เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 จ.ลำปาง แทนที่ อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เสียชีวิต งานกร่อยตั้งแต่ยังไม่หาเสียง หลัง“เจ้าพ่อดอยเงิน” พินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.หลายสมัย และรัฐมนตรีหลายกระทรวง กลับลำไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมแทนลูกชาย
ทำเอาหลายคนงงเป็นไก่ตาแตกกับท่าทีของ “พินิจ”ที่แจ้งเอาตอนโค้งสุดท้าย ซึ่งสายเกินไปที่พรรคเพื่อไทยจะหาผู้สมัครส.ส.มาลงแทน
“พินิจ”อ้างว่า ไม่เคยพูดว่าจะลงสมัครับเลือกตั้งซ่อมแทนลูกชาย มีแต่พรรคเพื่อไทยที่แจ้งว่าให้สิทธิ์แก่ตัวเองในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม
ขณะเดียวกัน ตัวเองไม่พร้อมจะลงรับเลือกตั้งตอนนี้ เพราะยังโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน และประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นมากกว่า
หลายคนในพรรคเพื่อไทย ไม่ปักใจเชื่อ “เจ้าพ่อดอยเงิน”ที่กุมพื้นที่ทางการเมืองใน จ.ลำปาง โซน อ.เกาะคา อ.สบปราบ อ.แม่พริก อ.เสริมงาม และอ.เถิน
เพราะหากไม่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ควรจะแจ้งมาตั้งแต่ทีแรก ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันสุดท้ายของการรับสมัครเลือกตั้งส.ส. ซึ่งแก้ไขอะไรไม่ทัน
การตัดสินใจแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการยกเก้าอี้ ส.ส.ลำปาง เขต 4 ให้กับพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งรองแชมป์เก่าอย่าง“วัฒนา สิทธิวัง”อดีต สจ.ลำปาง (เกาะคา) และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ในเขตนี้ที่แพ้ให้กับ อิทธิรัตน์ เมื่อการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 มาล้างตา
การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 อิทธิรัตน์ ได้ 42,984 คะแนน ขณะที่ วัฒนา ได้ 30,368 คะแนน ซึ่งสำหรับพื้นที่ จ.ลำปาง ที่ถือเป็นพื้นที่สีแดง คะแนนที่วัฒนาแพ้ให้อิทธิรัตน์ถือว่าไม่มาก
และการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ การที่ไม่มีคนของตระกูลจันทรสุรินทร์ ซึ่งครองแชมป์มายาวนาน ประกอบกับพรรคก้าวไกล ไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ทัน เพราะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ที่ต้องเป็นสมาชิกพรรคภายใน 90 ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคนี้เพิ่งก่อตั้งได้ไม่กี่เดือน ทำให้ “วัฒนา”กลายเป็นเต็งหนึ่งทันที
คนของพรรคฝ่ายค้าน ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งได้อันดับ 1 และ 3 จากครั้งก่อน จะเทให้คือ ร.ต.ท. สมบูรณ์ กล้าผจญ ที่ครั้งก่อนได้อันดับ 6 และได้ไปเพียง 2,466 คะแนนเท่านั้น
ว่ากันปอนด์ต่อปอนด์ในเชิงบุคคล “วัฒนา”เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมานาน ทำพื้นที่อยู่ใน อ.เกาะคา ชื่อชั้นเหนือกว่า ร.ต.ท.สมบูรณ์
ส่วนคะแนนเก่าที่ อิทธิรัตน์ เคยได้นั้น เป็นคะแนนความนิยมของตระกูลจันทรสุรินทร์ที่อยู่ในพื้นที่มานาน ไม่สามารถเหมาว่า เป็นคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดได้ ดังนั้น การที่ “เจ้าพ่อดอยเงิน”ประกาศเว้นวรรคการเลือกตั้งซ่อม ทำให้คะแนนตรงนี้หายไป
ซึ่งมีการจับตามองว่า คะแนนของตระกูลจันทรสุรินทร์ จะไหลไปฝั่งไหน เพราะหากวัดกันด้วยกระแสพรรคเพื่อไทยยังแข็งแกร่งใน จ.ลำปาง มากกว่าพรรคพลังประชารัฐหลายขุม แต่หาก“วัฒนา”ได้หัวคะแนนของบ้านใหญ่ไปช่วย ก็ทำให้มีโอกาสลอยลำสูงเหมือนกัน
แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนกังวลว่า จะเป็นในลักษณะดังกล่าว เพราะก่อนหน้าการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 เคยมีข่าวลือหนาหูว่า ตระกูลจันทรสุรินทร์ ตัดสินใจย้ายขั้วไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว
แต่เปลี่ยนใจในตอนท้าย เพราะกระแสในพื้นที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสูง
แต่ครั้งนี้ถือเป็นจังหวะที่ “พินิจ”ไม่ต้องเสียรังวัด หรือถูกนินทาจากประชาชนในพื้นที่ เพราะตัวเองไม่ได้ย้ายมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพียงแต่ไมลงสมัครเท่านั้น
เป็นการหลบหลีกที่ชาญฉลาด ไม่เสียทั้งพื้นที่ และยังได้อานิสงส์ หลังเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า การไม่ลงสมัคร ส.ส.ครั้งนี้ ซึ่งเหมือนการประเคนเก้าอี้ ส.ส.ให้ “วัฒนา”เป็นการแลกเปลี่ยนกับคดีความบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าของพื้นที่และแชมป์เก่าจะจงใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ลำปาง ก็ยังน่าสนใจอยู่ เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งพรรคเพื่อไทยครองมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ไม่มีใครที่จะมาเจาะได้ แม้แต่การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ 2 บ้านใหญ่ คือ “ตระกูลโล่ห์สุนทร” และ “ตระกูลจันทร์สุรินทร์ เหมาไปคนละ 2 เขต
แต่หาก“วัฒนา”ภายใต้การสนับสนุนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคเหนือสามารถเข้าวินได้ จะถือเป็นการ “เจาะไข่แดง”ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคเหนือได้เป็นครั้งที่ 2 หลังจาก “ผู้กองมนัส”สามารถเจาะที่ จ.พะเยา มาแล้วถึง 2 ที่นั่ง
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐบาลสามารถเก็บชัยชนะได้ 100% เต็ม ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.นครปฐม ซึ่ง “เสี่ยเตี้ย” เผดิมชัย สะสมทรัพย์ สามารถทวงแชมป์คืนจากพรรคอนาคตใหม่ได้ หลังเพลี่ยงพล้ำไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562
หรือการเจาะเมืองหลวงคนเสื้อแดงที่ จ.ขอนแก่น ที่ “สมศักดิ์ คุณเงิน”1 ในสมาชิกกลุ่มของ เอกราช ช่างเหลา และ “ผู้กองมนัส”สามารถโค่นแชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทยได้สำเร็จ
และการเลือกตั้งซ่อมครั้งล่าสุดที่ จ.กำแพงเพชร ที่ “เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์”สามารถป้องกันแชมป์ให้กับพ่อ คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีได้สำเร็จ
2 ใน 3 การเลือกตั้งซ่อม เป็นการโค่นแชมป์เก่าจากพรรคฝ่ายค้าน 2 ที่นั่ง เป็นการป้องกันแชมป์ 1 ที่นั่ง ซึ่งการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ ก็หมายมั่นจะเพิ่มเก้าอี้ในสภาฯ ให้ได้
อีกหนึ่งทางอ้อมคือ จะทำให้ กลุ่มของ “ผู้กองมนัส”มี ส.ส.เพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน ซึ่งชักจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ