เกาะกระแส
00 ในสัปดาห์หน้า วันที่ 22 พ.ค.58 ก็จะครบอายุ 1 ปี ของการเข้ามายึดอำนาจการปกครองของ คสช.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกว่า 6 เดือนของรัฐบาลที่มีผู้นำเป็นคนเดียวกัน ระยะเวลาแบบนี้มันก็ถึงเวลาที่จะต้องมีการตรวจวอบไล่เรียงกันได้เสียทีแล้วว่า "มีผลงานอยู่ในระดับใด"กันแน่ ของจริงหรือของปลอม หรือเข้ามาเพื่อบังคับคนอื่นแล้วตัวเองขอมีอำนาจไปวันๆหรือเปล่า ก็ต้องมาตั้งสติมานั่งทบทวนพิจารณากันว่าเป็นแบบใดกันแน่
00 สำหรับ ผลงาน 1ปีของคสช.แน่นอนว่าในระยะหลังอาจจะไม่ชัดเจนนัก เมื่อเทียบกันในช่วงแรกๆที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เพราะในระยะหลังเป็นการใช้อำนาจผ่านทางรัฐบาลเสียมากกว่า ในลักษณะที่ทับซ้อนกัน แต่ถ้าจะพูดก็ต้องพิจารณาแบบควบอำนาจและต้องเริ่มจากระดับผู้นำลงมาเพียงไม่กี่คน นั่นคือต้องเริ่มจาก หัวหน้าคสช.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถือว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในเรื่องผลงานเฉพาะตัวก็ต่องยอมรับว่าโดดเด่นเหนือคนอื่น จนเรียกได้ว่าทิ้งระยะห่างจากทีมงานร่วมคณะเดียวกัน"หลายช่วงตัว" จนกลายเป็นว่าระยะหลังจะ"เหนื่อยอยู่คนเดียว"
00 หันมาพิจารณาแบบต่อเนื่องในฐานะเป็นรัฐบาลกันบ้างเมื่อนับเวลาแล้วก็ผ่านมา 6 เดือนกว่า ทุกอย่างก็น่าจะเริ่มเห็นหน้าเห็นหลังกันบ้างแล้ว ก็ออกมาในแบบเดียวกันคือ คนที่มีผลงาน ทำงานกระฉับกระเฉงมีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่คนเดียว ส่วนรมต.คนอื่นที่เหลือ หากจะพอจดจำชื่อได้ก็อาจจะมี รองนายกฯด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น มี รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ที่ระยะหลังเริ่มมีผลงานมีแนวคิดที่พอจับต้องได้ อาจจะมี รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ที่พยายามสร้างความสัมพันธ์กันต่างประเทศ รมว.ท่องเที่ยวฯ กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ส่วนรมต.คนอื่นนอกจากเป็นข่าวคราวเพราะตำแหน่งหน้าที่แล้ว ส่วนผลงานความคิดริเริ่มแทบจะมองไม่เห็น และยังมีรมต.อีกหลายคน"มีเหมือนไม่มี"แทบจะไม่มีประโยชน์อย่าว่าแต่ผลงานเลย เอาแค่เคยโผล่หน้าออกมาให้เห็นบ้างก็แทบไม่มี ทำงานไม่ต่างจากข้าราชการประจำ แบบ"ไปเช้าเย็นกลับ" พูดแบบนี้เดี๋ยวก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงกันอีก แต่ถามสักคำว่าจริงหรือเปล่าละ !!
00 ในที่สุดก็เป็นไปตามคาดหมายมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า รธน.ฉบับใหม่จะต้องมีการทำประชามติแน่นอน เพราะสร้างความชอบธรรม และเป็นเกราะป้องกันเอาไว้สักชั้นหนึ่ง อ้างได้ว่าประชาชนได้อนุมัติมาให้แล้ว และที่สำคัญไว้ป้องกันพวกนักการเมืองไม่ให้สร้างเงื่อนไขป่วนลงได้ในระดับหนึ่ง ตามขั้นตอนหลังจากที่ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯลงนามในหนังสือเสนอทำประชามติแล้วจะเสนอไปยังรัฐบาล และคสช.ว่าจะให้ลงมติกันแบบไหน และก็กระจ่างกันเลยว่าจะมีการเลือกตั้งในราวปลายปีหน้า แต่ถ้า รธน.ไม่ผ่านหรือถูกคว่ำใน สปช.ก็ต้องนับหนึ่งใหม่ ใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 1-2 ปี !!
00 ที่น่าดีใจก็คือ เมื่อได้ฟังคำตอบจาก รองนายกฯวิษณุ เครืองาม ที่ปฏิเสธข้อเสนอของ สปช.บางกลุ่มที่ให้มีการต่ออายุการปฏิรูปอีก 2 ปี โดยให้กำหนดในรธน.ไปเลย ก็โชคดีที่ไหวตัวทัน ไม่เช่นนั้นเละแน่ ที่เละ เพราะมันจะทำให้เรื่องอื่นที่เริ่มตั้งไข่จะถูกบิดเบือนเจตนาให้เข้าใจผิดแบบเหมารวมว่า "บ้าอำนาจ"และจบไม่สวย !!