ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ออกมาแล้ว สำหรับกรอบงบประมาณตามแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 รวมทั้งสิ้น 17,708 ล้านบาท จาก15 กระทรวง 4 หน่วยงานที่ไม่สังกัดกระทรวง 1 หน่วยงานอิสระ รวมทั้งสิ้น 55 หน่วยงาน้อยกว่ากรอบงบปี 2563 จำนวน 18,237.5 ล้านบาท แต่ฝ่ายนิติบัญญัติ อนุมัติงบประมาณเพียง 10,641.9 ล้านบาท ถูกตัดลดลงกว่า 8,000 ล้านบาท ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ออกมาก่อน "การอภิปรายไม่ไว้วางใจ" ต่อเนื่องจากงบบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ปี 2562 และ ย้อนหลังที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ รวมถึงนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ หรือ "ทนายแวยูแฮ" ส.ส.นราธิวาส จากพรรคเดียวกัน จะออกมาอภิปรายฯ โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้งบฯ เป็นหลัก
ทั้งความล้มเหลวการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย 15 ปีใช้งบประมาณกว่า 300,000 ล้านบาท โดยพุ่งเป้าไปที่การจัดสรรงบแผนงานบูรณาการ ซึ่งสามารถโยกย้าย ไม่สามารถตรวจสอบได้ เช่น งบจัดซื้อเรือเหาะ , การจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด TG20 การจัดซื้อเสาไฟโซล่าเซลล์กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งใช้จริงไม่ถึงครึ่งหนึ่งของงบประมาณ และส่วนใหญ่เสียหายจากกำหนดสเปกต่ำ ต้องการซื้อของถูก แล้วได้เงินทอนเยอะ จนชาวบ้านร้องเรียน ทำให้ต้องตั้งงบประมาณใหม่เพื่อแก้ไขปัญหา หรือ โครงการ Safety Zone School ติดตั้งกล้อง CCTV พื้นที่โรงเรียนจังหวัดชายแดนภาคใต้ 443 โรงเรียน งบประมาณ 400 ล้าน โดยกล้อง CCTV 1 ชุด มีกล้อง 6 ตัว ราคาสูงถึง 366,920 บาท ซึ่งตามบ้านใช้งบประมาณแค่ 1 แสนบาทต้นๆ แต่ติดตั้งกล้องได้ถึง 15 ตัว โดยผู้กำหนดและตรวจสเปกเป็นทหาร ไม่ได้เป็นกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ยังเปิดรายงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่เสนอต่อ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งระบุว่า มีเหตุการณ์ปี 2562 เพิ่มขึ้นกว่าปี 2561 กว่าร้อยละ 54.23 แล้วพบว่า กอ.รมน. จัดงบประมาณ 151 ล้านบาท ภายใต้โครงการส่งเสริมและเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้องเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหา ตั้งเป้าล้างสมองเด็กอายุ 1 ถึง 5 ขวบ ให้ลืมอัตลักษณ์ของตัวเอง
กลับมาที่ กรอบงบฯบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจชต. ปี 2564 จำนวน 17,708 ล้านบาท สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อน เจ้าภาพจัดงบฯ คณะที่ 1 (คณะย่อย 1.1) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แจ้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการฯ ให้กับ 55 หน่วยงาน จากที่ตั้งของบประมาณมา 60 หน่วยงาน กำหนดขอบเขต ลำดับแรกกับพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา (จะนะ นาทวี เทพา และ สะบ้าย้อย) ต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยไดัจัดลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย ได้แก่
(1) หมู่บ้านเพ่งเล็ง 412 หมู่บ้าน (2) พื้นที่เสริมสร้างความมั่นคง 76 หมู่บ้าน 14 ตำบล 10 อำเภอ (3) พื้นที่ 8 เมืองหลัก ได้แก่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาอ.เมืองยะลา และ อ.เบตง จ.ยะลา อ.เมืองปัตตานี และ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.เมืองนราธิวาส อ.ตากใบ และ อ.สุไหงโก-สก จ.นราธิวาส (4) พื้นที่ เร่งรัดการพัฒนา 388 หมู่บ้าน 104 ตำบล 17 อำเภอ (5) พื้นที่เสริมสร้างการพัฒนา 1,524 หมู่บ้าน 171 ตำบล 10 อำเภอ (6) พื้นที่เกี่ยวเนื่องจากโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน’'และ (7) พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้
ทีนี้มาดูกรอบงบประมาณดังกล่าว สมช. จำแนกเป็น 2 แนวทาง
1. แนวทางด้านความมั่นคง มุ่งเน้นเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย และขจัดสาเหตุของปัญหา ส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในและนอกพื้นที่ จชต. มีหน่วยงานขอรับงบประมาณ 23 หน่วยงาน รวมกรอบงบประมาณ 7,405.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.82มี 6 โครงการสำคัญ ประกอบด้วย โครงการเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรองและบูรณาการข้อมูลความมั่นคง ในหน่วยงานรับผิดชอบ 9 หน่วยงาน กรอบงบประมาณ 1,113 ล้านบาท โครงการยับยั้งเงินที่สนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย 1 หน่วยงาน ในกรอบ 25.7 ล้านบาท โครงการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 5 หน่วยงาน ในกรอบ 4,563.5 ล้านบาท
โครงการแก้ไขและป้องกันปัญหาภัยแทรกซ้อน 4 หน่วยงาน ในกรอบ 159.38 ล้านบาท โครงการเสริมสร้างความคุ้มกันเพื่อสันติสุขในพื้นที่ จชต. ใน 17 หน่วยงาน ตามกรอบ 1,504.9 ล้านบาท และโครงสร้างการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี ใน 4 หน่วยงาน ตามกรอบ 38.1 ล้านบาท
2. แนวทางด้านการพัฒนา มุ่งดำเนินงานให้ประชาชนในพื้นที่ จชต. พ้นจากความยากจนสามารถพึ่งตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ความเข้าใจเชื่อมั่นการดำเนินงานของรัฐ มีหน่วยงานขอรับงบประมาณ 47 หน่วยงาน รวมกรอบงบประมาณ 10,302.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.18มี 7 โครงการสำคัญ ประกอบด้วย โครงการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคประชาสังคมและนานาชาติ ในหน่วยงานรับผิดชอบ 4 หน่วยงาน กรอบงบประมาณ 138.5 ล้านบาท โครงการสร้างความเข้าใจทั้งในและนอก จชต. ใน 7 หน่วยงาน ในกรอบ 350.7 ล้านบาท โครงการอำนวยความยุติธรรมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ใน 9 หน่วยงาน ในกรอบ 584.7 ล้านบาท
โครงการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยหลักธรรมภิบาล ใน 6 หน่วยงาน ในกรอบ 427.9 ล้านบาท โครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่ จชต. ใน 21 หน่วยงาน ตามกรอบ 5,599.4 ล้านบาท และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมศักยภาพพื้นที่ จชต. ใน 9 หน่วยงาน ตามกรอบ 2,241.6 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณ ปี 2563 ที่เพิ่งบังคับใช้ 18,237.5 ล้านบาท พบว่า ลดลง 529.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม พบว่า มีการยื่นขอตั้งงบฯเพิ่มขึ้น ในโครงการยับยั้งเงินที่สนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย 5 แสนบาท ขอเพิ่มในโครงการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคประชาสังคมและนานาชาติ 48.7 ล้านบาท ขอเพิ่มในโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่ จชต. 428.5 ล้านบาท และ ขอเพิ่มในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมศักยภาพพื้นที่ จชต. 762.5 ล้านบาท
"โดยเป็นการเพิ่มในกรอบงบประมาณด้านการพัฒนา 645.2 ล้านบาท จากงบฯ63 วงเงิน 9,664.2 ล้านบาท เป็น 10,09.4 ล้านบาท และเป็นการตัดลดกรอบงบประมาณในด้านความมั่นคง 1,174.7 ล้านบาท จากงบฯ63 วงเงิน 8,573.3 ล้านบาท เป็น 7,398.5 ล้านบาท"ในด้านความมั่นคง แม้จะพบว่า มีการตั้งงบฯลดลง แต่บางกิจกรรมกลับพบว่า มีการขอตั้งเพิ่มขึ้น เช่น ประเด็นงาน "ข่าวกรองเชิงรุก" เพิ่มขึ้น 107.7 ล้านบาท "พัฒนาประสิทธิภาพข่าวกรอง" เพิ่มขึ้น 13.8 ล้านบาท รวมไปถึงกิจกรรม "เฝ้าระวังและป้องกันแนวคิดหัวรุนแรง" เพิ่มขึ้น 24.4 ล้านบาท
ส่วน"ด้านการพัฒนา" พบว่า มีการขอเพิ่มในกิจกรรมภาคประสังคม 26.1 ล้านบาท ขอเพิ่มในกิจกรรมสร้างความเข้าใจต่อนานาชาติ 22.5 ล้านบาท กิจกรรมนำคนไทยกลับสู่ถิ่นฐานเดิม เพิ่มขึ้น 11.3 ล้านบาท ขอเพิ่มในกิจกรรมเผยแพร่และอบรมหลักสิทธิมนุษยชนรวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง 14.4 ล้านบาท ขอเพิ่มกิจกรรม "แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน" 2.3 ล้านบาท
โดย 55 หน่วยงาน 15 กระทรวง ที่ขอตั้งงบประมาณปี 2564 เรียงจากมากที่สุด เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจัก (กอ.รมน.) สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งของบ 2,640.8 ล้านบาท กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตั้งของบ 2,526.4 ล้านบาท กรมโยธาธิการผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งของบ 2,391.5 ล้านบาท กองทัพบก กระทรวงกลาโหม ขอตั้งงบ 1,280.1 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ตั้งของบ 1,130.7 ล้านบาท
สุดท้าย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตั้งของบ 2,653.9 ล้านบาท.