จากกรณีที่มีการตรวจพบสารกระตุ้นในนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย หลายราย จนส่งผลให้ประเทศไทย ถูกแบนห้ามส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ รวมถึงโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น และ ซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์
ล่าสุด “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และรองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ กล่าวว่า การประชุมวิสามัญของคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2562 ที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้บรรจุวาระการขอแก้ไขข้อตกลงระหว่างสหพันธ์ฯ กับสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 27 มีนาคม 2562 ที่เมืองลาสเวสกัส สหรัฐอเมริกา
โดยมี ตน พร้อมด้วย นายนิพนธ์ ลิ่มบุญสืบสาย รองเลขาธิการสมาคมฯ และ นายเคลาท์ ราโมนี ทนายความของสมาคมฯ เข้าชี้แจงการปฏิบัติต่อข้อตกลงของสมาคมฯ รายงานสถานะการณ์แห่งคดีของการใช้สารต้องห้ามของนักกีฬาไทย เหตุผลการแก้ไขและข้อเสนอในการแก้ไข ซึ่งในครั้งนี้สหพันธ์ฯ ได้ให้โอกาสกับสมาคมฯ ในการนำเสนอดังกล่าว โดยบรรจุเป็นวาระอย่างเป็นทางการของการประชุมวิสามัญในครั้งนี้ ซึ่งแตกต่างจากท่าทีก่อนหน้านี้ในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกเดือนกันยายน 2562 ที่เมืองพัทยา ซึ่งสหพันธ์ฯ ไม่ได้ให้โอกาสกับสมาคมฯ ในการนำเสนอเพื่อขออนุมัติเข้าแข่งขันของนักกีฬาไทยแต่อย่างใด
ครั้งนี้ สมาคมฯ ได้มีโอกาสเข้านำเสนอในวาระดังกล่าวประมาณ 20 นาที และหลังจากคณะของสมาคมฯ ออกจากห้องประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนแจ้งให้สมาคมฯ ได้ทราบว่า สำหรับผลการพิจารณาอนุมัติคำขอแก้ไขข้อตกลงของสมาคมฯ จะพิจารณาในการประชุมสามัญของคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฯ ครั้งหน้า วันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่กรุงบูคาเรส ประเทศโรมาเนีย อีกครั้ง เนื่องจากจำเป็นต้องรอข้อมูลต่างๆ เพื่อการตัดสินใจจากส่วนที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม สหพันธ์ฯ ได้อนุญาตให้นักกีฬายกน้ำหนักยุวชนของไทยสามารถลงทะเบียนยืนยันที่อยู่ของนักกีฬา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก 2563 ระหว่างวันที่ 14-24 มีนาคม 2563 ที่กรุงบูคาเรส ประเทศโรมาเนีย ได้