แนะนำอย่างอุกอาจให้ประกาศอัยการศึกล้มผลการเลือกตั้ง แต่คณะผู้ช่วยของทรัมป์บางคนไม่เห็นด้วยอย่างแรง
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว ฟลินน์ แนะนำว่า ทรัมป์ ควรประกาศอัยการศึก ส่วนหนึ่งในความพยายามล้มผลการเลือกตั้งที่เขาปราศรัยให้แก่ โจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต และแหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่าแนวคิดนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งระหว่างการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ ทั้งนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดนี้หรือไม่ แต่มันถูกคนอื่นๆ ในห้องประชุมโต้แย้งอย่างดุเดือด
บรรดาผู้ช่วยในทำเนียบขาวซึ่งเข้าร่วมการประชุม ในนั้นรวมถึง มาร์ค มีโดว์ หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวและที่ปรึกษา แพท ซิปอลโลน ยังตีกลับอย่างแข็งขันต่อคำแนะนำให้แต่งตั้ง พาวเวลล์ เป็นอัยการพิเศษสำหรับสืบสวนการโกงเลือกตั้ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พาวเวลล์ มุ่งเน้นให้ความสนใจไปที่ทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นานาของเธอเกี่ยวกับเครื่องลงคะแนน และเสนอแนวคิดตั้งอัยการพิเศษเพื่อตรวจสอบเครื่องลงคะแนนเพื่อหาความบกพร่องทั้งหลาย
ส่วนอีกความคิดที่ถูกหยิบยกขึ้นมาระหว่างการประชุมคือการออกคำสั่งพิเศษ ที่จะอนุญาตให้รัฐบาลเข้าถึงเครื่องลงคะแนนเพื่อดำเนินการตรวจสอบเครื่องลงคะแนนเหล่านั้น
บุคคลรายหนึ่งบรรยาภาพฉากของการประชุมว่าดำเนินไปอย่าง “แย่ๆ” ด้วย พาวเวลล์ และ ฟลินน์ กล่าวหาคนอื่นๆกำลังทอดทิ้งประธานาธิบดี ในขณะที่ทรัมป์ยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อล้มผลการเลือกตั้ง “มันเป็นไปอย่างเผ็ดร้อน ผู้เข้าร่วมประชุมถกเถียงกันอย่างดุเดือดในห้องทำงานรูปไข่” แหล่งข่าวระบุ
ไม่นานหลังการประชุม ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้รับบันทึกจากคณะทำงานด้านกฎหมายของทีมหาเสียงในวันเสาร์ (19 ธ.ค.) สั่งให้พวกเขาเก็บรักษาเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับระบบการเลือกตั้งโดมิเนียน (Dominion Voting Systems) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์การลงคะแนนเสียงที่ใช้ใน 28 รัฐ ด้วยคาดหมายว่ามีความเป็นไปได้ที่ พาวเวลล์ จะถูกทางบริษัทฟ้องร้องดำเนินคดี
บันทึกจากคณะทำงานด้านกฎหมายของทีมหาเสียง ได้สั่งทีมหาเสียงอย่าแก้ไข ทำลายหรือทิ้งบันทึกต่างๆที่เกี่ยวข้อง หลังทางบริษัทโดมิเนียน ส่งหนังสือฉบับหนึ่งถึง พาวเวลล์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรียกร้องให้เธอถอนคำกล่าวหาต่อสาธารณะ
ทรัมป์ เคยทวีตข้อความกล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยไม่มีหลักฐานอีกครั้ง โดยระบุว่า ระบบการเลือกตั้งโดมิเนียน มีการลบและเปลี่ยนคะแนนเสียงของทรัมป์ไปเป็นคะแนนของ นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ทำให้นายไบเดนเป็นผู้ชนะเลือกตั้งในรัฐเหล่านั้น
ความแตกแยกอย่างรุนแรงก่อตัวขึ้นภายในทีมหาเสียงของทรัมป์หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง ท่ามกลางความตึงเครียดระดับสูงระหว่าง แมตต์ มอร์แกน ที่ปรึกษาทั่วไปของทีมหาเสียง กับ รูดี กุยเลียนี ทนายความของทรัมป์
ทั้งนี้ แม้ครั้งหนึ่งทีมหาเสียงของทรัมป์ปลีกตัวออกห่างจากพาวเวลล์ แต่ ทรัมป์ เรียกร้องให้คนอื่นๆ ลุกขึ้นสู้อย่างที่เธอทำอยู่ โดยเขาขอให้คนอื่นๆ ออกมาโต้แย้งผลการเลือกตั้งเหมือนกับ พาวเวลล์ ซึ่งบ่อยครั้งกล่าวอ้างอย่างไร้หลกฐานและเต็มไปด้วยทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นานาเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้ง
(ที่มา: ซีเอ็นเอ็น)