xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

RCEP กับชัยชนะขั้นแรกของจีน

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
เปิดฉากสัปดาห์นี้...แบบเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ถึงกับต้องเคร่งเครียด ซีเรียส สักเท่าไหร่นัก เพราะแค่เฉพาะบ้านเราก็มีเรื่องให้ต้อง “บวดหัว” ชนิดยา “บวดหาย” หรือยาใดๆ ก็แทบเอาไม่อยู่ อันเนื่องมาจากพวกเด็กๆ ยุคนี้ สมัยนี้ ออกจะเป็นอะไรที่มาแรงแซงโค้ง น่าหวาดหวั่นขวัญสยอง น่าขนลุกขนพองซะเหลือเกิน...

คือคงต้องชวนให้ลองไปดูปฏิกิริยาท่าที หรืออาจเรียกว่า “ภาษากาย” ของคุณพี่จีนเขาไว้สักหน่อย หลังจากเมื่อช่วงวันอาทิตย์สัปดาห์ที่แล้ว หรือวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่บรรดา 10 ประเทศในอาเซียน บวกกับอีก 5 ชาติในเอเชีย อันประกอบไปด้วยจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ได้ตัดสินใจลงนามอย่างเป็นทางการในการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ภายใต้อาณาบริเวณขอบเขตพื้นที่ที่เรียกแบบสั้นๆ ย่อๆ ว่า “RCEP” หรือ “Regional Comprehensive Partnership Agreement” ไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนจีน หรือโรงเรียนใดๆ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป...

คือถ้าว่ากันตาม “ภาษากาย” หรือตามปฏิกิริยาท่าที ที่พอรับรู้ได้ สัมผัสได้...งานนี้ ต้องเรียกว่า ทางฝ่ายคุณพี่จีนท่านค่อนข้างจะ “พลั่กๆๆ” พอสมควร หรือออกจะ “ออกัสซั่ม” กันไปมิใช่น้อย ไม่ว่าจะจากความคิด ความเห็น ที่สะท้อนออกมาจากสื่อต่างๆ ของทางการ หรือทางส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ไปจนถึงระดับผู้นำอย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” โน่นเลย ล้วนแล้วแต่ออกอาการซี๊ดๆ ซ๊าดๆ ซู๊ดๆ ซ๊าดๆ ไปด้วยกันทั้งสิ้น อย่างเช่นคอลัมนิสต์ “Global Times” “นายWang Jiangyu” ถึงกับถือเป็น “เครื่องหมายแสดงความสิ้นสุด ยุติ แห่งลัทธิครองความเป็นจ้าวของอเมริกา” เอาเลยถึงขั้นนั้น หรือนายกรัฐมนตรีจีน “นายLi Keqiang” ถึงกับสรุปว่า ถือเป็นเครื่องสะท้อน “จิตวิญญาณแห่งเอเชีย” ชนิดขนแขนสแตนด์อัพเอาง่ายๆ หรือถ้าว่าตามคำพูด คำอธิบาย ของผู้อำนวยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์จีน “นายZhang Jianping” ที่ระบุไว้กับ “CCTV” ของจีน ถึงกับอ้างว่า...นี่คือ “Asia Dream” หรือคือ “ความฝันแห่งเอเชีย” ของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ไปถึงขั้นนั้น...ฯลฯ

ไปจนกระทั่งผู้ที่ไม่ใช่คนจีน แต่เป็นฝรั่งล้วนๆ อย่าง “นายDavid Hutt” และ “นายShawn W. Crispin” คอลัมนิสต์ของ “เอเชียไทมส์ ออนไลน์” ถึงกับสรุปไว้ว่า ความร่วมมือใน “RCEP” ของ 15 ประเทศเอเชียคราวนี้ ถือเป็น “รุ่งอรุณของศตวรรษแห่งเอเชีย” (RCEP Trade pact heralds dawn of Asian Century) เอาเลยก็ว่าได้ โดยแม้ว่าบรรดาความคิด ความเห็น เหล่านี้จะก่อให้เกิดความ “ครั่นเนื้อ-ครั่นตัว” สำหรับใครต่อใครอยู่บ้างพอประมาณ แต่ถ้าลองย้อนอดีตกลับไปสัก 2-3 ทศวรรษที่แล้ว ก็คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า การมาถึงวันนี้ มาถึง ณ วินาทีนี้ หรือถึง ณ วินาทีที่เกิดการบรรลุข้อตกลงเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจ “RCEP” อย่างเป็นทางการนั้น “พญามังกร” แห่งประเทศคอมมิวนิสต์อย่างคุณพี่จีน เขาต้องออกเรี่ยว ออกแรง อย่างชนิดน่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง ในการลอดเลื้อย โอบกระหวัดรัดพัน บรรดาประเทศต่างๆ นับเป็นทศวรรษๆ ภายใต้แรงยื้อ แรงเหนี่ยว และแรงจิกของประเทศมหาอำนาจสูงสุดในโลก อย่างคุณพ่ออเมริกา ชนิดเกล็ดร่วง เกล็ดหลุด หวิดๆ จะกลายเป็น “มังกือ” ที่ต้องนอนจมอยู่ “ก้นอ่าว” ไปตลอดปี ตลอดชาติ เอาเลยก็ไม่แน่!!!

พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าดูจาก “ภูมิศาสตร์ทางกายภาพ” แล้ว ประเทศจีนเขาก็เป็นอย่างที่นักข่าว นักหนังสือพิมพ์รุ่นเก๋าชาวอังกฤษ อย่าง “นายTim Marshall” ได้สาธยายไว้ในหนังสือเรื่อง “Prisoners of Geography” ซึ่งเพิ่งตีพิมพ์เผยแพร่ไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วนั่นแหละว่า ด้วยความเป็นประเทศที่เติบโตขึ้นมา “บนบก” โดยตลอด ชนิดต้องลงทุนสร้าง “กำแพงเมืองจีน” เอาไว้ป้องกันภัยคุกคามทางบก จนถือเป็น “ยุทธศาสตร์ชาติ” มาตลอด 4,000-5,000 ปี แต่เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไปสู่พลังอำนาจในทาง “ทะเล” หรือใครก็ตามที่คิดจะเป็น “มหาอำนาจ” มิอาจปฏิเสธศักยภาพ แสนยานุภาพทางทะเลได้โดยเด็ดขาด ประเทศที่ไม่เคยได้คิดสร้าง “กำแพงเมืองจีนทางทะเล” ไว้ด้วยเลย เลยหนีไม่พ้นต้องนอนจมอยู่ “ก้นอ่าว” ต่อไปเรื่อยๆ กลายสภาพเป็น “ยักษ์หลับ” หรือ “มังกรหลับ” มาจนกระทั่งยุคท่านประธาน “เหมา” ก็ยังต้องหลับมั่ง ตื่นมั่ง ไปเป็นระยะๆ...

คือแค่เจอการ “ปิดช่องแคบมะละกา” หรือการจมเรือสินค้าให้กีดขวางทางเดินน้ำแคบๆ ทางด้านใต้ของทะเลจีนใต้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คุณพี่จีน...ก็ตายแล้ว!!! หาทางออก ทางไป แทบไม่เจอ และกว่าที่จะดิ้นรน เถลือกไถล หาทางออก ทางลงทะเลในแถบประเทศพม่า หรือปากีสถาน ตามยุทธศาสตร์ที่ชาวอเมริกันเขาเรียกว่า “สายสร้อยไข่มุก” อะไรทำนองนั้น ก็กินเวลานับเป็นทศวรรษๆ และต้องแลกมากับอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ยิ่งเมื่อเจอกับความพยายาม “ปิดล้อมจีน” อย่างเป็นเรื่อง เป็นราว โดยเฉพาะยุครัฐบาล “โอมาบ้า” ที่คิด “ปักหมุด” ไว้ในเอเชีย (Pivot to Asia) คิดสร้างกองบัญชาการนาวิกโยธินถาวรไกลไปถึงประเทศออสเตรเลียโน่นเลย การเอาชนะปัญหาและอุปสรรคในการ “ปิดล้อมจีน” ของคุณพ่ออเมริกา ที่ถือเป็นมหามิตรของบรรดาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด แถมบางประเทศยังมีกรณีพิพาทในเรื่องดินแดนกับจีนโดยตรง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรือไม่อาจปอกกล้วยเข้าปากได้เลยแม้แต่น้อย...

แต่ก็ด้วยความอดทนและการรอคอยอย่างต่อเนื่องยาวนาน หรืออย่างชนิดความเป็นคอมมิวนิสต์-ไม่เป็นคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่ “ปัญหา” ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว การที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ ตัดสินใจร่วมมือกับอีก 5 ประเทศ อันมีจีนเป็นจุดศูนย์กลาง จนทำให้เกิดเขตความร่วมมือทางการค้า การลงทุน ฯลฯ ชนิดใหญ่ที่สุดในโลก กินอาณาบริเวณอันเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร 1 ใน 3 ของโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติรวมกันถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีโลก จึงอาจถือได้ว่าเป็น “ชัยชนะทางยุทธศาสตร์” ของจีน ต่อยุทธศาสตร์ความมั่นคงของอเมริกา อย่างเห็นได้โดยชัดเจน หรือพูดง่ายๆ ว่า...ความพยายามที่จะ “ปิดล้อมจีน” นับแต่นี้ไป ย่อมเป็นอะไรที่ยากส์ส์ส์เอามากๆ หรือแทบเป็นไปไม่ได้เอาเลยก็ว่าได้ เพราะสิ่งที่คิดจะเอาไว้ปิดล้อมจีน อย่างเช่นข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ “TPP” หรือ “Trans-Pacific Partnership” ที่รัฐบาล “โอมาบ้า” พยายามประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ ดันถูกรัฐบาล “ทรัมป์บ้า” สะบัดตูด ฉีกทิ้งซะดื้อๆ!!! แม้ว่าประธานาธิบดีรายใหม่อย่าง “ผู้เฒ่าโจ” คิดจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีกก็ตาม แต่ในแง่ของช่วงเวลา และรายละเอียดต่างๆ มันคง “สายเกินไป” ซะแล้ว...

หรือถ้าคิดจะโดดเข้าไปร่วมกับข้อตกลง “CPTPP” (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) ที่ประเทศยุ่นปี่ พยายามรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ร่วมกับ 11 ประเทศ แต่ใน 7 ประเทศของกลุ่มก้อนดังกล่าว ก็ล้วนแต่เป็นประเทศ “RCEP” ด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งในแง่ “พลังอำนาจทางเศรษฐกิจ” ขณะนี้ ระหว่างคุณพี่จีนกำลังพุ่งขึ้นๆ กำลังมาแรง แซงโค้ง ในแทบทุกด้าน คุณพ่ออเมริกากลับออกอาการเสื่อมลงๆ ในเกือบจะทุกๆ ด้านอีกด้วยเช่นกัน ดังนั้น...โอกาสปิดล้อมจีน ต่อต้านจีน แข่งขันทางเศรษฐกิจกับจีน หรือในแง่ “พลังอำนาจอย่างอ่อน” แล้ว ต้องถือว่า...คุณพ่ออเมริกา “แพ้ขาด” ไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ด้วยเหตุนี้...จึงไม่ถือเป็นเรื่องแปลกสักเท่าไหร่นัก ที่คุณพี่จีนท่านจะ “พลั่กๆๆ” อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...

แต่ก็นั่นแหละ... “ชัยชนะทางยุทธศาสตร์” ที่อาจถือเป็น “ชัยชนะขั้นแรก” ของคุณพี่จีนต่อมหาอำนาจสูงสุดในโลกอย่างอเมริกา ก็ใช่ว่าจะทำให้ประเทศที่พยายามยืนหยัด ยืนยัน ไม่ยอมให้ใครขึ้นมาเทียบเคียง เทียบไหล่ กับความเป็นผู้นำสูงสุดของอเมริกาโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นพรรครีพับลิกัน หรือเดโมแครตก็ตาม คงไม่คิดจะรามือเอาง่ายๆ อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้เกิด “คำถาม” ต่อรัฐบาลของ “ผู้เฒ่าโจ” ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น ว่าจะเอาไงกันต่อ หลังจากที่หน่วยงานของอเมริกาเองอย่าง “US Chamber of Commerce” ได้ออกมายอมรับสารภาพแล้วว่า “อเมริกากำลังถูกทิ้ง...เพราะ RCEP” และแม้ว่าโดย “คำตอบ” ของชายชรารายนี้ ยังออกไปทางคลุมๆ เครือๆ เช่น ความพยายามร่วมมือกับประเทศพันธมิตรต่อต้านอิทธิพลของจีนต่อไปอย่างมิอาจลดละแต่บรรดา “พันธมิตร” เท่าที่เหลือในมือของคุณพ่ออเมริกา ในแถบเอเชีย-แปซิฟิกช่วงนี้ ก็ดูจะหนักไปทาง “พันธมิตรทางทหาร” ซะเป็นหลักใหญ่ ไม่ว่าพันธมิตรตามแนวทาง “Indo-Pacific Strategy” หรือ “QUAD” ก็ตาม ความพยายามที่จะตอบคำถามทางยุทธศาสตร์เหล่านี้ จึงอาจนำไปสู่บรรยากาศที่หนักหนาสาหัสกว่ายุค “ทรัมป์บ้า” เอาเลยก็ไม่แน่!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น