xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

สงคราม IO สงคราม #แฮชแท็ก สมรภูมิยุคใหม่การเมืองไทย.. “ใครๆ” ก็ทำกัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บรรดาเพจเชียร์รัฐบาลที่มีมากมายในเวลานี้
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ถือเป็นหนึ่งในประเด็น “ร้อน” ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลยก็ว่าได้ เมื่อ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ออกมาแฉถึงเรื่อง “ขบวนการไอโอ”(Information Operations) ที่ปฏิบัติการตอบโต้และคุกคามฝ่ายเห็นต่างทางการเมือง รวมทั้งปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมนำเอกสารงบประมาณของ “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)” ที่ให้การสนับสนุนมาเปิดเผย

ขณะที่โลกออนไลน์ก็ร้อนฉ่าขึ้นมาในฉับพลันทันที เพราะ กอ.รมน.นั้นเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับ “นายกฯ ลุงตู่” และนายวิโรจน์ก็กล่าวหาว่า “นายกฯ ลุงตู่” เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ด้วย ส่งผลให้ แฮชแท็ก #รู้ทันIO พุ่งขึ้นติดเทรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ขณะที่ แฮชแท็ก #กระชากหน้ากาก ซึ่งนายวิโรจน์ได้ทวีตไว้ก่อนแล้ว ติดเทรนด์ประเทศไทยเช่นกัน

จากนั้นก็มีการตามถล่มไปถล่มเพจเฟซบุ๊กที่มีการระบุไว้กันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊ก “รายงานมิติเพจในพื้นที่ ทภ.2” ที่ถูกถล่มเละเทะ

สำหรับหลักฐานที่นำมาเปิดเผยนั้น นายวิโรจน์บอกว่า เป็นเอกสารงบประมาณของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ที่ขึ้นตรงต่อพลเอกประยุทธ์ หน้าที่ 14 ข้อที่ 10 ระบุถึงการจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ pulony.blogspot.com โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2562 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคอยเสี้ยมโจมตีนักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังมีเพจ Facebook เครือข่ายคอยแชร์เนื้อหา ถือเป็นการบั่นทอนบรรยากาศการเจรจาเพื่อสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พยายามโจมตีนักการเมืองในพื้นที่ที่พยายามนำปัญหามาแก้ไขผ่านสภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้ ขบวนการ IO ยังคุกคามฝ่ายเห็นต่างทางการเมือง และพบหลักฐานเอกสารเชื่อมโยงหน่วยงานรัฐ โดยเปิดเผยเอกสารลับ 3 ฉบับ ฉบับแรก ลงวันที่ 25 เมษายน 2562 เกี่ยวกับการเข้าอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมกับคณะทำงานปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร โดยมีเนื้อหาข้อ 1.1 เกี่ยวกับการซักซ้อมการปฏิบัติการข่าวสารที่หน่วยเหนือมอบให้ในแต่ละวัน มีการสอนการโพสต์ว่าไม่ต้องเรียงลำดับหัวข้อตามภารกิจที่มอบให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็น Facebook ปลอมหรืออวตาร , หัวข้อที่ 1.3.2 แนะนำให้เจ้าหน้าที่ลงบัญชีเฟซอวตารหรือบัญชีผู้ใช้ปลอมหลายบัญชี เพื่อตอบโต้และพลีชีพทางออนไลน์ , หัวข้อที่ 1.3.3 แนะนำให้เจ้าหน้าที่สร้างบัญชีอวตาร โดยไม่ให้เกี่ยวพันกับบัญชีของตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ , หัวข้อที่ 1.4.1 ให้เจ้าหน้าที่รับทราบและรายงานภารกิจทางกลุ่มไลน์ภายในเวลา 17 นาฬิกาของแต่ละวันตามแบบฟอร์มที่ส่งให้ และระบุในข้อ 2.2 ว่ามีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตเดือนละ 2,000 บาท

ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เรื่องสรุปผลการประชุมคณะทำงานด้านปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร โดยอ้างอิงถึงการประชุมวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 โดยมี พลโท พิสิษฐ์ ทรรพวสุ รองผอ.รมน.ภาค 2 เป็นประธานการประชุม โดยให้หน่วยระดับกองพล ระดับกรม ตรวจสอบยืนยันตัวผู้ปฏิบัติการข่าวสารที่ตั้งไว้หน่วยละ 5 นาย โดยให้ส่งข้อมูลยืนยันทุกวันที่ 5 ของเดือน ประชุมผ่าน VTC หรือวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์เวลา 10 นาฬิกา และสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหรือค่าโทรศัพท์ที่กองทัพบกจัดสรรให้ โดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการข่าวสารหรือ IO จะได้เงินสนับสนุนค่าโทรศัพท์เดือนละ 300 บาท ซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณมาจากภาษีประชาชน

เอกสารฉบับที่ 3 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เช่นเดียวกัน โดยเป็นผลสรุปการประชุม มีเนื้อหาเหมือนหนังสือฉบับที่ 2 แต่สนับสนุนค่าโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการข่าวสารเพียงคนละ 100 บาท

“ข้อมูลหลักฐานทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นถึงการกระทำอย่างเป็นระบบ ซึ่งกองทัพคงไม่สามารถดำเนินการเองได้โดยพละการ ต้องมีคำสั่งมีการสนับสนุนภารกิจ มีการใช้งบประมาณ ซึ่งถือเป็นภารกิจคุกคามประชาชนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย”นายวิโรจน์กล่าว

ประเด็นก็คือ เอกสารทั้ง 3 ฉบับนั้น มิใช่ “เอกสารลับ” หากเป็น “เอกสารเปิดเผย” และนายวิโรจน์ได้มาระหว่างเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563

บรรดา FC ของอนาคตใหม่ต่างพากันไล่ล่าเพจที่พวกเขากล่าวหาว่าเป็นไอโอฝากรัฐบาลกันอย่งสนุกสนาน

ดร.โจ อดีตคนอนาคตใหม่ที่ออกมาเปิดเผยให้เห็นถึงขบวนการไอโอของพรรคส้ม
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า “เรื่องไอโอ ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะการทำงานโดยปกติแล้ว ผมก็ไม่มีนโยบายให้ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว และวันนี้ก็เห็นว่าในโซเชียลมีเดีย มีการกระทำแบบนี้มากมาย ผมเองก็โดนซะเยอะเลยในนั้น เห็นไหมใครทำก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวก็ตรวจสอบอีกทีแล้วกัน ยืนยันว่าไม่มีนโยบายดังกล่าว”

อย่างไรก็ดี ต้องบอกว่า “ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร” หรือ “ขบวนการไอโอ” นั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่อง “เก่า” ที่ทำมากันตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และมาเบ่งบานในยุคสงครามเย็น ในช่วงการปะทะกันระหว่างสหรัฐอเมริกา หัวขบวนทุนนิยมกับสหภาพโซเวียต หัวขบวนลัทธิคอมมิวนิสต์ เพื่อแย่งชิงมวลชน

ใครที่เคยผ่านสถานการณ์ในช่วงนั้น คงคุ้นเคยดีกับคำว่า “ปจว.” หรือปฏิบัติการจิตวิทยาที่ดำเนินการโดยหน่วยทหาร กอ.รมน. ฯลฯ

ส่วน “ขบวนการไอโอ” ในยุคนี้ มีวิวัฒนาการไปอีกขึ้นพร้อมกับความเจริญทางเทคโนโลยี ด้วยการไปเปิดแนวรบบน “โลกสังคมออนไลน์” เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หน่วยทหารหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่าง กอ.รมน.จะมีงบประมาณทางด้านนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ล่อแหลมอย่างจังหวัดชายแดนใต้ เนื่องด้วยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบขยายเขตงานเข้าไปในโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

“สำนักข่าวอิศรา” ได้เคยรายงานเอาไว้ว่า มีการเปิด พจผี” ในเฟซบุ๊ก ซึ่งหมายถึงหน้าเพจที่ไม่ระบุตัวตนชัดเจน แล้วแพร่ข้อมูลในลักษณะสร้างความเกลียดชังกลุ่มก่อความไม่สงบ ก่อนจะค่อยๆ ลุกลามไปยังผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่างในท้องถิ่น ล่วงเลยไปถึงสื่อมวลชนอาชีพที่เขียนวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของฝ่ายความมั่นคงอย่างตรงไปตรงมา

สำหรับกรณีที่นายวิโรจน์ระบุว่า เว็บไซต์ pulony.blogspot.com ได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานความมั่นคงนั้น ขณะนี้กลุ่มเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะบรรดาเอ็นจีโอและนักสิทธิมนุษยชนต่างๆ กำลังขยายผลด้วยพวกเขาตั้งข้อสังเกตในพฤติกรรมของเว็บไซต์ดังกล่าวมาตั้งแต่ประเดิมงานชิ้นแรกในปลายปี 2554

กระนั้นก็ดี พลเอกธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. ชี้แจงว่า เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า เว็บไซต์ Pulony.blogspot.com นี้ เป็นของ กอ.รมน. แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เว็บไซต์ของ กอ.รมน. แต่อย่างใด ส่วนการที่ เว็บไซต์ Pulony.blogspot.com นำเสนอข่าวช่วย ชี้แจงแทน กอ.รมน. และโจมตีฝ่ายอื่น นั้น ก็เป็นการพิจารณาของเว็บไซต์ เอง ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับ กอ.รมน.

“เว็บไซต์ Pulony.blogspot.com นี้เท่าที่ทราบ มีมานานหลายปีแล้ว ไม่ได้มาเกิดในยุคคสช. และไม่ใช่ของกอ.รมน. ส่วนเป็นของใครนั้นเราไม่ทราบ แต่เราเฝ้าจับตามองและเฝ้าระวังมายาวนาน เพราะมีหลายเว็บฯ หลายเพจ”เลขาฯ กอ.รมน.อธิบาย

ส่วน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) อีกหนึ่งหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า เป็นเอกสารของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 เป็นงานที่ทำมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่ไปเอาข้อมูลมาโยงจนมั่วไปหมด ซึ่งที่ผ่านมาถูกโจมตีมาตลอด และมีข้อมูลบิดเบือน

“เป็นลักษณะการทำงานของทหารที่เปิดเผยตัว ไม่ใช่อวตาร และก็เป็นกลุ่มทั่วไปที่มีการเล่นไลน์และโซเชียลมีเดีย ผมยืนยันว่าไม่ใช่คำสั่งของกระทรวงกลาโหมในการตั้งปฏิบัติการ ไอโอ ในแต่ละกองทัพภาค แต่เป็นการให้ช่วยกันเพราะเราถูกกระทำ และเราก็อ่อนเรื่องการประชาสัมพันธ์”แม่ทัพภาคที่ 2 อธิบาย

ส่วนทาง “พูโลนี” ที่ถูกกล่าวหาก็ออกมาเปิดโปงเพจ “ซูรอ ปาตานี” ว่าเป็นเฟซบุ๊กของแนวร่วมสนับสนุนกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบ มีการปลุกระดมก่อให้เกิดความเกลียดชังในเรื่องของเชื้อชาติและศาสนา สร้างความขัดแย้งทางความคิด ส่งผลให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เกิดความแตกแยก เกิดความหวาดระแวงในการดำเนินชีวิตต่อกัน

ขณะที่ในทาง “การเมือง” ขบวนการไอโอก็ทำหน้าที่อย่างขมีขมันมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งจะว่าไปก็มีทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ไม่มีหลักฐานชัดๆ ว่า รับงบประมาณแผ่นดินมาทำงานหรือไม่ก็เท่านั้น

ฝ่าย “เชียร์ลุง” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีก็อย่างเช่น ลุงตู่ตูน ทีมลุงตู่ นายกเป็นคนตลก เปรี้ยง เรารักลุงตู่ เรารักทหารไทย ห่วยตูน ลุงตู่มาแว้วๆๆๆ แจงสี่เบี้ย จิ้งจกข้างทำเนียบ สายตรงไทยนิยม ฯลฯ

ส่วน “ฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาล” ก็มีปฏิบัติการไอโอและปฏิบัติการล่าแม่มดเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลไม่แพ้กัน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมาจากการเปิดเผยของ ดร.โจ ชาญวิทย์ ใจสว่าง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ ที่เคยออกมาเปิดเผยเรื่อง “ชนชั้นนำ” ในพรรคอนาคตใหม่ ก็ทำให้ได้รู้ข้อมูลในอีกด้านหนึ่ง

กล่าวคือมีผู้มาแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของ ดร.โจเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ว่า “ไม่มีซอมบี้มาถล่ม ดร.โจ เลยเหรอคะ หรือว่าบล็อกไม่ไหวเลยพูดอะไรไปสุภาพแท้ๆ พากันมาถล่มด่าอย่างหยาบคายเหมือนคนบ้า ยิ่งทำให้ชังพรรคอนาคตใหม่มากยิ่งขึ้น ถ้าคนในพรรคนี้เป็นแบบ ดร.โจ ก็พอฟังได้ รู้คิดอะไรใช่ไม่ใช่”

ทั้งนี้ นายชาญวิทย์ตอบกลับไปว่า “เฟซบุ๊กที่ไม่มีตัวตน ถูกสร้างมาจากบริษัทดูแลเว็บไซต์ครับ เราตรวจสอบจนพบ มีการใช้ทีมเฝ้าหน้าจอที่วิจารณ์พรรค เขาสร้างไว้เป็นร้อยๆ เฟซบุ๊ก นับไม่ทัน แล้วจะถล่มพร้อมกัน ก็อปภาษา แต่งคำต่างนิดหน่อย แล้วถล่มเรียงกันเลย เขาติดตามทุกคนที่วิจารณ์พรรค ที่ตั้งแยกไปอยู่อีกสถานที่หนึ่ง (ไม่เปิดเผยออกสื่อ) ทำงาน 7.00- 24.00 น. เต็มกำลัง รอคิดภาษาสำนวนด่าคน เพื่อให้คนที่ไม่รู้เรื่องราวพลอยเกลียดชังไปด้วยคำเหล่านี้

“เฟซบุ๊กเหล่านี้จะไปถล่ม พร้อมกับเพื่อนการเมืองของผม ดังนั้น ฝ่ายไอทีของผมตรวจสอบเฟซบุ๊กผี แล้วสกัดไม่ให้เข้ามาด่าทออย่างไร้เหตุผล สกรีนตัวตนเฟซบุ๊กก่อน ผมยอมรับความแตกต่าง พูดคุย สอบถามกันนะครับว่าจริงเท็จอย่างไรคุยกัน แต่ผมไม่พร้อมตอบโต้กับคนไม่ถามหาข้อมูลแลกเปลี่ยนใดๆ โดยเฉพาะเฟซบุ๊กผี ใช้คนปลอมเข้ามาเพื่อประณาม หยาบคายอย่างเดียว ขอบคุณครับคุณ... รวมถึงขอบคุณทุกคนที่อ่านข้อความนี้ด้วยครับ”

งานนี้ ว่ากันว่าใช้งบประมาณ หลักร้อยล้านเลยทีเดียว

หรือเมื่อตอนที่ แอดมินเพจ พปชร. ขึ้นข้อความว่า “จะนอนอยู่แล้วเชียววววววว” พร้อมขึ้นภาพข้อความกราฟิกว่า “ช่างกล้าพูดรัฐบาลมีไอโอ แอดโดนซอมบี้รุมทุกวัน ถ้าไม่เชื่อลงไปดูคอมเมนต์ข้างล่างสิ” ปรากฏเป็นไปตามคาด “ซอมบี้” มากันพรึ่บ!

ทั้งนี้ “ซอมบี้สีส้ม” เป็นศัพท์เรียกขานบรรดาติ่งอนาคตใหม่ซึ่งมีหน้าที่รุมทึ้ง รุมด่า รุมรีพอร์ตคนที่วิพากษ์วิจารณ์พรรคส้ม

ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” และ “ใครๆ ก็ทำ” ก็ไม่เกินเลยไปจากความเป็นจริงเท่าใดนัก

ทว่า ประเด็นสำคัญของ “ขบวนการไอโอ” ก็คือ ถ้าเป็น “เรื่องจริง” ก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าเป็น “ข่าวปลอม” หรือ “เฟกนิวส์” เมื่อไหร่ละก็ เมื่อนั้นปัญหาจะเกิดขึ้น เพราะการใช้ข้อมูลเท็จไปในกลุ่มที่มีความเชื่อทิศทางเดียวกัน มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จได้โดยง่ายเสียด้วยสิ.

กำลังโหลดความคิดเห็น