xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

โลกอาลัย “ในหลวงภูมิพล” มหากษัตริย์นักพัฒนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ของไทย
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ข่าวการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2559 นอกจากจะนำความวิปโยคอย่างใหญ่หลวงมาสู่คนไทยทั้งประเทศแล้ว ราชวงศ์ต่างชาติและผู้นำรัฐบาลทั่วโลกก็ได้มีพระราชสาส์นและสาส์นแสดงความอาลัยต่อการจากไปของพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณ และพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ อันเป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงมีพระราชสาส์นส่วนพระองค์แสดงความเสียพระราชหฤทัยมายังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งแม้พระราชสาส์นดังกล่าวจะไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณชน แต่สื่อมวลชนในอังกฤษคาดหมายว่าคงจะมีเนื้อหาแสดงความอาลัยและคำสดุดี เช่นเดียวกับสาส์นของผู้นำทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันพฤหัสบดี (13 ต.ค.)

ราชวงศ์ต่างๆ ของยุโรปก็มีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยหลังจากที่ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ อาทิ
สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน ซึ่งตรัสว่า “หม่อมฉันและและพระราชินีทราบข่าวด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ หม่อมฉันและพระราชินีขอแสดงความเสียใจไปยังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ”

สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงมีพระราชสาส์นว่า “หม่อมฉันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความสัมพันธ์ระหว่างสองราชวงศ์ของเราใกล้ชิดมาโดยตลอด เจ้าชายเฮนริค (พระสวามี) และหม่อมฉันขอแสดงความเสียใจมายังพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนคนไทย”

สมเด็จพระราชาธิบดี วิลเลิม-อเล็กซานเดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ ได้มีพระราชดำรัสเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ในฐานะที่ทรงให้ความสำคัญต่อคุณค่าแห่งความสามัคคีและความร่วมมืออย่างสันติของประชาชนในชาติ ส่วนพระราชสาส์นของสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ ระบุว่า “หม่อมฉันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในนามของหม่อมฉันและประชาชนชาวนอร์เวย์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตลอดจนประชาชนคนไทยด้วย”

สำนักพระราชวังญี่ปุ่นแถลงว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ ทรงไว้ทุกข์ถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเป็นเวลา 3 วัน และโปรดเกล้าฯ ให้นาย ชิกะโอะ คะวะอิ เลขาธิการสำนักพระราชวัง เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว เพื่อส่งพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย

นายกรัฐมนตรี ชินโซ อะเบะ แห่งญี่ปุ่น ซึ่งได้เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว เพื่อลงนามถวายความอาลัย และโค้งคำนับต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ระบุว่า ตนในฐานะตัวแทนของรัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่นขอแสดงความเสียใจมายังพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย ตลอดจนรัฐบาลและประชาชนไทย โดยชาวญี่ปุ่นจะสวดภาวนาและส่งความคิดคำนึงถึงคนไทยในห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้
- สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินี เจ็ตซุน เปมา วังชุก แห่งภูฏาน ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck” ว่า ทรงรับทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วยความเสียพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง ทรงกำหนดให้มีการลดธงครึ่งเสา และประกาศให้วันที่ 14 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการ เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวภูฏานได้สวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล

ก่อนหน้านั้น 1 วัน เฟซบุ๊กของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีก็ได้โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมข้อความว่า ทรงมีพระบรมราชโองการให้วัดวาอารามทั่วภูฏานจัดพิธีสวดมนต์เป็นกรณีพิเศษ เพื่อขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ของไทยทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง

หลังจากมีแถลงการณ์สวรรคต สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี พระราชบิดา และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้ทรงนำคณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล และคนไทยในภูฏาน ร่วมกันจุดเทียน 1,000 เล่ม และสวดมนต์เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ที่ป้อมทาชิโชซองในกรุงทิมพู

ต่อมาในวันที่ 16 ต.ค. สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี เจ็ตซุน เปมา วังชุก ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงร่วมพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ จากนั้น ทรงพระดำเนินไปทรงลงพระนามถวายความอาลัย ณ ศาลาว่าการพระราชวังพระบรมมหาราชวัง
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฎาน และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงจุดเทียนที่วิหารเกนรา (Kuenra) ในป้อมทาชิโชซอง กรุงทิมพู เพื่อถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชของไทย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม
ในวันเดียวกันนั้น เฟซบุ๊กของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏานยังได้เผยแพร่ข้อความที่ทรงพระอักษรถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทยว่า “แด่พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงหาที่เปรียบมิได้ ทรงเปี่ยมด้วยพระวิสัยทัศน์ ดุจดั่งอัญมณีล้ำค่า ซึ่งได้เสด็จฯ เข้าสู่ปรินิพพานแล้วนั้น ข้าพเจ้าของแสดงความเคารพอย่างสูงสุด และขอสวดภาวนาถวายแด่พระองค์ด้วยใจจริง ขอให้พระองค์ท่านเสด็จพระราชสมภพเป็นธรรมราชาตลอดกาล เพื่อประโยชน์สุขแห่งมวลสรรพชีวิต”

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยในการพัฒนาประเทศ และชื่นชมที่ทรงอุทิศพระองค์อย่างไม่ย่อท้อเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรภายใต้ร่มพระบริบาล

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และทรงเป็นหุ้นส่วนที่มีค่ายิ่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายต่อหลายคน... ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านระหว่างการเดินทางเยือนไทยในปี 2012 และตระหนักถึงความสง่างามและความอบอุ่น เช่นเดียวกับความรักที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย” โอบามา กล่าว
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และพระราชมารดา ถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ สถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม
อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน แห่งสหรัฐฯ และนางฮิลลารี คลินตัน ภริยา ได้มีถ้อยแถลงแสดงความเสียใจต่อข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ใจความตอนหนึ่งว่า “ฮิลลารี และผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดระยะเวลา 70 ปี พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อให้พวกเขาได้มีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น พระองค์ทรงเป็นผู้นำที่รับใช้ปวงชนอย่างแท้จริง... ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ไปเยือนประเทศไทยในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี... และ ฮิลลารี ก็รู้สึกซาบซึ้งใจที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์พร้อมกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เมื่อคราวไปเยือนไทยครั้งล่าสุด
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงฉายพระรูปร่วมกับสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะแห่งญี่ปุ่น ณ พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2534
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงเป็นผู้นำที่ดี และมีน้ำพระทัยเมตตา โลกกำลังต้องการผู้นำเฉกเช่นพระองค์มากยิ่งขึ้น เราทั้งสองขอส่งความระลึกถึง การสวดภาวนา และกำลังใจไปยังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์”

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนาย บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แสดงความหวังว่าไทยจะยึดถือมรดกของพระองค์ที่ทรงยึดมั่นในค่านิยมสากล และการเคารพต่อสิทธิมนุษยชน

นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนชาวไทยต่อการเสด็จสวรรคต ขณะที่รัฐบาลสิงคโปร์ก็ได้เทิดทูนพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศว่า “ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่โดดเด่นและเป็นที่เคารพรักอย่างสูง... พระองค์ได้ทรงงานหนักอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย”
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงรับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนไทย เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2539
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ได้โพสต์ข้อความถวายความอาลัยทางทวิตเตอร์ ใจความว่า “ประชาชนชาวอินเดียและผมรู้สึกเศร้าเสียใจเช่นเดียวกับคนไทยในการสูญเสียผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งในยุคของเรา คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”

ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีน ได้เทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าทรงอุทิศพระองค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของชาติไทย และสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศได้ทรงปฏิบัติไว้นั้น “มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและจีน”
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประธานาธิบดี บิล คลินตัน แห่งสหรัฐฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ส่งสาส์นแสดงความอาลัยใจความว่า “ตลอดหลายสิบปีที่ทรงครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นที่รักและเทิดทูนอย่างจริงใจของพสกนิกรชาวไทย และทรงเป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งในต่างประเทศ”

ส่วนนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ “ได้พระราชทานแนวทางแก่พสกนิกรชาวไทยด้วยความสง่างาม การอุทิศพระองค์ และพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลตลอดพระชนม์ชีพ และจะทรงเป็นที่รำลึกถึงอย่างยิ่งตลอดไป”

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจมายัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใจความว่า “ข้าพเจ้าได้ทราบด้วยความเศร้าสลดใจยิ่งเรื่องการเสด็จฯ สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนสูงสุดของไทย และกษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2559”
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ พร้อมคณะ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
“การเสด็จฯ สวรรคตของพระองค์ไม่เพียงเป็นความสูญเสียสำหรับประเทศไทยและคนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นความสูญเสียสำหรับมิตรประเทศทั่วโลก... พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงอุทิศพระองค์เพื่อความเป็นเอกภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขของปวงชนชาวไทย ความเป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพ และการอุทิศพระองค์เพื่อบ้านเมืองอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยด้วยพระราชจริยวัตรที่งดงาม จะอยู่ในความทรงจำของประชาชนคนไทยตลอดไป”

“ในห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้าสำหรับท่านและคนไทยทั้งประเทศ ขอให้ผมในฐานะผู้แทนรัฐบาลและประชาชนชาวกัมพูชาได้แสดงความเห็นอกเห็นใจและความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงรัฐบาลและปวงชนชาวไทย เนื่องในความสูญเสียอันยิ่งใหญ่นี้”

จากถ้อยคำแสดงความอาลัยที่ยกมาได้เพียงบางส่วนแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ไม่เพียงทรงเป็นที่รักและเทิดทูนในฐานะ “พ่อ” ของพสกนิกรชาวไทยเท่านั้น แต่ยังทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกต่างแซ่ซ้องพระเกียรติคุณ และจะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยและผู้คนทั่วโลกตลอดไป


กำลังโหลดความคิดเห็น