xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

ระหว่างการเมืองกับการกีฬา

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


นายCraig Reedie ประธานองค์กร WADA
หายหน้าไป 1 วัน...เพราะมัวแต่ไปทุ่มเทสมาธิ มัวแต่หันไปลุ้น “เหรียญทองซีเกมส์” คราวนี้ ที่เบียดกันไป-เบียดกันมา ระหว่างประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา กับคุณน้องเวียดนาม ซึ่งออกจะมาแรงแซงโค้งซะเหลือเกิน แต่ไม่ว่าใครขึ้นแท่นเป็นอันดับ 2 หรืออันดับ 3 (เพราะอันดับ 1 คงแทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง ถือว่ายกให้เจ้าภาพฟิลิปปินส์ เขาหอบเข่ง หอบกระสอบมาเก็บ “เหรียญใต้ถุนร้าน” ไปตามความสะดวก ความพอใจของเขาก็แล้วกัน) งานนี้...ก็คงต้องถือว่าเก่ง และสุดยอดไปด้วยกันทั้งคู่ เนื่องจากกองทัพนักกีฬาของแต่ละฝ่าย ต่าง “ทำหน้าที่” ได้อย่างชนิดเต็มสูบ เต็มกำลัง น่ายกย่อง เชิดชูไปด้วยกันทั้งสิ้น...

แม้ว่า “น่าเสียดาย” อยู่มั่ง...ที่กองทัพนักกีฬาไทยเที่ยวนี้ ไม่ได้มี “ตัวผลิตเหรียญ” อย่าง “นักกีฬายกน้ำหนัก” ที่เคยกวาดเหรียญไม่ว่าในระดับภูมิภาค หรือระดับโลก มาโดยตลอดไม่รู้จะกี่เหรียญต่อกี่เหรียญ ไม่งั้น...โอกาสที่คุณน้องเวียดนาม จะแซงโค้งแถวๆ โค้งวัดเบญฯ เบียดหลัง-เบียดไหล่ ไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ แต่ก็ด้วยเหตุเพราะไปเจอกับฤทธิ์เดชขององค์กรการตรวจโด๊ป หรือศูนย์ต่อต้านการใช้สารต้องห้ามในหมู่นักกีฬา ที่เรียกกันสั้นๆ ย่อๆ ว่า “WADA” (World Anti-Doping Agency) นั่นเอง บรรดาเครื่องจักรผลิตเหรียญอย่างนักกีฬายกน้ำหนักของบ้านเรา เลยถูกห้าม ถูกแบนไม่ให้เข้าแข่ง เข้าชิงชัย ในเวทีระหว่างประเทศใดๆ มาตั้งแต่หลังการแข่งขันเวทียกน้ำหนักโลกที่เติร์กเมนิสถาน หรือตั้งช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว (ค.ศ.2018) โน่นเลย ไม่งั้น...โอกาสที่จะคว้าเหรียญทองซีเกมส์ติดไม้ ติดมือสัก 5-6 เหรียญ แซงหน้าคุณน้องเวียดนามแบบชนิด “โม้ไม่ออก” ย่อมเป็นไปได้อยู่แล้วแน่ๆ...

ส่วนที่เราต้องถูกห้าม ถูกแบน ด้วยข้อหาใช้สารต้องห้าม...อันที่จริง ก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าเกลียด น่าทุเรศมากมายสักเท่าไหร่ คือมีสาเหตุมาจาก “ความไม่รู้” ไม่ได้เป็นเพราะ “ความจงใจ” ใดๆ เท่าที่ฟังๆ จากผู้หลัก-ผู้ใหญ่ในวงการยกน้ำหนักบ้านเรา เห็นว่าเนื่องจากเพราะ “โค้ชจีน” ที่ก็คงไม่รู้และไม่มีเจตนาใดๆ เมื่อเห็นนักกีฬายกน้ำหนักที่อยู่ในความควบคุมดูแลของตัวเอง เกิดมีอาการบาดเจ็บ เคล็ดขัดยอกขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็หันไปคว้า “สมุนไพรจีน” หรือ “ยาทา” ประเภทเจลอะไรสักอย่าง มาลูบๆ ไล้ๆ นวดๆ เฟ้นๆ ไม่ได้กิน ไม่ได้อม ไม่ได้ดม-หยอด-สอด-เสียบ อะไรเอาเลยแม้แต่น้อย แต่แค่ทามา-ทาไป ลูบไป-ลูบมานี่เอง กลับทำให้องค์กร “WADA” ออกมาสรุปและวินิจฉัย ว่าเป็นการ “ใช้สารต้องห้าม” ซะยังงั้น!!! ก็เลยถูกห้าม ถูกแบน หมดโอกาสสอยเหรียญ ผลิตเหรียญ ให้แก่ประเทศไทยไปตามสภาพ...

แต่สำหรับบ้านเรานั้น...ยังไม่ถึงกับหนักหนาสาหัสมากมายสักเท่าไหร่ เพราะแค่ห้ามเฉพาะ “นักกีฬายกน้ำหนัก” เท่านั้นเอง ส่วนที่หนักระดับแทบกระอักโลหิตออกมาเป็นลิ่มๆ หรือกลายเป็นข่าวคราวระดับโลก ระดับระหว่างประเทศ ไปเมื่อวัน-สองวันนี้น่าจะเป็นคุณน้า “รัสเซีย” นั่นแหละทั่น ที่ถูกองค์กร “WADA” ลงมติเป็นเอกฉันท์ ห้ามไม่ให้ส่ง “นักกรีฑา” ทุกประเภทเข้าแข่งในเวทีกีฬาหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น “โอลิมปิก 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งใกล้จะเริ่มๆ อีกไม่นานนับจากนี้ หรือแม้แต่ “นักฟุตบอล” รัสเซีย ก็ห้ามไม่ให้ลงแข่ง ในมหกรรม “ฟุตบอลโลก 2022” อีกด้วยต่างหาก คือต่างถูกห้าม ถูกแบนกันชนิดระเนนระนาดไปตลอดช่วง 4 ปีข้างหน้า หรือถ้าคิดจะลงแข่งกันจริงๆ ก็ห้ามแข่งในนามนักกีฬารัสเซีย ห้ามไม่ถือธง ห้ามไม่ให้ร้องเพลงชาติใดๆ หรือต้องกลายเป็นนักกีฬาอิสระ ประเภทโนเนม โนสัญชาติ ไปโน่นเลย...

เรื่องของ “การกีฬา” มันเลยกลายสภาพเป็นเรื่องของ “การเมือง” ไปจนได้...ถึงขั้นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย “นายดมิตรี เมดเวเดฟ” ตลอดไปจนประธานาธิบดี “ปูติน” ต้องออกมาตอบโต้ ออกมาให้ความคิด ความเห็น ในเชิงตำหนิติติงต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการองค์กร “WADA” จำนวน 12 ราย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น ถือเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นบนพื้นฐาน “อคติทางการเมือง” (Politically biased) หรือเป็นการตัดสินใจแบบ “เหมารวม” โดยไม่ได้คิดจะแยกแยะว่าใครผิด-ใครถูก ใครใช้สาร-ไม่ใช้สารต้องห้าม แบบชนิดเป็นรายตัว หรือรายประเภทกีฬา แบบเฉพาะกีฬายกน้ำหนักของบ้านเรา อะไรทำนองนั้น ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นการตั้งข้อสังเกต ข้อสมมติฐาน ที่พอมีน้ำหนักน่าจะรับฟังอยู่บ้าง...

เพราะว่าไปแล้ว...มาตรฐานการชี้ผิด-ชี้ถูก ชี้ว่าใครใช้สารต้องห้าม-ไม่ใช้สารต้องห้าม ขององค์กร “WADA” นั้น ก็ถูกใครต่อใครวิพากษ์วิจารณ์มานานแล้ว ว่าค่อนข้างที่จะขาดมาตรฐาน หรือไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน จนบรรดาผู้ที่ถูกห้าม ถูกแบน หลายต่อหลายราย อดคิดว่ามันเป็นเรื่องของ “การเมือง” ไม่ใช่ “การกีฬา” ไปจนได้ อย่างเช่น “นางฟ้าแห่งคอร์ทเทนนิส” ชาวรัสเซีย คุณน้อง “มาเรีย ชาราโปวา” ผู้ได้ชื่อว่า “มารดาแห่งการคราง” และสามารถใช้พลังแห่งเสียงคราง คว้าแชมป์แกรนด์ สแลม มาได้ถึง 5 รายการซ้อนๆ จู่ๆ...หลังจากที่ปฏิเสธการโอนสัญชาติจากรัสเซีย มาเป็นอเมริกันซิติเซ่น ก็โดนองค์กร “WADA” นี่แหละ ประกาศห้ามลงสนามแข่งขันรายการใดๆ ก็แล้วแต่ เป็นเวลาถึง 15 เดือน เพียงเพราะไปรับประทานยาแก้ไข้บางชนิด ที่ถูกขึ้นบัญชีสารต้องห้ามขององค์กรแห่งนี้ โดยไม่รู้เรื่อง รู้ราวอะไรมาก่อน โอกาสที่จะหวนกลับมาฟื้นความเป็นมือวางอันดับ 1 ของโลก ก็จึงต้องหมดสภาพลงไปตั้งแต่บัดนั้น...

หรือนักว่ายน้ำฟรีสไตล์ 400 เมตร เหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัยของจีน ผู้มีนามกรว่า “Sun Yang” ก็โดนองค์กร “WADA” นี่แหละ ถีบออกไปจากการชิงชัยโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น ชนิดเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปอีกราย จะด้วยเหตุเพราะดันไปกิน “บัวหิมะหมื่นปี” หรือ “ดีงูพิษพันปี” มาในแบบไหน ลักษณะไหน ก็มิอาจสรุปได้ แต่ถ้าดูจากแนวคิด มุมมอง และทัศนคติของผู้มีตำแหน่งเป็นประธานองค์กร “WADA” คือ “นายCraig Reedie” ฝรั่งชาวสกอต ที่นอกจากจะเป็นอดีตนักกีฬาชื่อดังของอังกฤษ ปัจจุบันยังมีไซด์ไลน์ เป็นหุ้นส่วนบริษัทธุรกิจที่ปรึกษาการเงิน การลงทุนอยู่แถวๆ ฮ่องกงอีกซะด้วย คือ บริษัท “Independent financial advisers” หรือ “IFAs” ซึ่งก็คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า เป็นทัศนคติที่ออกจะรังเกียจเดียดฉันท์ต่อแวดวงกีฬาในรัสเซีย หรือแม้แต่ชาวรัสเซียมานานแล้ว ดังคำให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 ขณะยังดำรงตำแหน่งเป็นรองประธาน “ICO” (International Olympic Committee) ที่สรุปไว้ประมาณว่า “วัฒนธรรมการกีฬาในรัสเซียนั้น...เต็มไปด้วยการหลอกลวง” อะไรทำนองนั้น หรือออกอาการ “Russophobia” มาตั้งแต่แรก...

การกล่าวหาและการปะทะขัดแย้ง...ระหว่างองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามระดับโลก อย่าง “WADA” กับองค์กรต่อต้านใช้สารต้องห้ามของรัสเซียเอง หรือองค์กร “RUSADA” ที่ถึงกับมีการไปลากเอาหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานข่าวกรอง ไปจนบรรดาพวก “แฮกเกอร์” เข้ามากล่าวหากันไป-กันมา ยิ่งทำให้ “โรคกลัวรัสเซีย” หรือ “Russophobia” เลยมีแต่แรงขึ้นๆ จนนำมาสู่การแบนนักกีฬารัสเซียแบบระเนนระนาด ไปถึง 4 ปีเต็มๆ หรือทำให้ “การเมือง” กับ “การกีฬา” กลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างมิอาจแยกออกจากกันได้อีกต่อไปแล้ว โดยไม่ว่าจะจบลงไปในแบบไหน อย่างไร แต่ย่อมส่งผลให้บรรดา “คอกีฬา” ทั้งหลาย อดไม่ได้ที่จะต้อง “เซ็ง” กันไปตามระเบียบ เหมือนอย่างที่บรรดาแฟนๆ กีฬาชาวไทยทั้งหลาย ต้อง “หมดลุ้น” กับการไล่เบียด ไล่แซง การยื้อแย่งแข่งขันตำแหน่ง “จ้าวเหรียญทองซีเกมส์” คราวนี้ กับคุณน้องเวียดนามเอาดื้อๆ !!!
กำลังโหลดความคิดเห็น