ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -อย่าได้แปลกใจที่ “โผหลุด” สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยรวมจะสะท้อนภาพให้เห็น “ประวิตรคอนเนกชั่น”
ขณะที่ตัวแทนคนกลุ่มใหญ่ของประเทศคือ เกษตรกรและแรงงาน ไม่มีที่ทางใน สปช. คำถามคือ ใช่หรือไม่ ที่ประชาชนคนยากไร้กลุ่มนี้มักถูกลืมและไม่มีปากมีเสียง รอจนกว่าพวกเขารวมตัวกันประท้วงนั่นแหละถึงจะมีรายการโยนเศษกระดูกไปให้แทะ หรือตอนที่จะหาเสียงนั่นแหละถึงจะเห็นพวกเขาอยู่ในสายตา
ถ้าจะกล่าวเฉพาะ สปช.สายพลังงาน ก็เห็นชัดเสียยิ่งกว่าชัดว่างานนี้มีตัวแทนกลุ่มทุนพลังงานมากันพร้อมหน้าพร้อมตา และพวกเขาเหล่านั้นหาใช่ใครอื่น แต่เชื่อมโยงสายใยจาก “ประวิตรคอนเนกชั่น” และ “กปปส.คอนเนกชั่น” แน่นอนย่อมเชื่อมต่อกันถึงนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ด ปตท. อย่างไม่ต้องสงสัย
จะมีเพียงแต่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว.เท่านั้นที่หลงเข้าไปเป็นไม้ประดับ ในลำดับที่ 14 ท้ายสุด
สำหรับรายชื่อสมาชิก สปช. ด้านพลังงาน 14 คน ที่มีคนปล่อย “โผหลุด” ออกมา มีใครบ้าง เชิญทัศนา 1. นายทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ 2. นายคุรุจิต นาครทรรพ 3. นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ 4. นายเจน นำชัยศิริ 5. นายมนูญ ศิริวรรณ 6. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ 7. นายดุสิต เครืองาม 8. นายวิบูลย์ คูหิรัญ 9. นายพรายพล คุ้มทรัพย์ 10. นายอลงกรณ์ พลบุตร 11. นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล 12. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช 13. พล.อ.ประสูติ รัศมีแพทย์ และ 14. น.ส.รสนา โตสิตระกูล
รายชื่อข้างต้นแยกสัดส่วน ได้ดังนี้ ตัวแทนกลุ่มทุนพลังงาน-อุตสาหกรรม 7 คน (นายทองฉัตร หงส์ลดารมภ์, นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ, นายเจน นำชัยศิริ, นายมนูญ ศิริวรรณ, นายศิริ จิระพงษ์พันธ์, นายดุสิต เครืองาม, นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล) ทหาร 2 คน (พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช - อดีตกรรมการ ปตท., สมาชิกกลุ่มปฎิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน ที่มีนายปิยสวัสดิ์ เป็นแกนนำ , พล.อ.ประสูติ รัศมีแพทย์) ข้าราชการ 1 คน (นายคุรุจิต นาครทรรพ - กรรมการไทยออยล์, สมาชิกกลุ่มปฏิรูปพลังงานฯ ) นักการเมือง 1 คน (นายอลงกรณ์ พลบุตร) อดีตผู้ว่ากฟภ. 1 คน (นายวิบูลย์ คูหิรัญ) นักวิชาการ 1 คน (นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตกรรมการปตท., กรรมการไทยออยล์, สมาชิกกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน) และตัวแทนภาคประชาชน 1 คน (น.ส.รสนา โตสิตระกูล)
เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่า ทิศทางการปฏิรูปพลังงานจะเป็นอย่างไร เพราะเต็มไปด้วยตัวแทนกลุ่มทุนพลังงานและร่างทรง พอๆ กับที่เห็นรายชื่อคณะกรรมการสรรหา สปช. ก็พอรู้ล่วงหน้าว่า หน้าตาของ สปช. สายพลังงาน จะออกมาแบบไหน
ใครที่คาดหวังหรือฝันกลางวันว่า เมื่อคณะรักษาความสงบเรียบร้อย (คสช.) ยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศเบ็ดเสร็จ จะนำพาให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีสุขโดยกุญแจสำคัญคือการปฏิรูปพลังงานเพื่อประชาชนก็ควรถึงเวลาตื่นได้แล้ว เมื่อหน้าตา สปช.ด้านพลังงานออกมาเช่นนี้ การปฏิรูปพลังงานจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเพื่อกลุ่มทุนเป็นแน่แท้
หากสนใจใคร่รู้ว่า สปช.สายพลังงานเสียงข้างมาก ต้องการให้ปฏิรูปพลังงานแบบไหน ตอบล่วงหน้าได้ว่า อันดับแรกสุด แน่นอนต้องปรับขึ้นราคาพลังงานทุกชนิดให้เป็นไปตามกลไกตลาดโลก อย่างที่ได้เห็นเมื่อวันสองวันก่อนว่าราคาก๊าซฯเริ่มขยับขึ้นเพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงหลังจากอั้นมานาน เหตุผลคือเพราะทุกวันนี้ใช้กันอย่างไม่ประหยัดและนำเชื้อเพลิงไปใช้กันผิดประเภท
อันดับสอง เร่งรัดสัมปทานปิโตรเลียมทั้งต่ออายุและเปิดสัมปทานรอบใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ความจริงไม่น่าจะเรียกว่าปฏิรูปเพราะไม่ได้มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงน่าจะเป็นการปฏิรวบสัมปทานไว้ในมือกลุ่มทุนต่างชาติและปตท.เหมือนเดิม น่าจะถูกต้องเหมาะสมมากกว่า เว้นเสียแต่จะเลิกสัมปทานแล้วใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตหรือรับจ้างผลิตนั่นแหละถึงจะเป็นการปฏิรูปใหม่
อันดับสาม แน่นอนกระบวนการแยกท่อก๊าซฯ ที่ชะลอไว้ต้องรีบดำเนินต่อไปเพื่อว่าผู้ประกอบการรายอื่นก็จะได้เข้ามาใช้บริการได้ การแยกท่อก๊าซฯออกจาก บมจ.ปตท.ถือเป็นการปฏิรูปพลังงานที่ยิ่งใหญ่ในสายตาของนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ดปตท.
แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่าบริษัทท่อก๊าซฯ นี้ปตท.ถือหุ้น 100% การจะให้ใครใช้ไม่ใช่เป็นสิทธิ์ของปตท.ไม่ใช่สิทธิ์ของรัฐ เพราะรัฐไม่ได้ถือหุ้น ทั้งที่ท่อก๊าซฯเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีที่ปตท.ลงทุนเองหลังแปรรูปเพียงบางส่วนเท่านั้น ถ้าเรื่องนี้ทำสำเร็จถือเป็นการปฏิรูปพลังงานเพื่อปตท.ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยทีเดียว
อันดับสี่ เรื่องนี้ต้องทำเพราะเดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าไม่มีวิสัยทัศน์ นั่นคือ การส่งเสริมพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน พลังงานยั่งยืน แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า ทุกอย่างจะอยู่ในแผนแต่หาได้ลงมือผลักดัน ขจัดอุปสรรคปัญหา และทำให้เป็นรูปธรรมให้สำเร็จตามแผนไม่ ถ้าไม่เชื่อกลับไปดูผลงานในเรื่องนี้กันได้แล้วจะรู้ว่าแม้แต่เต่ายังคลานไปได้เร็วกว่า
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่มีปัญหาแล้วภาคประชาชนเรียกร้องให้แก้ไข เช่น เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ข้าราชการระดับสูง ผู้กุมนโยบายพลังงานของชาติ ไปนั่งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจด้านพลังและบริษัทลูกหลานในเครือยุ่บยั่บยั๊วะเยี้ยไปหมด แล้วเอื้ออำนวยประโยชน์ให้ธุรกิจพลังงานเพื่อตัวเองจะได้โบนัส เบี้ยประชุม เลี้ยงดูปูเสื่อกันอู้ฟู่นั้น ขอให้ลืมไปได้เลย ไม่มีวันเกิดขึ้นเป็นอันขาด จะมีใครอยากทุบหม้อข้าวของตัวเอง
ถามว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วจะมี สปช.สายพลังงาน มาทำอะไร ตอบให้ได้ทันทีว่าเอามาเป็นตรายาง สร้างความชอบธรรม สร้างความขลัง จะได้ไม่มีใครมาเที่ยว "เห่าหอน" กล่าวหาข้างถนนอีกต่อไป
แต่โปรดระวัง สปช.ไม้ประดับ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ฤทธิ์เดชของเธอคนนี้ไม่ธรรมดา ซื้อก็ไม่ได้ รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมเพราะสู้มามากทั้งนักการเมืองและกลุ่มทุน ไม่มีถอยหรือทดท้อ แน่นอนเธอเป็นคนมีต้นทุนสูง สมัยเลือกตั้งส.ว.เมื่อปี 2551 ได้คะแนน 743,397 คะแนน สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มีผลงานที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไม่น้อย หลักๆ ก็เช่น ฟ้องนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรมว.กระทรวงสาธารณสุข จนเข้าคุก, ฟ้องหยุดยั้งการแปรรูป กฟผ., ฟ้องบีบคอปตท.ให้คายสาธารณสมบัติของชาติ ฯลฯ
ที่สำคัญ เธอคนนี้ชอบ “เห่าหอน” ไม่หยุดหย่อนเสียด้วย ทั้งข้างถนน ข้างเวที ทั้งในและนอกสภา เรียกว่าทุกๆ ที่ที่จะทำให้ผู้มีอำนาจได้ยินและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเธอทำทั้งนั้น
ล่าสุด เธอออกมาส่งสัญญาณอันตรายว่าโรดแมปผูกขาดทรัพยากรปิโตรเลียมกำลังเบ็ดเสร็จ โดยทุกอย่างเชื่อมโยงกับเรื่องที่ปตท.แยกท่อก๊าซฯ และเร่งเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ การสร้างเรื่องดิสเครดิตภาคประชาชนด้วยการชวนทะเลาะ ทำให้เกิดความแตกแยกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น อาจเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากเรื่องที่กลุ่มทุนกำลังจะเขมือบผลประโยชน์ใหญ่ของประชาชน (รายละเอียดติดตามได้จากเฟสบุ๊ค รสนา โตสิตระกูล ในหัวข้อ “โรดแมปการปฏิรูปพลังงานของกลุ่มทุนคือการถ่ายโอนโครงข่ายท่อส่งก๊าซและทรัพยากรปิโตรเลียมให้เป็นของเอกชน 100%” โพสต์เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2557)
เมื่อเธอเตือนสติให้รู้ทันแล้ว ก็ขอให้ภาคประชาชนทั้งหลายโปรดระวังอย่าตกหลุมพรางมามัวเสียเวลาฟัดกันเอง ที่ต้องใส่ใจจับตาอย่ากระพริบก็คือการปฏิรูปปฏิรวบพลังงานของนอมินีกลุ่มทุนในคราบสปช.นี่สำคัญกว่าเป็นไหนๆ