xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

พรรคร่วมรัฐบาลซื้อส.ส. ช้อปแหลกแลกเก้าอี้รมต.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน ชาญวีรกูล
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - อุปมาอุปไมย เหมือนหมาตาย เห็บกระโดดหนี ไม่กี่วันหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค กรณีกู้เงิน 191 ล้านบาทจากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ส.ส. 65 คน ที่หลงเหลืออยู่ เนื่องจากไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ก็ระส่ำเหมือนผึ้งแตกรัง

แม้แต่ธนาธร และปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรค ยังไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า คนเราจะปันใจเปลี่ยนแปลงกันได้เร็วขนาดนี้เพียงไม่กี่วัน ทั้งที่ทำใจอยู่บ้างว่า คงจะเหลือกันไม่ครบ 65 คนก็ตามในทีแรก

หากแต่ 9 คน ทั้งส.ส.บัญชรายชื่อ และส.ส.แบบแบ่งเขต ที่เพิ่งจะกอดคอกันสู้กับอำนาจรัฐอยู่ด้วยกัน ควงแขนกันย้ายบ้านไปอยู่กับฝ่ายศัตรู อย่างพรรคภูมิใจไทย ของ"เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ทั้งที่น้ำตาจากพิษยุบพรรคยังไม่ทันแห้ง

ขณะเดียวกัน ยังมีแนวโน้มสูงว่าเลือดของอดีตพรรคส้มหวานจะยังไหลต่อเนื่อง ส.ส.ที่เหลือกำลังเนื้อหอม จากการรุมตอม ตามจีบจากพรรคร่วมรัฐบาลชนิดหัวบันไดบ้านไม่แห้ง ค่าขนมแรงตามความต้องการ ล่าสุดเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าทะลุ 25 ล้านบาทไปแล้ว

มีการประเมินว่า สุดท้ายแล้วคนที่จะยังจงรักภักดีกับอดีตพรรคอนาคตใหม่จะอยู่ที่ตัวเลข 40 คน เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เหตุที่ตลาดส.ส.คึกคัก พรรคร่วมรัฐบาลรีบเดินเข้าตลาดส.ส. เพราะกลิ่นการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสที่แต่ละพรรค แต่ละก๊ก ต้องไล่เกณฑ์ไพร่พลเพิ่ม ทั้งเติมตัวเลขส.ส.หน้าตัก เพื่อรักษาเก้าอี้เดิม เติมตัวเลขส.ส.หน้าตักเพื่อเพิ่มโควต้า และเติมตัวเลขส.ส. เพื่อจะได้เป็นเสนาบดี

พรรคภูมิใจไทยของ เสี่ยหนู ดูจะให้ความสำคัญกับการเสริมกำลังมากที่สุด จากการเปิดประตูพรรครับส.ส.แบบไม่อั้น มาเท่าไร รับหมด จนหลายฝ่ายตั้งสังข้อสังเกตว่า ต้องการเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่

แต่ข้อเท็จจริงแล้ว การเพิ่มตัวเลขส.ส.ด้วยวิธีการสูบงูเห่า ของพรรคภูมิใจไทย เป้าหมายสำคัญคือ การเซฟโควต้าเดิมให้อยู่ครบ คือ 7 เก้าอี้ ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรี รมว.คมนาคม รมว.สาธารณสุข รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รมช.ศึกษาธิการ รมช.พาณิชย์ รมช.เกษตรและสหกรณ์

เพราะหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ ปัจจัยทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป เสียงระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ห่างกันกว่า 30 เสียงแล้ว พ้นสภาวะปริ่มน้ำ และการที่เสียงรัฐบาลมากขึ้น จากเด็กเก่าพรรคสีส้ม ทำให้สัดส่วนต่อเก้าอี้รัฐมนตรี ต้องดีดลูกคิดกันใหม่

ไม่ได้หมายความว่ามีมากขึ้น จะได้เพิ่มขึ้น จากเดิม 7 ต่อ 1 ต่อเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ จะขยับไปถึง 14 ต่อ 1 ต่อเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ กันเลยทีเดียว ทำพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพละกำลังต่างรีบกว้านส.ส. จากอดีตพรรคอนาคตใหม่

เช่นเดียวกับบางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้ข่าวจะไม่หวือหวาเท่ากับพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้กวาดต้อนแบบหว่านแห แต่มีการรุกคืบติดต่อและประสานมาเติมบางส่วน เพื่อรักษาโควต้าเอาไว้เช่นเดียวกัน

ชัชวาลล์ คงอุดม
ขณะที่พรรคพลังท้องถิ่นไท ของ "ชัช เตาปูน" ชัชวาลล์ คงอุดม แสดงความประสงค์ชัดว่า ต้องการเก้าอี้ในฝ่ายบริหารมาให้ ชื่นชอบ คงอุดม ลูกชาย หลังของเดิมมีเติมมาได้แล้วเป็น 5 แต่ต้องการระดับสิบกว่าคนขึ้นไป เป็นอีกจุด ที่ทำให้มองเห็นสูตรใหม่

ไหนจะพรรคเศรษฐกิจใหม่ จำนวน 5 คน ที่จะไปเกาะกลุ่มร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อคว้าโควต้า มันจึงทำให้มีการขยับจับจ่ายใช้สอย ส.ส.ทันควันที่ลูกพรรคอนาคตใหม่ กลายเป็นอิสระ

จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีข่าวลือถึงมูลค่าที่สูงปรี๊ด เพราะมันจำเป็นต้องทำ ซึ่งว่ากันตามจริง แม้คณะรัฐมนตรี จะทำงานมาได้ถึง 7 เดือนแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีมรรคผลอะไร เพราะร่าง พระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปีงบประมาณรายจ่าย 2563 เพิ่งจะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร หลังมีปัญหาเรื่องการเสียบบัตร ทำให้ช้ากว่าเดิมไปมาก

ดังนั้น มรรคผลยังไม่เกิด จึงต้องลงทุนลงแรงอีกครั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ในโควต้าเอาไว้ให้แน่นที่สุด ไม่ให้หลุด มิเช่นนั้นในภาษาการเมืองอาจเรียกได้ว่า ขาดทุนอย่างแรง

จับตาเลยว่า ประเด็นการดูด ส.ส. จะเข้มข้นกว่านี้ อันจะทำให้ผลประโยชน์ที่แลกต่อการย้ายซบสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกฝ่ายต่างต้องการหลักประกัน และนั่นอาจทำให้แกนนำรัฐบาลต้องปวดหัวในการจัดคณะรัฐมนตรีครั้งหน้า

อาจถึงขั้นว่าจบฤดูกาลโยกย้ายแล้ว ลงตัวหมด อาจต้องเรียกหน้าตักของแต่ละพรรค แต่ละก๊วนมาดู เพื่อจัดกันใหม่

ฝุ่นจะตลบหนักกว่าเก่า เพราะคนเดิมก็ไม่อยากลุก ย่อมต้องวิ่งสู้สุดหัวใจ คนใหม่ก็ไม่รามือ ในฐานะมีส.ส.เพียงพอต่อโควต้า




กำลังโหลดความคิดเห็น