xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เรือแป๊ะติดกองสวะ ข้าราชการเกียร์ว่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ไม่นับข้าราชการที่พัวพันกับการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งถูกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดการดีดพ้นเก้าอี้แบบโดมิโนก่อนหน้านี้ ต้องถือว่า การโยกย้ายข้าราชการในช่วงกลางปีนี้น่าจับตาไม่น้อย

โดยเฉพาะพวกตำแหน่งระดับสูงที่โดนเด้งฟ้าผ่าแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวหลายคน บางคนถูกโยกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องได้ราว บางคนหลุดจากตำแหน่งใหญ่โตเพราะเตรียมตัวเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน เปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาสานงานต่อ แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ถูกจับดอง เพราะไม่สนองงาน ทำตัวเกียร์ว่าง

เรื่องข้าราชการเกียร์ว่าง วางเฉยในรัฐบาลชุดนี้ มียั้วเยี๊ยะเต็มไปหมด เป็นปัจจัยสำคัญทำให้งานของรัฐบาลติดหล่ม ไม่ค่อยคืบหน้าไปไหน การแก้ไขปัญหาหลายอย่างไม่เดินหน้าไปอย่างที่ควรจะเป็น อย่างที่ “บิ๊กตู่”มักจะหงุดหงิดเรื่องนี้ให้เห็นบ่อยๆ เพราะข้าราชการถือเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน หากมือไม้ดังกล่าวนี้ไม่สอดประสานกับนโยบายของรัฐบาล โอกาสจะสำเร็จลุล่วง ย่อมเป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้เลย

ข้าราชการเกียร์ว่างที่แฝงตัวอยู่ในรัฐบาลชุดนี้มีหลายประเภท ทั้งประเภททำงานเช้าชามเย็นชาม ตามสโลแกนประจำประเทศไทย ก็มีไม่น้อย สักแต่ว่าทำ แต่ไม่รีบเร่ง ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง ไม่ตระหนักและให้ความสำคัญเท่าที่ควร เพราะถือว่าธุระไม่ใช่

ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร เหนื่อยแทบตายก็ไม่ได้อะไรกลับคืน เลยอยู่กินเงินเดือนซึ่งมาจากภาษีของประชาชนไปวันๆ ทั้งที่ประชาชนหวังจะให้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ต้องสูญเสียไป ออกดอกเป็นมรรคเป็นผล เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่อยากทำงานรับใช้รัฐบาล แต่ก็ให้คิดเสียว่าทำงานรับใช้ประเทศชาติประชาชน หรือว่ามีหัวแค่ไว้กั้นหู !!

อีกพวกก็เป็นประเภทรอเวลา นับถอยหลังให้รัฐบาลทหารพ้นๆ ไปสักที เพราะเคยชินกับระบบเส้นสาย ถนัดกับการใช้ลิ้นเลียแข้งเลียขาให้ได้ดี ประจบสอพลอนักการเมืองให้ได้เลื่อนชั้นมากกว่าการใช้ฝีมือ เพราะมองว่าเป็นทางลัดที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องออกแรง ซึ่งก็เป็นระบบที่รัฐบาลปกติมักจะใช้เลี้ยงข้าราชการไว้เป็นเครื่องไม้เครื่องมือตัวเอง ในการฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยที่ข้าราชการพวกนี้ไม่ได้รู้เลยว่า ยศถาบรรดาศักดิ์ที่เขามอบให้ เป็นการเจียดเศษข้าวเพื่อหลอกใช้ในการโกงกิน ก็สมประโยชน์กันไป เหมือนผีเน่ากับโลงผุ

ประเภทกลัวเจ็บตัว เลยไม่กล้าเปิดหน้าประเจิดประเจ้ออะไรมากนัก หวั่นผลกระทบจะเกิดกับตัวเองในอนาคต ยามนี้มีอยู่เพียบ กังวลว่าหากแสดงออกมามากไปจะสร้างความหมั่นไส้ให้นักการเมือง หาว่าทำงานสนองเผด็จการ เลือกข้างอยู่อีกฝั่ง พอวันหนึ่งนักการเมืองกลับเข้ามามีอำนาจ ตัวเองจะถูกจับเข้าไปตบยุง ไม่มีโอกาสได้เจริญเติบโตในหน้าที่ จึงทำงานแบบถนอมตัวเอง ไม่ใส่เต็มร้อย เพราะคิดว่ารัฐบาลชุดนี้มาเดี๋ยวก็ไป อยู่ได้ไม่กี่ปี ไม่เหมือนพวกนักการเมือง ที่อยู่ยาว หรือถ้าอยู่สั้นๆ เดี๋ยวก็วกไปเวียนมาใหม่อยู่ดี

ขณะที่พวกที่รอนายตัวเองกลับมายิ่งใหญ่น่าจะเยอะที่สุดในปัจจุบัน ทำแต่งสีกากีกันไป ข้างในนี่แดงฉูดฉาด เหลืองอร่าม ฟ้าใสกันเลยทีเดียว สั่งอะไรมาก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆ อ้างว่าติดปัญหานู่น ปัญหานี่เรื่อยไป หาเรื่องถ่วงให้งานไม่บรรลุผล โดนอคติเข้าครอบงำ โดนเด้งเข้ากรุก็ไม่สนไม่กลัว เพราะคิดว่าวันหนึ่งเมื่อนายตัวเองกลับมา ก็จะได้คุมแบ็กใหญ่โตเหมือนเดิม หนำซ้ำยังทำตัวเป็นไส้ศึก คอยคาบข่าวเสียๆ หายๆ ไปให้อีกฝั่ง

น่าเห็นใจรัฐบาลสีลายพรางอยู่เหมือนกัน เจอปัญหานี้เข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้ จะงัดไม้แข็งอย่าง มาตรา 44 มาจัดการ มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ที่ผ่านมาพยายามเชือดไก่ให้ลิงดู ฟันพวกข้าราชการขี้ฉ้อ เพื่อหวังให้เห็นเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ก็ได้ผลเท่าขี้เล็บ เพราะข้าราชการจำพวกเกียร์ว่างอื่นๆ ที่ไม่มีคดีติดตัว จะไปแตะต้องก็ทำอะไรมากไม่ได้ จับโยกย้ายเสียก็จะถูกคนนินทาหมาดูถูก ว่าบ้าอำนาจ เลยได้ใจกันไปใหญ่

อาณาจักรข้าราชการนี่รับรู้กันดีว่า ฤทธิ์เดชมหาศาล รัฐบาลชุดไหนโดนใส่เกียร์ว่าง เรียกว่าแทบจะเป็นง่อย ทำอะไรไม่ได้ เหตุนี้รัฐบาลจากการเลือกตั้งเลยมักขุนข้าราชการเหล่านี้เอาไว้ให้อยู่ดี กินดี เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ ต่างฝ่ายต่างสมประโยชน์กัน พอมาเจอรัฐบาลชุดนี้ ที่คนละสไตล์ ปิดช่องทางทำมาหากิน เลยได้เห็นปรากฏการณ์งานไม่กระดิก ต่อให้งัดมาตรการเด็ดขาดมาขู่ สุดท้ายก็เหมือนโยนหินใส่จอกแหน น้ำหายบานก็กลับมาเกาะกันเหมือนเดิม

ปัญหาของข้าราชการเหล่านี้ เป็นปัญหาสำคัญของประเทศมาช้านาน ปฏิรูปไปก็ไม่ได้ผล หากยังไร้จิตสำนึกในการตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำงานสนองนักการเมือง เป็นเบี้ยหมากให้นักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง เพียงเพื่อหวังลาภยศสรรเสริญแก่วงศ์ตระกูลตัวเองในช่วงรับราชการเพียงเท่านั้น แต่ต้องระลึกเสมอว่า ข้าราชการต้องทำงานสนองประชาชนให้คุ้มภาษี ทุกบาท ทุกสตางค์ เป็นทาสของแผ่นดิน เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และสร้างความเจริญรุ่งเรือง
 
ตอนนี้รัฐบาลกำลังตกที่นั่งลำบาก โดนปัจจัยหลายอย่างรุมเร้า นักการเมืองจ้องจะหาเรื่องเขย่า ต้องคอยใช้กระบองกดทับเอาไว้ ไม่ให้ลุกลาม ขณะที่เศรษฐกิจก็ทรุดหนักแทบโงหัวไม่ขึ้น ไม่มีสัญญาณอะไรในทางที่ดีเลยว่าจะฟื้นตัว เป้าหมายหลายอย่างที่ตั้งไว้ว่าจะแก้ให้สำเร็จเสร็จสิ้น ก็แทบจะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ข้าราชการที่หวังจะใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาประเทศ ก็เหยาะแหยะ ไม่สนองงาน สภาวะรัฐบาลรวมไปถึงประชาชนทั่วไปเหมือนคนอมทุกข์ ประเทศก็อมโรค

พวกเหล่าเสนาบดีทั้งหลายที่ตั้งใจเอามาช่วยงาน พูดไปก็ละเหี่ยใจ แทนที่จะช่วยกันพยุงเรือแป๊ะให้ไปถึงฝั่งฝัน แต่ไปๆ มาๆ เหมือนตัวเป็นสัมภาระเข้าทุกวัน ต้องอุ้มชู กระเตงกันไป เพราะเข้ามาล่มหัวจมท้ายแล้ว ทำงานแบบความเลวไม่มี ความดีไม่ปรากฏ จนโลกลืม จำกันไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใครอยู่กระทรวงไหน ไม่ต่างอะไรจากยุคขิงแก่ แม่ทัพนายกองที่ดึงมาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นรัฐมนตรี แทบไม่เห็นความวิเศษวิโสอะไร จนครม. จะกลายเป็นสโมสรนายพลอยู่แล้ว

ทำงานมาจะครบปีอีกไม่กี่วัน ยังไม่มีอะไรให้เห็นถึงความแตกต่าง โดยเฉพาะทีมงานเศรษฐกิจ วันนี้ยังไม่สามารถโชว์ฝีมือได้เลย นอกจากจ้องจะรีดภาษีประชาชน หลายคนหมดยุคหมดกึ๋นไปแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ๆ แต่“บิ๊กตู่”เองก็ยังใจแข็งอยู่ได้ ไม่ยอมปรับออก มัวแต่ดื้อ เพราะเกรงอกเกรงใจกัน ติดตรงอุตส่าห์ไปชวนมาขี่หลังเสือ เพราะหมดประโยชน์ก็จะถูกหาว่าเขี่ยทิ้ง จึงกลายเป็นวัวพันหลักกันอยู่อย่างนี้
 
นาทีนี้ไม้แข็งอะไรก็คงช่วยอะไรรัฐบาลไม่ได้มากนัก ถ้าทั้งข้าราชการและคนที่เกี่ยวข้องยังไม่สำนึกว่าต้องทำงานให้ประเทศ ปฏิรูปประเทศไทยก่อนอื่นใดต้องปฏิรูปจิตสำนึกคนก่อนละมั้งครับทั่นนายกฯ !!!


กำลังโหลดความคิดเห็น