xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

มืออาชีพ-ประสานการเมืองได้ สเปก “ขุนคลัง”ที่หายาก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สันติ พร้อมพัฒน์ - ไพรินทร์ ชูโชติถาวร


27 วัน ของ "ปรีดี ดาวฉาย" ในตำแหน่งรมว.คลัง เพียงพอจะตอกย้ำให้เห็นว่า ฤทธิ์เดชการเมืองยุคนี้ไม่ธรรมดาสมคำร่ำลือ เหมือนที่มีเสียงเตือนล่วงหน้า

ปัญหาหลักๆ ที่ ปรีดี ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้คือ แนวทางการทำงาน ที่ไม่สามารถเป็นอิสระได้ โดยเฉพาะการต้องเข้าใจบริบททางการเมืองด้วย

อย่างที่รู้กัน แม้ ปรีดี จะเป็นรมว.คลัง แต่ไม่ได้มีอำนาจจริงๆ เพราะสุดท้ายต้องเจอแนวทางการทำงานที่ต้องล้อกับงานการเมือง ที่ในกระทรวงการคลังมีคนชื่อ "สันติ พร้อมพัฒน์" รมช.คลัง อยู่ และคนนอกกระทรวงการคลัง ที่ใหญ่กว่าสันติ คือ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ในทัศนคติของ ปรีดี คือมีแต่เนื้องาน ในขณะที่ฝ่ายการเมือง กระทรวงการคลังควรเป็นกลไกสำคัญที่สามารถนำไปต่อยอดในพื้นที่ได้ รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ

  ปรีดี รู้ว่า ชีวิตของเขาจะไม่มีความสุขแน่หลังจากนี้ เพราะรับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ ดังนั้นจึงรีบถอนตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะนำชื่อมาทิ้งไว้


คนที่ต้องแบกโลกเอาไว้ตอนนี้คือ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพราะรู้ว่าการจะควานหาขุนคลังคนใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย

ลำพัง คนเก่ง ภาพลักษณ์ดีมีมากมาย แต่ปัญหาที่เจอมาตั้งแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือไม่มีใครอยากเป็นรัฐมนตรีในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ หรือต้องมาทำงานกับฝ่ายการเมืองที่ขึ้นชื่อลือชาว่า ร้ายยิ่งกว่ายุคไหนๆ

เป็นรมว.คลัง ที่แทบไม่มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไร เพราะกระทรวงเศรษฐกิจต่างอยู่ในการดูแลของพรรคร่วมรัฐบาล ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐก็ฟังแต่เพียง “บิ๊กป้อม”เท่านั้น

การมาอยู่ตรงนี้ จึงเหมือนมาเป็น “พระอันดับ”เท่านั้น แต่อิสระในการทำงานแทบไม่มี

เมื่อครั้ง"กลุ่ม 4 กุมาร" อยู่ถือว่าหนักแล้ว แต่ยังโชคดีที่มี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี เพราะอย่างน้อยภาคธุรกิจ ตลาดทุน ต่างให้ความเคารพและเชื่อมั่น

ขณะเดียวกัน อย่างน้อย อุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง ยังมีหัวโขนเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังพอรู้จักส.ส. นักการเมือง มากกว่า ปรีดี

แต่ขนาดกลุ่ม 4 กุมาร มีภูมิคุ้นกันพอสมควร ยังไม่สามารถเอาตัวรอดพ้นไปจากกรงเล็บของนักการเมืองเหล่านี้ได้ นับประสาอะไรกับ ปรีดี ที่เป็นนายแบงก์ขนานแท้ ไม่มีกลิ่นการเมืองเจือปน

ต่อให้หลังจากนี้“บิ๊กตู่”จะหว่านล้อมให้ใครเข้ามาเป็นก็คงจะยาก ด้วยปัจจัยเหล่านี้ นี่จึงเป็นโจทย์ที่แสนยากมากที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับการหาตัว “ขุนคลัง” คนใหม่ มาเพื่อกระชากความเชื่อมั่น

สำหรับสเปก รมว.คลังคนใหม่ “บิ๊กตู่”เองก็คงเห็นปัญหาแล้วว่า การให้มืออาชีพมาทำ โดยปราศจากภูมิคุ้มกันจากฝ่ายการเมือง มันทำร้ายคนที่ถูกชักชวนมาแค่ไหน ดังนั้นคนต่อไปจะต้องเป็นคนที่เป็นมืออาชีพ พร้อมกับเข้ากันได้กันวัฒนธรรมแบบการเมืองไทย

แน่นอนว่า สันติ เป็นฝ่ายการเมือง เป็นสายตรง “บิ๊กป้อม”ทำงานอยู่ในกระทรวงการคลังมาปีกว่า และที่สำคัญเขาปรารถนาอยากจะเป็น รมว.คลัง ใจจะขาด เพราะเคยเป็นใหญ่เป็นโตมาก่อน ไม่ค่อยแฮปปี้กับการต้องมานั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่นั่นมันไม่เพียงพอ เพราะชื่อชั้นของ สันติ ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้

ต่อให้ “บิ๊กป้อม”จะสนับสนุนโดยมองมิติทางการเมือง แต่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การผลักดัน สันติ ขึ้นเป็น รมว.คลัง นอกจากจะไม่ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นแล้ว อาจยิ่งเป็นการฉุดให้เลวร้ายลง

แม้จะมีอีกสูตรว่า จะโยกเอา นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน มาเป็นรมช.คลัง ของสันติ แต่ทั้งคู่ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้อยู่ดี

ความร่วมมือกับภาคเอกชน ภาคธุรกิจ อาจจะไม่ราบรื่นเหมือนแต่ก่อน

ทศพร ศิริสัมพันธ์ - ประสงค์ พูนธเนศ
  ขณะที่ ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม ชื่อนี้ “บิ๊กตู่”เองก็หมายตาหมายใจ แต่ฝ่ายการเมืองในพรรคพลังประชารัฐไม่เอา ถึงขั้นขุดบาดแผลเรื่องคดีความในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อครั้งเป็นผู้บริหารพลังงานมาขู่

นี่จึงเป็นโจทย์ที่ “บิ๊กตู่”เองก็ต้องกลับไปคิดเหมือนกันว่า ถ้าเลือกใครคนใดคนหนึ่งที่ในพรรคพลังประชารัฐต่อต้าน อาจจะมีปัญหาเรื่องเสียงโหวตในสภาผู้แทนราษฎรเหมือนกัน และอาจทำให้บุคคลๆ นั้น ฝ่อไม่กล้ามาอีก

ส่วน "กรณ์ จาติกวณิช" อดีต รมว.คลัง แม้ชื่อชั้นจะได้ แต่แน่นอนว่า กรณ์ เป็นคนนอกพรรคพลังประชารัฐ และเป็นอดีตคนประชาธิปัตย์ อาจถูกมองว่า มาคาบชิ้นปลามัน โดยไม่ลงทุนอะไรเลย สุดท้ายจะถูกต่อต้านอยู่ดี

มองไปที่อดีตข้าราชการ ซึ่งเป็นสเปกของ “บิ๊กตู่”ชื่อของ "ทศพร ศิริสัมพันธ์" เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาแรงกว่าใคร โดยติดโผตั้งแต่ ครม.ประยุทธ์ 2/2 แต่สุดท้ายได้บอกกับ “บิ๊กตู่”ว่า ขออยู่จนเกษียณอายุราชการ ซึ่งจะเกษียณในวันที่ 30 กันยายนนี้

ซึ่งก็ประจวบเหมาะพอดีอีกไม่กี่วัน แต่ปัญหาของ ทศพร คือมีความเป็นข้าราชการสูง นักการเมืองหลายคนไม่ชอบ เนื่องจากเป็นผู้กลั่นกรองโครงการต่างๆ ในงบฟื้นฟู 4 แสนล้าน ซึ่งเขาปฏิเสธไปหลายโครงการ การทำงานกับฝ่ายการเมืองก็อาจจะมีปัญหา

อีกคนที่ไม่มีใครเอ่ยถึงคือ "ประสงค์ พูนธเนศ" ปลัดกระทรวงการคลัง ที่กำลังจะเกษียณในสิ้นเดือนนี้เหมือนกัน แน่นอนว่า ชื่อนี้อาจเรียกความเชื่อมั่นอะไรไม่ได้ แต่เป็นคนที่ทำงานกับฝ่ายการเมืองได้ดี มาตั้งแต่ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หากเอาแค่พอขัดตาทัพ ทำงานเป็น ประสานการเมืองได้ ก็มองข้ามชื่อประสงค์ ไม่ได้เหมือนกัน

  ตัวเลือกของ“บิ๊กตู่”มีไม่เยอะ แถมมีข้อจำกัด นึกแล้วปวดหัวแทน


กำลังโหลดความคิดเห็น