ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ทำท่าจะ “ซึ้งในรสพระธรรม” กันเป็นการใหญ่เสียแล้ว หลังจากที่ “พี่ใหญ่” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตัดสินใจนำร่องบรรพชาอุปสมบทและย้ายไปจำพรรษาพร้อมยึด วัดธารน้ำไหล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สวนโมกขพลาราม” เป็นฐานปฏิบัติการทางการเมือง
เพราะบัดนี้บรรดา “แกนนำ กปปส.” (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) และอดีตนักการเมืองคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ได้เจริญรอยตามหลวงลุงกำนันกันเป็นทิวแถว ด้วยการตัดสินใจบรรพชาอุปสมบทในโครงการบวชบำเพ็ญธรรมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 86 พรรษาในปีมหามงคล 2558 รุ่นที่ 2
แกนนำ กปปส.และอดีตนักการเมืองผู้ใฝ่ธรรมที่ปรากฏรายชื่อบวชมีดังต่อไปนี้
หนึ่ง-นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถมไม่ได้บวชคนเดียว หากแต่ชักชวนบุตรชายให้เข้าร่วมด้วย
สอง-นายอิสสระ สมชัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี หลายสมัย
สาม-นายธานี เทือกสุบรรณ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำนันเล็กผู้เป็นน้องชายของหลวงลุงกำนัน
สี่-นายสินิตย์ เลิศไกร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์
และห้า-นายชวนนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กำหนดการบวชรุ่นที่ 2 กำหนดจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2557 นี้
การตัดสินใจก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ของบุคคลเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ดีและคงต้องอนุโมทนาสาธุมา ณ ที่นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่พึงสังเกตจากการบวชครั้งนี้ในหลายประเด็นด้วยกัน
ประเด็นแรก เป็นการบวชเพราะด้วยศรัทธาในหลวงลุงกำนันหรือศรัทธาในสวนโมกขพลารามของท่านพุทธทาสภิกขุกันแน่
ประเด็นที่สอง การบวชครั้งแรกในรุ่นที่ 1 ซึ่งแรกเดิมทีตั้งเป้าเอาไว้ที่ 88 รูป แต่ขยับไปเป็น 137 รูป และการบวชในรุ่นที่ 2 นั้น ถือเป็นการเขียนประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้กับสวนโมกขพลาราม
เพราะหลังจากท่านพุทธทาสมรณภาพตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2536 สวนโมกขพลารามก็ไม่เปิดบวชพระภิกษุใหม่มานานร่วม 21 ปี กระทั่งหลวงลุงกำนันย้ายเข้ามาจำพรรษาที่สวนโมกขพลาราม
นั่นแสดงว่า ณ เวลานี้ หลวงลุงกำนันคือ พระภิกษุใหม่ผู้ทรงอิทธิพลแห่งสวนโมกขพลารามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะสามารถนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่สถานปฏิบัติทำแห่งนี้ได้โดยความยินยอมพร้อมใจของเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
แน่นอน คงไม่ต้องกล่าวถึงความขัดแย้งภายในสวนโมกขพลารามหลังการเข้ามารับตำแหน่งใหม่ของเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน จนกลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อกลุ่มเพื่อนสวนโมกข์ได้แชร์จดหมาย "จดหมายถึงเพื่อนสวนโมกข์" เขียนถึงกัลยาณมิตรของสวนโมกขพลาราม วิพากษ์เรื่องการบริหารจัดการ "เงิน" และถาวรวัตถุที่กำลังสร้างขึ้นใหม่ อันสวนทางกับหลักคำสอนของพุทธทาส
ครั้งนั้น ก่อกำเนิดถ้อยคำสำคัญที่เชื่อว่าศิษย์พุทธทาสยังคงจำได้ดี นั่นคือคำว่า “สวนโมกข์ผลัดใบ”
ส่วนครั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้คำว่า “สวนโมกข์เปลี่ยนไป” ได้หรือไม่ เพราะเมื่อดูจากรูปการที่เกิดขึ้นในมรดกธรรมของพุทธทาสวันนี้ สวนโมกขพลารามก็กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยฝีมือของหลวงลุงกำนัน ซึ่งต้องยอมรับว่ามีบทบาทสูงยิ่งถึงขนาดจัดให้มีการบวชพระภิกษุใหม่ให้เกิดขึ้นได้หลังว่างเว้นไปถึง 21 ปี
ที่สำคัญคือทำไมแกนนำของกปปส.และนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์หลายต่อหลายคนจึงพากันก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ และไม่ใช่แค่ในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้น หากแต่กระจายตัวไปในหลายพื้นที่
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ใช่มีความสัมพันธ์กับกรณีที่หลวงลุงกำนันเดินสายปราศรัยปกป้องรัฐบาลทหารแบบออกนอกหน้า ใช่หรือไม่
นี่ใช่เกี่ยวพันกับกระแสข่าวเรื่องการตั้งพรรคการเมืองของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช่หรือไม่
เชื่อว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ตระหนักถึงความเคลื่อนไหวของหลวงลุงกำนันในครั้งนี้เช่นกัน เพราะกระแสความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชาชาชีวะ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะตัวนายอภิสิทธิ์เองที่เวลานี้ถูกบดบังด้วยรัศมีของหลวงกำนันไปจนหมดสิ้น
มวลชน กปปส.อาจมิใช่มวลชนของพรรคประชาธิปัตย์ หากแต่กลายเป็นมวลชนส่วนตัวของหลวงลุงกำนัน
หลวงลุงกำนันกำลังคิดการใหญ่ใช่หรือไม่
วันนี้ คงต้องจับตาดูสวนโมกขพลารามภายใต้การนำของหลวงลุงกำนันอย่างใกล้ชิดว่าจะเดินไปในเส้นทางใด และลูกศิษย์หรือผู้ศรัทธาในธรรมของพุทธทาสภิกขุจะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเช่นไร และมีปฏิกิริยาอย่างไร
ที่สำคัญคือ หลวงลุงกำนันจะนำพามวลมหาประชาชน กปปส.ไปในทิศทางการเมืองสายใด
งานนี้ คงต้องย้ำกันอีกครั้งว่า หลวงลุงกำนันช่างล้ำลึกจริงๆ