“เชลียร์” เป็นอันตรายต่อ “ผู้นำชาติไทย” ทุกคน...!!!
แน่นอน...ทั้งหมดอยู่ที่ตัว “ผู้นำชาติ” ว่ามีจุดยืนถูกต้องมั่นคงไหม?
ถ้า “ผู้นำชาติ” ปัญญาดี และเข้าใจปัญหาชาติถ่องแท้ แม้ “ใครหลายคน” จะรุมเชลียร์เช้ายันเย็น “ผู้นำชาติที่ดีจริง” ย่อมไม่ตกเป็นทาสน้ำลายของ “นักเชลียร์” ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน
เพราะ “นักเชลียร์” ที่ไม่บริสุทธิ์ใจ มักเชลียร์ “ผู้นำชาติ” โดยไม่คำนึงถึงถูก-ผิด ควร-ไม่ควร ดี-ไม่ดี หรือเชลียร์ส่งเดช ฯลฯ ถ้า “ผู้นำชาติ” เชื่อโดยไม่ยั้งคิด “ท.ผ.น.ช.พ.น.” (ท่านผู้นำชาติพังแน่!)
ส่วน “ผู้หวังดี” ที่จริงใจต่อ “ผู้นำชาติที่ดี” นั้น ต้องเสนอแนะสิ่งที่ดีให้ “ผู้นำชาติ” พิจารณา ส่วน “ผู้นำชาติ” จะนำไปใช้หรือไม่...“ผู้นำชาติ” ตัดสินใจเองครับ
แต่ที่สำคัญ-คือ-“ผู้หวังดี” ที่จริงใจต่อ “ผู้นำชาติ” ต้องกล้าวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ในสิ่งที่ “ผู้นำชาติ” หรือคณะรัฐบาลกระทำเรื่องไม่ควร เรื่องไม่ถูกต้อง เรื่องไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องคนในรัฐบาลคอร์รัปชัน ซึ่งนำความเสียหายให้ชาติและประชาชน อ้อ...รวมไปถึงตัว “ผู้นำชาติ” เองด้วย!
การคอร์รัปชันโกงชาติ-เป็น-เรื่องโคตรชั่วร้าย! มักเกิดทั้งกับรัฐบาลใช้เงินและใช้ปืนยึดอำนาจรัฐ ทำให้ “ผู้นำชาติ” เสียชื่อเสียง และประชาชนเสื่อมศรัทธาในรัฐบาล ดังนั้น “ผู้นำชาติที่ดีจริง” ต้องสำเร็จโทษคนทำผิดอย่างเด็ดขาดโดยไว
ที่ผ่านมา...ขบวนการยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและโกงเลือกตั้ง ชอบอ้างหน้าด้านๆว่า เป็นรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย (จอมปลอม) มาโดยประชาชน (ใช้เงินซื้อเสียง) หย่อนบัตรเลือกตั้งให้ ดังนั้น รัฐบาลทุนสามานย์จึงถอนทุนบวกกำไรมหาศาล ด้วยการโกงชาติ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
เฉกเช่น นายกฯ “เหลี่ยม” ที่ยึดอำนาจรัฐแค่ไม่กี่ปี ก็โกงเงินชาติไปหลายแสนล้านบาท! รัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” ก็ผลาญและโกงเงินชาติ แค่โครงการ “จำนำข้าว” ก็มากกว่า 6-7 แสนล้านบาท!
แต่ทุกวันนี้...กลุ่มคนชั่วโกงชาติยังลอยนวล ยังโกหกคนไทยอย่างหน้าด้านๆ ว่า พวกเขาทำเพื่อประชาชน ทั้งๆ ที่พรรคพวก “เหลี่ยม” ร่ำรวยเงินทองกันถ้วนหน้า ในขณะที่คนจนกลับจนลงๆ ทำให้สังคมไทยอยู่ในสภาพ “รวยกระจุก จนกระจาย” ไปแล้ว
ยุคเหลี่ยมกับเครือข่ายครองเมือง “นักเชลียร์” ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งข้าราชการ-นักธุรกิจ-นักวิชาการ-สื่อมวลชน-มิใช่น้อย เชลียร์ด้วยวิธีปกปิดเรื่องชั่ว“เหลี่ยม” แถมเปลี่ยน “ความชั่ว” ของ “เหลี่ยม” ด้วยการโกหกผู้คนว่าเป็น “ความดี”อีกด้วย
ยิ่งเรื่องรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” สุมหัวกันโกงชาติ ถูกเปิดโปงโดยข้าราชการ-นักวิชาการ-สื่อที่ดี แต่ผู้หลงในอำนาจและเงินตรา “เหลี่ยม” กลับแสร้งทำ “เงียบ” ราว“ปากอมสากกะเบือ” เพื่อเลี่ยงพูดถึงความชั่วของ “เหลี่ยม” และเครือข่าย แม้เรื่องสุดฉาวอย่างโครงการ “จำนำข้าว” ข้าราชการ-นักวิชาการ-สื่อชั่วจำนวนหนึ่ง ยังกล้ารับใช้ “เหลี่ยม” ด้วยการ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” เสียดื้อๆ
หลังรัฐบาลโกงชาติ “เหลี่ยม” ถูกรัฐประหาร ชาติไทยจำต้องมี “รัฐบาลเผด็จการทหาร” และแม้รัฐบาลทหารจะทำดีเช่นไร เครือข่าย “เหลี่ยม” ในทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งมะกันและชาติตะวันตก ก็จะโผล่ออกมาสลอน ประสานเสียงประณามรัฐบาลทหาร และสนับสนุน “เหลี่ยม” ในทุกเรื่อง เช่น
เมื่อ “เหลี่ยม” ร่วมกับ “กลุ่มล้มเจ้า” เคลื่อนไหวทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ มุ่งสร้างรัฐไทยใหม่แบบมะกัน เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112
กลไกรัฐกับสื่อมะกันและชาติตะวันตก รวมทั้ง “เลขาฯ ยูเอ็น” ก็ละเมิดกฎบัตรของ “ยูเอ็น” เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทยทันที โดยร่วมกดดันให้ไทยยกเลิกมาตรา 112 ตาม “เหลี่ยม”
บางหน่วยงาน “ยูเอ็น” เช่น “ยูเอ็นเอชซีอาร์” ถึงกับช่วยพวกล้มเจ้าบางคน ให้หนีกฎหมายไปอยู่ต่างประเทศ และยังคงปฏิบัติการทำลายชาติไทยมาจนทุกวันนี้รัฐบาล “เหลี่ยม” เคยได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากประชาชน แต่หมดอำนาจลงจากความเหิมเกริม เพราะโกงมโหฬาร และหลงคำเชลียร์ จน “เหลี่ยม” บังอาจยกตนว่า เป็นที่รักยิ่งของชาวไทยเหนือใครในโลกหล้า!
รัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย จึงถูกประชาชนขับไล่อย่างต่อเนื่อง จนทหารจำต้องทำรัฐประหารถึงสองครั้ง
ดังนั้น นอกจาก “ผู้นำชาติ” ต้องระวังเรื่องการโกงชาติแล้ว ยังต้องระวังภัยจาก“นักเชลียร์” เพราะนอกจากชาติกับประชาชนจะเสียหายแล้ว ตัว “ผู้นำชาติ” เองนั่นแหละ จะเสียชื่อเสียงและเสียผู้เสียคนไปด้วย ที่สำคัญคือ เสียโอกาสที่จะได้เป็น“วีรบุรุษชาติ” หากแต่กลายเป็น “โมฆบุรุษชาติ” ไปอย่างน่าเสียดาย!
ด้วย “ผู้นำชาติ” ที่ไม่กล้าทำผลงานดีๆ ให้ชาติ ปล่อยปละให้มีการโกงชาติ หลงในน้ำคำพวกเชลียร์ ฯลฯ จนเป็นได้แค่ “ผู้นำชาติธรรมดาๆ” คนหนึ่ง ที่ไร้ผลงานโดดเด่นจับใจประชาชน
ที่ร้ายไปกว่านั้น “ผู้นำชาติ” บางคนถึงกับเผยธาตุแท้แปรเปลี่ยนเป็น “ทรราช” เสียฉิบ!...ใช่ไหม “เหลี่ยม?”
ขอขอบคุณ “พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์” ที่กรุณาส่งวาทะของ “ลี กวน ยู” นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์มาให้ ผู้เขียนจึงขอส่งต่อไปถึง นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 “ผู้นำชาติไทย” คนปัจจุบัน ได้นำไปพิจารณา ดังนี้
“ระบอบเผด็จการ ถ้าได้ผู้นำที่ดี ประเทศก็เจริญก้าวหน้าได้มากกว่าระบอบประชาธิปไตย ที่ได้ผู้นำเลว”
เวลา-ที่ผ่านโดยไม่คุ้มกับคำเชลียร์ไร้เหตุผล เป็นภัยอย่างใหญ่หลวงต่อ “ผู้นำชาติที่ดี!”
เวลา-ทำ-ความดี-ด้วย-ผลงานโดดเด่น เพื่อชาติและเพื่อเป็น “วีรบุรุษชาติไทย” ของ “บิ๊กตู่” กำลังนับถอยหลังแล้ว...!!
แน่นอน...ทั้งหมดอยู่ที่ตัว “ผู้นำชาติ” ว่ามีจุดยืนถูกต้องมั่นคงไหม?
ถ้า “ผู้นำชาติ” ปัญญาดี และเข้าใจปัญหาชาติถ่องแท้ แม้ “ใครหลายคน” จะรุมเชลียร์เช้ายันเย็น “ผู้นำชาติที่ดีจริง” ย่อมไม่ตกเป็นทาสน้ำลายของ “นักเชลียร์” ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน
เพราะ “นักเชลียร์” ที่ไม่บริสุทธิ์ใจ มักเชลียร์ “ผู้นำชาติ” โดยไม่คำนึงถึงถูก-ผิด ควร-ไม่ควร ดี-ไม่ดี หรือเชลียร์ส่งเดช ฯลฯ ถ้า “ผู้นำชาติ” เชื่อโดยไม่ยั้งคิด “ท.ผ.น.ช.พ.น.” (ท่านผู้นำชาติพังแน่!)
ส่วน “ผู้หวังดี” ที่จริงใจต่อ “ผู้นำชาติที่ดี” นั้น ต้องเสนอแนะสิ่งที่ดีให้ “ผู้นำชาติ” พิจารณา ส่วน “ผู้นำชาติ” จะนำไปใช้หรือไม่...“ผู้นำชาติ” ตัดสินใจเองครับ
แต่ที่สำคัญ-คือ-“ผู้หวังดี” ที่จริงใจต่อ “ผู้นำชาติ” ต้องกล้าวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ในสิ่งที่ “ผู้นำชาติ” หรือคณะรัฐบาลกระทำเรื่องไม่ควร เรื่องไม่ถูกต้อง เรื่องไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องคนในรัฐบาลคอร์รัปชัน ซึ่งนำความเสียหายให้ชาติและประชาชน อ้อ...รวมไปถึงตัว “ผู้นำชาติ” เองด้วย!
การคอร์รัปชันโกงชาติ-เป็น-เรื่องโคตรชั่วร้าย! มักเกิดทั้งกับรัฐบาลใช้เงินและใช้ปืนยึดอำนาจรัฐ ทำให้ “ผู้นำชาติ” เสียชื่อเสียง และประชาชนเสื่อมศรัทธาในรัฐบาล ดังนั้น “ผู้นำชาติที่ดีจริง” ต้องสำเร็จโทษคนทำผิดอย่างเด็ดขาดโดยไว
ที่ผ่านมา...ขบวนการยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและโกงเลือกตั้ง ชอบอ้างหน้าด้านๆว่า เป็นรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย (จอมปลอม) มาโดยประชาชน (ใช้เงินซื้อเสียง) หย่อนบัตรเลือกตั้งให้ ดังนั้น รัฐบาลทุนสามานย์จึงถอนทุนบวกกำไรมหาศาล ด้วยการโกงชาติ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
เฉกเช่น นายกฯ “เหลี่ยม” ที่ยึดอำนาจรัฐแค่ไม่กี่ปี ก็โกงเงินชาติไปหลายแสนล้านบาท! รัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” ก็ผลาญและโกงเงินชาติ แค่โครงการ “จำนำข้าว” ก็มากกว่า 6-7 แสนล้านบาท!
แต่ทุกวันนี้...กลุ่มคนชั่วโกงชาติยังลอยนวล ยังโกหกคนไทยอย่างหน้าด้านๆ ว่า พวกเขาทำเพื่อประชาชน ทั้งๆ ที่พรรคพวก “เหลี่ยม” ร่ำรวยเงินทองกันถ้วนหน้า ในขณะที่คนจนกลับจนลงๆ ทำให้สังคมไทยอยู่ในสภาพ “รวยกระจุก จนกระจาย” ไปแล้ว
ยุคเหลี่ยมกับเครือข่ายครองเมือง “นักเชลียร์” ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งข้าราชการ-นักธุรกิจ-นักวิชาการ-สื่อมวลชน-มิใช่น้อย เชลียร์ด้วยวิธีปกปิดเรื่องชั่ว“เหลี่ยม” แถมเปลี่ยน “ความชั่ว” ของ “เหลี่ยม” ด้วยการโกหกผู้คนว่าเป็น “ความดี”อีกด้วย
ยิ่งเรื่องรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” สุมหัวกันโกงชาติ ถูกเปิดโปงโดยข้าราชการ-นักวิชาการ-สื่อที่ดี แต่ผู้หลงในอำนาจและเงินตรา “เหลี่ยม” กลับแสร้งทำ “เงียบ” ราว“ปากอมสากกะเบือ” เพื่อเลี่ยงพูดถึงความชั่วของ “เหลี่ยม” และเครือข่าย แม้เรื่องสุดฉาวอย่างโครงการ “จำนำข้าว” ข้าราชการ-นักวิชาการ-สื่อชั่วจำนวนหนึ่ง ยังกล้ารับใช้ “เหลี่ยม” ด้วยการ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” เสียดื้อๆ
หลังรัฐบาลโกงชาติ “เหลี่ยม” ถูกรัฐประหาร ชาติไทยจำต้องมี “รัฐบาลเผด็จการทหาร” และแม้รัฐบาลทหารจะทำดีเช่นไร เครือข่าย “เหลี่ยม” ในทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งมะกันและชาติตะวันตก ก็จะโผล่ออกมาสลอน ประสานเสียงประณามรัฐบาลทหาร และสนับสนุน “เหลี่ยม” ในทุกเรื่อง เช่น
เมื่อ “เหลี่ยม” ร่วมกับ “กลุ่มล้มเจ้า” เคลื่อนไหวทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ มุ่งสร้างรัฐไทยใหม่แบบมะกัน เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112
กลไกรัฐกับสื่อมะกันและชาติตะวันตก รวมทั้ง “เลขาฯ ยูเอ็น” ก็ละเมิดกฎบัตรของ “ยูเอ็น” เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทยทันที โดยร่วมกดดันให้ไทยยกเลิกมาตรา 112 ตาม “เหลี่ยม”
บางหน่วยงาน “ยูเอ็น” เช่น “ยูเอ็นเอชซีอาร์” ถึงกับช่วยพวกล้มเจ้าบางคน ให้หนีกฎหมายไปอยู่ต่างประเทศ และยังคงปฏิบัติการทำลายชาติไทยมาจนทุกวันนี้รัฐบาล “เหลี่ยม” เคยได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากประชาชน แต่หมดอำนาจลงจากความเหิมเกริม เพราะโกงมโหฬาร และหลงคำเชลียร์ จน “เหลี่ยม” บังอาจยกตนว่า เป็นที่รักยิ่งของชาวไทยเหนือใครในโลกหล้า!
รัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย จึงถูกประชาชนขับไล่อย่างต่อเนื่อง จนทหารจำต้องทำรัฐประหารถึงสองครั้ง
ดังนั้น นอกจาก “ผู้นำชาติ” ต้องระวังเรื่องการโกงชาติแล้ว ยังต้องระวังภัยจาก“นักเชลียร์” เพราะนอกจากชาติกับประชาชนจะเสียหายแล้ว ตัว “ผู้นำชาติ” เองนั่นแหละ จะเสียชื่อเสียงและเสียผู้เสียคนไปด้วย ที่สำคัญคือ เสียโอกาสที่จะได้เป็น“วีรบุรุษชาติ” หากแต่กลายเป็น “โมฆบุรุษชาติ” ไปอย่างน่าเสียดาย!
ด้วย “ผู้นำชาติ” ที่ไม่กล้าทำผลงานดีๆ ให้ชาติ ปล่อยปละให้มีการโกงชาติ หลงในน้ำคำพวกเชลียร์ ฯลฯ จนเป็นได้แค่ “ผู้นำชาติธรรมดาๆ” คนหนึ่ง ที่ไร้ผลงานโดดเด่นจับใจประชาชน
ที่ร้ายไปกว่านั้น “ผู้นำชาติ” บางคนถึงกับเผยธาตุแท้แปรเปลี่ยนเป็น “ทรราช” เสียฉิบ!...ใช่ไหม “เหลี่ยม?”
ขอขอบคุณ “พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์” ที่กรุณาส่งวาทะของ “ลี กวน ยู” นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์มาให้ ผู้เขียนจึงขอส่งต่อไปถึง นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 “ผู้นำชาติไทย” คนปัจจุบัน ได้นำไปพิจารณา ดังนี้
“ระบอบเผด็จการ ถ้าได้ผู้นำที่ดี ประเทศก็เจริญก้าวหน้าได้มากกว่าระบอบประชาธิปไตย ที่ได้ผู้นำเลว”
เวลา-ที่ผ่านโดยไม่คุ้มกับคำเชลียร์ไร้เหตุผล เป็นภัยอย่างใหญ่หลวงต่อ “ผู้นำชาติที่ดี!”
เวลา-ทำ-ความดี-ด้วย-ผลงานโดดเด่น เพื่อชาติและเพื่อเป็น “วีรบุรุษชาติไทย” ของ “บิ๊กตู่” กำลังนับถอยหลังแล้ว...!!
