xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

กลับไปใช้ พ.ร.บ.บำเหน็จฯ ปี 2549 สิทธิในบำเหน็จบำนาญข้าราชการไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-วันก่อน คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. ...พร้อมทั้งเห็นชอบข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หลังดำเนินการตรวจพิจารณาแล้ว เพื่อให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตดังกล่าวกลับไปพิจารณา

ซึ่งสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ กำหนดให้ข้าราชการซึ่งเป็นสมาชิก กบข. และผู้รับบำนาญและทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัด ซึ่งเคยเป็นสมาชิก กบข. ที่รับราชการอยู่ในวันก่อนที่บทบัญญัติ หมวด 3 สมาชิก และสิทธิประโยชน์ของสมาชิกแห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ใช้บังคับ สามารถกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ข้อสังเกตว่า การกำหนดระยะเวลาดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ในร่างพระราชบัญญัตินี้ซึ่งกำหนดไว้เป็นวันที่ตามปฏิทินนั้น อาจเกิดข้อขัดข้องได้ เนื่องจากเป็นร่างพระราชบัญญัติที่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐสภาเพื่อพิจารณาเห็นชอบเสียก่อน และยังต้องดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องก่อนตราเป็นพระราชบัญญัติขึ้นใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลาการพิจารณาร่างกฎหมายที่กระทรวงการคลังได้คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อเนื้อหาบางส่วนของร่างพระราชบัญญัติและเกิดปัญหาในการบังคับใช้ต่อไปได้

ที่ผ่านมาคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ได้พิจารณาในเรื่องของการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินสะสมและผลประโยชน์ของเงินสะสม รวมทั้งเงินบำนาญส่วนเพิ่ม เพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดภาระให้แก่ข้าราชการและผู้รับบำนาญ ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยสมัครใจ ในการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามระบบเดิมนั้น ไม่สมควรนำเรื่องดังกล่าวมากำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้

อย่างไรก็ตามคณะรัฐมนตรี เห็นสมควร โดยดำเนินการตามประมวลรัษฎากรในการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวต่อไป

ย้อนหลังไปต้นปี 2556 ครม.ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเข้าบัญชีเงินสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับภาระการจ่ายบำเหน็จบำนาญ และเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือและลดภาระให้แก่ข้าราชการและผู้รับบำนาญ จึงเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินสะสมและผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว รวมทั้งเงินบำนาญส่วนเพิ่ม จากการดำเนินการตามแนวทางที่ให้ข้าราชการและผู้รับบำนาญซึ่งเป็นสมาชิก กบข.โดยสมัครใจสามารถเลือกกลับไปรับบำนาญตามระบบเดิม

โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสมาชิก กบข. ในเรื่องบำนาญ ให้ ข้าราชการ (สมาชิก กบข. ซึ่งเข้ารับราชการก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540 และสมัครเป็นสมาชิก กบข.)

สมาชิก กบข.ซึ่งประสงค์จะกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 ให้แสดงความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 และให้ถือว่าสมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นสิ้นสุดลง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557

ผู้ซึ่งจะต้องออกจากราชการไม่ว่ากรณีใดๆ ยกเว้นกรณีถึงแก่ความตาย ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ให้สมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นสิ้นสุดลงเมื่อวันออกจากราชการ

การแสดงความประสงค์ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 หรือวันออกจากราชการ และให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 ทั้งนี้ การแสดงความประสงค์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด

ทั้งนี้ ข้าราชการข้าต้น ไม่มีสิทธิได้รับเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว โดยให้ กบข.ส่งเงินดังกล่าวเข้าบัญชีเงินสำรอง สำหรับเงินสะสมและผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว กบข.จะจ่ายคืนให้แก่ข้าราชการผู้นั้น

การส่งเงินเข้าบัญชีเงินสำรองและการจ่ายคืนเงินสะสมและผลประโยชน์ให้เป็นไปตามที่ กบข. กำหนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะกำหนดให้ กบข. นำเงินประเดิม เงินสมทบ เงินชดเชย และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวที่ได้รับคืนจากสมาชิกส่งเข้าบัญชีเงินสำรอง ทั้งนี้ กบข. จะต้องจัดทำรายงานการนำเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวส่งเข้าบัญชีเงินสำรองต่อกรมบัญชีกลาง ตามวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดข้อมูลที่ กบข. จะต้องรายงานให้กรมบัญชีกลางทราบ

หากข้าราชการซึ่งได้แสดงความประสงค์ไว้แล้วถึงแก่ความตายก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2557 หรือก่อนวันออกจากราชการ ให้ถือว่าการแสดงความประสงค์นั้นไม่มีผลใช้บังคับ

ผู้รับบำนาญ (สมาชิก กบข. ซึ่งเข้ารับราชการก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540 และสมัครเป็นสมาชิก กบข. แต่ได้ออกจากราชการแล้ว)

หากประสงค์จะขอกลับไปรับบำนาญตามสูตรเดิม (พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2492) ให้แสดงความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 และผู้รับบำนาญจะต้องคืนเงินก้อน (เงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว) ที่ได้รับไปแล้วแก่ทางราชการ โดยผู้รับบำนาญจะได้รับบำนาญตามสูตรเดิม ตั้งแต่วันที่ออกจากราชการจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 โดยวิธีหักกลบลบกัน

การหักกลบลบกัน หากมีกรณีที่ผู้รับบำนาญต้องคืนเงิน ให้ผู้รับบำนาญคืนเงินแก่ส่วนราชการผู้เบิกภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 เพื่อนำส่งให้กรมบัญชีกลาง โดยเงินที่ส่วนราชการได้รับคืน ไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หากมีกรณีที่ต้องคืนเงินให้ผู้รับบำนาญ กรมบัญชีกลางจะคืนเงินให้ผู้รับบำนาญ หากมีเงินเหลือจะนำส่งเข้าบัญชีเงินสำรอง

ผู้รับบำนาญที่ได้แสดงความประสงค์แล้ว เป็นผู้รับบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 ตั้งแต่วันที่ออกจากราชการ แต่หากผู้รับบำนาญมีกรณีที่ต้องคืนเงิน ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 จึงจะได้รับสิทธิดังกล่าว

หากผู้รับบำนาญซึ่งได้แสดงความประสงค์ไว้แล้วถึงแก่ความตายก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ให้ถือว่าการแสดงความประสงค์นั้นไม่มีผลใช้บังคับ และหากมีกรณีต้องคืนเงินให้ส่วนราชการผู้เบิกแจ้งกรมบัญชีกลางเพื่อถอนเงินที่ผู้รับบำนาญคืนให้แก่ส่วนราชการผู้เบิก เพื่อคืนให้แก่ผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบำนาญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด จะกำหนดเรื่องการดำเนินการถอนเงินคืนให้แก่ผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบำนาญที่ตายไปก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ

สรุปคือ วันที่จะได้รับเงินจาก กบข. คือวันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป



กำลังโหลดความคิดเห็น