ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -งานนี้ต้องพังกันไปข้างหนึ่ง ไม่ฝ่ายเพื่อไทย ก็รัฐบาลเรือแป๊ะ ไม่ใครก็ใคร หลังเปิดสงครามจิตวิทยาใส่กันมาสักระยะตั้งแต่จั่วหัวปีลิงเป็นต้นมา
ฝ่ายทักษิณ ชินวัตรก่อน ช่วงนี้เดินสายร่อนให้สัมภาษณ์รัว ทำตัวเป็นข่าวยึดหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ได้ทุกวัน ออกมาเร็วกว่าเวลาแบบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องพี่ชายที่แสนดีต้องออกมาปกป้องน้องสาวที่ขาแหย่คุกไปข้างหนึ่งแล้วแน่ แต่ใจคอจะหักลำโค่นให้ได้
นั่นเป็นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ที่ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำลังร่าง ถ้าผ่านประชามติไปได้ ไม่ใช่แค่น้องสาวอย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนเดียวที่จะเดือดร้อน แต่ระส่ำระส่ายกันทั้งองคาพยพ อย่าว่าแต่บอนไซเลย หากให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ต่อสักอีก 5 ปี ทั้งรากทั้งโคนระบอบทักษิณ ก็ไม่เหลือ
ถ้าจะเอาปลอดภัยกันทั้งหมดต้องโหดถึงขั้นคว่ำเรือแป๊ะให้ได้ เร้ากระแสกันตั้งแต่เรื่องพระ เรื่องเจ้า ตีปี๊บรัฐบาลจงใจจับแช่การตั้งแต่พระสังฆราชองค์ใหม่ หยิบปัญหาภัยแล้งที่กำลังได้รับผลกระทบถ้วนหน้าไปสะกิดต่อมลำบากชาวนาชาวไร่ให้อดรนทนไม่ได้ ออกมาตะเพิดใส่รัฐบาล ได้จังหวะดิสเครดิตปมไม่มีน้ำยาแก้ปัญหา ตลอดจนการรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ในการทำประชามติที่จะถึง
ถ้าดวงดี บังเอิญทุกอย่างประจวบเหมาะ เกิดสภาวะสุกงอม เรือแป๊ะก็เรือแป๊ะแตกกลางมหาสมุทรได้เหมือนกัน!
ขณะที่รัฐบาลก็ไม่ได้แตกต่างจากอีกขั้วเลย เอากันสุดซอยเหมือนกัน หาทุกช่องทางต่อท่ออำนาจ โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋ ที่ไปๆ มาๆ น่าจะหมุนเข็มนาฬิกาวกกลับไปปัดฝุ่นรัฐธรรมนูญปี 2521 ให้ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งทั้งพวง ไม่ต้องมาเลือกตั้งทางอ้อมหรือไขว้กันให้มั่วซั่ว เหมือนที่บรรจุเอาไว้ในร่างแรก ก็ดูโทนเสียงพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์อย่าง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เอาแล้วกัน เชียร์สูตรนี้แบบออกนอกหน้านอกตา แล้วมันจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร
ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ทำกันมาเป็นระบบ เป็นขบวนการ โดยเริ่มจากให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีเหล่าทัพท็อปบูตอยู่ค่อนสภา และรู้กันว่า เป็น“สภาของพี่ใหญ่”ส่งข้อเสนอแนะในนามสนช. ขอให้กรธ.ปรับแก้ให้ส.ว.ชุดแรกทั้งหมดมาจากการสรรหา ร้องขอกันตามกฎหมาย ไม่ให้ดูเป็นเหมือนใบสั่งจากใคร ขณะที่ข้อเสนอแนะข้อที่ 16 ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ฮือฮากันว่า จะให้ใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ขยัก เอาเข้าจริงก็แค่ฉากปาหี่ลวงโลก สับขาหลอก สุดโต่งเข้าไว้ พอคนไม่เอา ก็เลิกราไปเท่านั้น
แต่ของจริงจุดประสงค์แป๊ะตอนนี้ชัด ต้องการส.ว.แต่งตั้ง 200 คน มาต่อท่ออำนาจหลังลงจากหลังเสือ เพื่อถ่วงดุลอำนาจนักการเมืองในเวทีสภา เป็นการลอกโมเดลรัฐธรรมนูญปี 2521 ที่ให้ ส.ส.และ ส.ว. ร่วมกันเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี โดยส.ว. 200 คน จะเป็นฐานเสียงที่เป็นต้นทุนตายตัว ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะไปกวาดต้อนเอาจากส.ส. จากจำนวนทั้งหมดที่มี 500 คน หากแป๊ะไปดึงเอาออกมาสักครึ่งหนึ่งได้ สิทธิ์เด็ดขาดในการเลือกนายกฯ จะไปไหนไกล
เรื่องดึงก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร อย่างวันนี้ที่รู้กัน บรรดาพรรคขนาดเล็ก ขนาดกลาง พร้อมไหลลื่นมาอยู่กับฝั่งแป๊ะทั้งนั้น บางส่วนก็โดนดึงมาอยู่ใต้ปีกไปเรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำ เหลือแค่เกลี้ยกล่อมเด็กหัวดื้ออย่างพรรคประชาธิปัตย์อีกนิดนึง ก็เป็นอันจบเห่ พอถึงเวลาเปิดสภาเลือกนายกฯ คงไม่ต้องบอกว่า คนนอกมาแน่ !
ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่มีทางมาอยู่แล้ว หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร ต่อให้ชนะท่วมท้นแค่ไหน แต่พอมาเจอบวก ส.ว. 200 คนของฝั่งนี้ ต้องชนะการเลือกตั้งส.ส.ให้ได้ 100% หรือกินทุกเขตพื้นที่นั่นแหละถึงจะมีสิทธิ์เสนอชื่อนายกฯได้ ซึ่งมันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
งานนี้มาแน่ แต่จะมาท้ายๆ ปล่อยให้หลายคนตายใจ หลงกลวิพากษ์วิจารณ์เรื่องบทเฉพาะกาลกันไปก่อน แขวนเรื่องข้อเสนอส.ว. แต่งตั้ง 200 คนเอาไว้เงียบๆ พอช่วงโค้งสุดท้ายก็หักดิบจับยัดใส่ไปเพื่อทำประชามติเลย
จะว่าไปเรื่องนี้มันก็เหมือนเป็นการเล่นเพาเวอร์เพลย์ของคนกันเองด้วย เพราะก่อนหน้านี้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกของซือแป๋มีชัย แทบจะมอบอำนาจชี้เป็นชี้ตายประเทศไทยให้ไปอยู่ในกำมือตุลาการเกือบหมด โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีหน้าที่ฝ่าวิกฤติ ซึ่งก็รู้กันดีว่า ซือแป๋มีชัยนั้น มีความแนบแน่นกับผู้มากบารมีแห่งบ้านน้อยเสา การมอบอำนาจให้แก่ตุลาการจำนวนมหาศาล ก็สะท้อนให้เห็นว่า ผู้มากบารมีคนเก่ายังทรงอิทธิพล ต่อไปก็ยังคอยถ่วงดุลอำนาจได้ ดังนั้นก็เลยต้อง "รีบาลานซ์" ดึงอำนาจกลับมาจากศาล มาให้อยู่ในมือทหาร ในฐานะผู้มากบารมีคนใหม่บ้าง
แต่ไม่ว่า จะเลือกทางไหน มันก็ดูสุดโต่งให้คนนินทาหมาดูถูกอยู่ดี และยากที่จะให้ประชาชนยอมรับในการทำประชามติครั้งนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะแท้งกลางสนามรบอีกกระลอก และถ้าแท้งขึ้นมาจริงๆ โอกาสจะลากยาวอยู่บนคานอำนาจแบบสบายๆ ไม่ง่ายอีกต่อไป ต้องอย่าลืมว่า ฝ่ายเพื่อไทย ก็ตั้งใจเอาล่อเอาเถิดกันให้ตายไปข้างเหมือนกัน
ยิ่งประชามติไม่ผ่าน หวานหมูในการปลุกระดม แค่หาเงื่อนไขอื่นๆ ที่สุกงอมมาผสม ล่อรัฐบาลได้แบบสบายๆ !
จะเห็นได้ว่า เจตนาของรัฐบาลไม่ว่าจะสูตรไหน ผลลัพธ์และเป้าหมายที่จะไปถึงล้วนคือ การต่อท่ออำนาจตัวเองทั้งสิ้น มีเรื่องให้คนต้องนินทาอยู่เสมอ ตั้งแต่คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) เรื่อยมาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่เข้ามาทำหน้าที่ตรวจการรัฐบาลชุดหน้าว่า ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 20 ปี ของแป๊ะหรือไม่ จนมาถึง ส.ว. ลากตั้ง 200 คน เพื่อเป็นต้นทุนดันใครบางคนเป็นนายกฯคนนอก
ตามกระแสข่าวที่ออกมา “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. หมายมั่นปั้นมือไว้แล้วรัฐประหารครั้งนี้ต้องไม่เสียของเหมือน“บิ๊กบัง”พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ปล่อยให้ระบอบทักษิณยังอยู่ แต่งานนี้ต้องถอนให้หมด ซึ่งเวลาเปลี่ยนผ่าน 5 ปีที่ “บิ๊กตู่”ประกาศขอเอาไว้ ก็คือเวลาที่ประเมินแล้วว่า จะเพียงพอตอนการทำลายล้างระบอบทักษิณหมดได้
แต่ปัญหาคือ“บิ๊กตู่”จะไปถึงตรงนั้นได้ก็ต้องฝ่าด่านประชามติก่อน ซึ่งแค่คนเห็นโมเดลวิปโยค 2521 ก็ขวัญหนีดีฝ่อกันหมดแล้ว
