ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กำลังกลายเป็นเรื่องเป็นราวที่สังคมกระหายใคร่รู้เป็นอย่างยิ่ง สำหรับ “ที่ดินมรดก” ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ได้แจ้งที่มาของเงินจำนวนดังกล่าวว่า พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดาได้ขายที่ดินในแขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ จำนวน 9 แปลง เนื้อที่ 50-3-08 ไร่ ให้แก่ บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เมื่อ 9 พ.ค.56 มูลค่า 600 ล้านบาท โดยผู้ซื้อได้ซื้อเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
และเมื่อขายได้ พ.อ.ประพัฒน์ก็ได้มอบเงินมรดกดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 540 ล้านบาทให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีสัมพันธ์ รับรองว่าได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 056-2-471xx-x ชื่อบัญชี พล.อ.ประยุทธ์ โดยโอนมาจากบัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 134-2-329xx-x ชื่อบัญชี พ.อ.ประพัฒน์ จำนวนเงิน 540 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2556 จริง
แต่สิ่งที่สังคมสนใจมีอยู่ 2 ประเด็นด้วยกันและขณะนี้กำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้จินตนาการกันไปต่างๆ นานา เนื่องเพราะการซื้อขายที่ดินครั้งนี้มีเชื่อมโยงกับชื่อ 2 ชื่อที่คนไทยรู้จักกันดี นั่นก็คือ หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์(British Virgin Islands) และนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
แน่นอน ทุกคนรู้ดีว่า “เจริญ สิริวัฒนภักดี” คือใคร และมีความร่ำรวย ระดับไหน
และแน่นอน ทุกคนย่อมรู้ดีอีกเช่นกันว่า หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์นั้นคือสวรรค์ของนักฟอกเงิน ซึ่งที่ผ่านมาหมู่เกาะแห่งนี้ถูกใช้ทำนิติกรรมอำพรางเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เช่นการเลี่ยงภาษี และการปกปิดการถือครองทรัพย์สิน เป็นต้น โดยหนึ่งในธุรกรรมทางการเงินที่เชื่อว่าคนไทยยังจำได้ไม่ลืมคือกรณีของนักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตรกับบริษัทที่มีชื่อว่า บริษัท Ample Rich Investments Limited ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เกิดขึ้นวันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2549 เมื่อนางกาญจนา หงษ์เหิร เลขาฯ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร แจ้งต่อ ก.ล.ต.ว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. บริษัท Ample Rich ขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่ น.ส.พิณทองทา และนายพานทองแท้ รวม 329.2 ล้านหุ้น และวันเดียวกัน คือ วันที่ 23 ม.ค. นางกาญจนา ก็เป็นตัวแทนแจ้งต่อ ก.ล.ต.แทน นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ว่า ได้ซื้อหุ้นจาก Ample Rich เมื่อวันที่ 20 ม.ค. มาคนละ 164.6 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท
กลายเป็นคดีซุกหุ้น...กลายเป็นคดีหลีกเลี่ยงภาษี....อันโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้น เมื่อการซื้อขายที่ดินมรกดของ พล.อ.ประยุทธ์มีชื่อของเกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า ไม่สามารถเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้
<
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า หลังการเปิดเผยข้อมูลโดย ป.ป.ช. สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม และพบความน่าสนใจของการซื้อขายครั้งนี้ว่า หลังจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ “ผู้ถือหุ้นใหญ่”ในบริษัทดังกล่าวมีที่อยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ไอส์แลนด์ และเชื่อมโยงกับธุรกิจของกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่และธุรกิจเครื่องดื่มแสนล้าน
โดยบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 2 พ.ค.56 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 20/164 หมู่บ้านอิ่มอัมพร 2 หมู่ที่ 11 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ขณะจดทะเบียนมีหุ้นใหญ่ 4 รายคือ
1.บริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด (บริษัทนี้มีนายศราวุธ เทียนสุวรรณ ถือหุ้น 100%) จำนวน 49,000 หุ้น
2.นายไพโรจน์ จาตุรแสงไพโรจน์ 30,000 หุ้น
3.นายประมวล ศรีรัตนา 11,000 หุ้น และ
4.นายศราวุธ เทียนสุวรรณ 10,000 หุ้น
รวมทั้งสิ้น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท นายศราวุธ เทียนสุวรรณ นายประมวล ศรีรัตนา และนายไพโรจน์ จาตุรแสงไพโรจน์ เป็นกรรมการผู้ขอจดทะเบียน
ในชั้นนี้ สิ่งที่ต้องต้องขีดเส้นใต้สองเส้นไว้ก็คือ บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดนั้น ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค.56 หรือตั้งก่อนหน้าที่จะซื้อขายที่ดินผืนนี้เพียงแค่ 7 วันเท่านั้น
จากนั้น สำนักข่าวอิศรารายงานต่อไปว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.56 วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด ไทรเด้นท์ ทรัส (บี.วี.ไอ.) ลิมิเต็ด ไทรเด้นท์ แซมเบอร์ ซึ่งตั้งอยู่ ณ ตู้ ป.ณ. 146 ,โรดทาวน์,ทอร์โทล่า , บริติชเวอร์จิน ไอร์แลนด์ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ จำนวน 49,000 หุ้น (รับโอนมาจาก บริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด)
21 มิ.ย.56 ได้เพิ่มทุนเป็น 200 ล้านบาท วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ด ได้เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 9,800,000 หุ้น จากทั้งหมด 10 ล้านหุ้น บริษัทได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงที่ตั้ง สำนักงานเลขที่ 195 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 54 ถ.สาธรใต้ กรุงเทพฯ
ต่อมาได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 628 ล้านบาท มีบริษัท นครชื่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 62,799,998 หุ้น จาก บริษัท ยอดกิจธุรกิจ จำกัด และ บริษัท พรนวภัณฑ์ จำกัด (ที่ตั้งเลขที่ 195 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 54 ถ.สาธรใต้ กรุงเทพฯ) รายละ 1 หุ้น รวมทั้งหมด 62,800,000 หุ้น มีนายมนตรี ศรีสกุลเมฆี นายพิชัย กนกพิชญไกร นายขวัญชัย ชูเกียรติขจรเดช น.ส.อัญชุลี เตมีรักษ์ เป็นกรรมการ
จากการตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นกรรมการบริษัทในเครือทีซีซีแลนด์ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
ทั้งนี้ บริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 มีนาคม 2556 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภค และเครื่องมือทางการแพทย์ 20/164 หมู่ที่ 11 หมู่บ้านอิ่มอัมพร 2 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร นายศราวุธ เทียนสุวรรณ ถือ 499,998 หุ้น (99.99%) นายประมวล ศรีรัตนา นางอรวรรณ ซื่อตรง คนละ 1 หุ้น
นายศราวุธ เทียนสุวรรณ เป็นคนใกล้ชิดนายเจริญ สิริวัฒนภักดี มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทนับสิบแห่ง อาทิ บริษัท ทรงวาดริเวอร์ไซด์ จำกัด บริษัท รัตนคีรี จำกัด บริษัท ทองพสุ จำกัด บริษัท ทองพสุ จำกัด บริษัท นิมิตสุโขทัย จำกัด เป็นต้น
สรุปสั้นๆ แต่ได้ใจความ ถึงเป็นประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตเพราะไม่เข้าใจว่า การซื้อขายที่ดินทำไมมันถึงได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเยี่ยงนี้ก็คือ
บริษัท 69 พร๊อพเพอร์ตี้ฯ ตั้งขึ้นก่อนการซื้อเพียง 7 วัน
บริษัท 69 พร๊อพเพอร์ตี้ฯ มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บริษัท ทรงวุฒิ บิสซิเนส จำกัด
ต่อมาอีกไม่กี่วัน บริษัททรงวุฒิฯ ก็ถ่ายโอนหุ้นทั้งหมดให้กับบริษัท วินเทคฯ
และสืบไปสืบมาบริษัท วินเทคฯ ก็ให้บังเอิญเป็นไปจดทะเบียนตั้งบริษัทอยู่ที่บริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์
จากนั้น บริษัท วินเทคฯ ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาทและเปลี่ยนแปลงที่ตั้งจากบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์มาอยู่ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ย่านสาทร
จากทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาทมีการเพิ่มทุนเป็น 628 ล้านบาท มีบริษัท นครชื่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 62,799,998 หุ้น จาก บริษัท ยอดกิจธุรกิจ จำกัด และ บริษัท พรนวภัณฑ์ จำกัด (ที่ตั้งเลขที่ 195 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 54 ถ.สาธรใต้ กรุงเทพฯ) รายละ 1 หุ้น รวมทั้งหมด 62,800,000 หุ้น
กรรมการบริษัทดังกล่าวเป็นกรรมการในเครือทีซีซีแลนด์ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
ขณะที่บริษัท ทรงวุฒิซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท 69 พร๊อพเพอร์ตี้ในครั้งแรก ก็มีนายศราวุธ เทียนสุวรรณ เป็นคนใกล้ชิดนายเจริญ สิริวัฒนภักดีเป็นผู้ถือหุ้น 100%
ส่วนกรณีที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดีเข้ามาเกี่ยวข้อง ถามว่าน่าแปลกใจหรือไม่ จะบอกว่าแปลกก็แปลก จะบอกว่าไม่แปลกก็ไม่แปลก เพราะการซื้อขายที่ดินก็เป็นเรื่องปกติวิสัยที่กระทำกัน
เพียงแต่ไม่แน่ใจว่า งานนี้ตกอยู่ในภาวา “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” หรือไม่
สำหรับราคาจากการตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์กรมธนารักษ์พบว่า มีการประเมินราคาไว้ 3 ระดับคือ ราคาประเมินต่ำสุด 4,000 บาทต่อตารางวา ราคาประเมินสูงสุด 15,000 บาทต่อตารางวา และราคาประเมินเฉลี่ย 10,375 บาทต่อตารางวา ขณะที่ราคาขายที่ดิน 9 แปลงในวงเงิน 600 ล้านบาทคิดเฉลี่ยอยู่ที่ตารางวาละประมาณ 29,545 บาท หรือไร่ละ 11.818 ล้านบาท
ที่สำคัญคือ ผู้ซื้ออาจมิได้สนใจในราคาประเมินของหน่วยงานราชการ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะปกติ “ราคาตลาด” จะสูงกว่าราคาประเมินของหน่วยงานราชการอยู่แล้ว
แต่เรื่องที่แปลกและจำต้องย้ำกันอีกรั้งก็คือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดคือบริษัท วินเทคฯ มีที่ตั้งอยู่บนเกาะซึ่งเป็นสวรรค์ของนักฟอกเงิน
นอกจากนี้ สิ่งที่สังคมกระหายใคร่รู้ก็คือ เมื่อซื้อแล้ว ทางบริษัทจะนำที่ดินผืนงามทั้ง 9 แปลงไปประกอบธุรกิจอะไร เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตามกฎหมายผังเมือง ที่ดินผืนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่สีเขียว ซึ่งจัดให้เป็นโซนที่อยู่อาศัยและทำเกษตรกรรม
ถ้าบริษัทจะทำธุรกิจก็สามารถทำได้ไม่มากนัก เช่น ไม่สามารถทำเป็นหมู่บ้านจัดสรรในลักษณะของทาวเฮาส์ได้ และถ้าจะทำก็ต้องทำเป็นบ้านเดียวขนาดตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไป หรือถ้าจะทำเป็นตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดในรูปแบบเดิมหรือตลาดสมัยใหม่(โมเดิร์นเทรด) ซึ่งกฎหมายผังเมืองอนุญาตเนื่องจากอยู่ติดถนนใหญ่ ก็สามารถทำได้ในขนาดที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เป็นต้น
กระนั้นก็ดี หลังปรากฏเป็นข่าว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า...
“มีปัญหาอะไร แล้วบริษัทที่มาซื้อเป็นบริษัทของใคร เขาคงไม่มาซื้ออะไรโง่ๆ ซื้อแล้วไปลงทุนไม่ได้ ซื้อไปทำไม มันเป็นของผมตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะผมอยู่กับพ่อ แล้วมันมีปัญหาอะไร ผมอยากจะรู้ กฎหมายว่าอย่างไร ไปว่ามาผมไม่ตอบขี้เกียจ”
เมื่อถามว่า มีการสงสัยถึงที่มาของบริษัทที่รับซื้อที่ดินดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ก็ไปสอบเขามาสิ เกี่ยวอะไรกับผม”
เมื่อถามอีกว่า นายกฯรู้สึกหนักใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่หนักใจแต่ก็ควรเลิกสักทีเถอะ โอเคนะ” จากนั้นก็รีบเดินเลี่ยงจากโพเดียมทันที
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างตอบคำถามผู้สื่อข่าวพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในท่าทีที่ปกติไม่ได้อาการโกรธแต่อย่างใด แต่บางช่วงได้เร่งให้ผู้สื่อข่าวถามจนต้องเอ่ยว่า “ไม่ต้องกลัวถามมาๆ” พร้อมกับทำท่าตบเท้าและย้ำเท้าขวากับที่จน เกิดเสียงแก๊กๆ แต่จังหวะที่ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องขายที่ดินมรดก พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับออกอาการยกมือขวาเคาะกับโพเดียมแหวนกระทบเกิดเสียงดังเป็นจังหวะ
ขณะที่ในวันเดียวกัน สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา ตามที่อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. คือ บ้านเลขที่ 224 หมู่ 1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพ ปรากฏหมายเลขโทรศัพท์จากบริการ 1133 คือ 02-426-16-XX เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายที่ดินจำนวน 9 แปลง มูลค่า 600 ล้านบาท ดังกล่าว
โดย พ.อ.ประพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบข้อมูลเรื่องการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจาก พล.อ.ประยุทธ์ เอง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบจัดการเรื่องทั้งหมด
เมื่อถามว่า ได้ที่ดินจำนวน 9 แปลง มาตั้งแต่เมื่อไร
พ.อ.ประพัฒน์ กล่าวว่า “ได้มาตั้งแต่ยังเด็ก พี่น้องไม่มีใครเหลืออยู่ มันก็เป็นของตนเอง ที่ดินมันอยู่ติดๆ กัน เป็นที่นา ก็ปล่อยให้เช่า”
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้มาแจ้งเรื่องการซื้อขายที่ดินทั้ง 9 แปลงหรือไม่
พ.อ.ประพัฒน์ ตอบว่า “เขาก็มาบอกว่ามีคนมาติดต่อขอซื้อ”
เมื่อถามว่า ทราบหรือไม่ว่า ที่ดินทั้ง 9 แปลง ถูกขายไปในราคา 600 ล้านบาท
พ.อ.ประพัฒน์ ตอบว่า “ผมไม่รู้อะไรหรอกไปถามเขาดีกว่า”
เมื่อต้นเรื่องออกอีหรอบนี้ ทางที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นให้ “เสธ.น้ำเงิน” คนเก่งช่วยไปสืบเสาะแสวงหา และ “จิ้น” กันให้รู้ดำรู้แดงว่า ทำไมถึงต้องเป็น “บริติช เวอร์จิน” ทำไมถึงต้องเป็น “เสี่ยเจริญ”
หนังสือซื้อขายที่ดินระหว่าง พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชากับ บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ใบสำคัญรับชำระค่าหุ้นระหว่างบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดกับ วินเทค โปรฟิท คอมปะนี ลิมิเต็ดฯ ซึ่งจดทะเบียนที่เกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์
รายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนถึงที่ตั้งของบริษัท วินเทคฯ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากสำนักข่าวอิศรา