xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เพิ่งหายโง่ ?!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-การผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับ"เหมาเข่ง" ของบรรดา"ขี้ข้า" มีเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการพาทักษิณกลับบ้านแบบเท่ แถมได้เงินที่ถูกยึดคืน กำลังถูกต่อต้านเป็นวงกว้าง ทั้งจากฝ่ายค้าน ภาคธุรกิจ ภาคประชาชน แม้แต่บรรดากลุ่มมวลชนและนักวิชาการสายเสื้อแดงบางส่วน

ในกลุ่มคนเสื้อแดงที่สูญเสียญาติพี่น้อง ระหว่างการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 53 นั้นเข้าใจได้ว่า ต้องรับความอกตรมขมขื่นเพียงไหน หากผู้ที่เขาเชื่อว่าเป็นผู้สั่งการ และผู้ปฏิบัติการ "ฆ่า" อย่าง อภิสิทธิ์ - สุเทพ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้รับอานิสงส์ไปพร้อมกับทักษิณ

ขณะที่กลุ่มนักวิชาการ"นิติราษฎร์" นั้น ไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯฉบับนี้ เพราะไม่ครอบคลุมไปถึงผู้ทำความผิดตาม มาตรา 112 หรือคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง จึงเห็นว่าไม่เหมาเข่ง ไม่สุดซอยจริง

"มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน" ที่เคยยืนข้างระบอบทักษิณ เชียร์นโยบายประชานิยมสุดลิ่ม โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ที่แม้จะเห็นตำตาว่า มีช่องโหว่ให้ทุจริตคอร์รัปชัน ขาดทุนบักโกรก จนประเทศชาติจะล่มจม ก็ยังเชียร์

แต่ล่าสุดจะด้วยความที่ยังพอมีจิตสำนึกเป็น "นักวิชาการ" หรือเริ่ม "ตาสว่าง" ก็ตาม คนกลุ่มนี้ได้ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายล้างผิดให้ทักษิณ เพราะเห็นว่าเป็นการบิดเบือนกฎหมายนิรโทษกรรม เป็นการตระบัดสัตย์ของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย

แถลงการณ์ที่ออกมา พอจะสรุปความได้ว่า

1. การออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ซึ่งทำให้บุคคลทุกฝ่ายพ้นไปจากความผิด จะเป็นการกระทำที่ทำให้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยถูกซุกเข้าไปอยู่ใต้พรมอีกครั้งหนึ่ง

2. แม้กฎหมายนิรโทษกรรมอยู่ในอำนาจทางการเมืองของฝ่ายนิติบัญญัติก็ตาม แต่การใช้อำนาจในทางการเมือง ก็ต้องตระหนักถึงผลกระทบที่จะติดตามมาจากการใช้อำนาจดังกล่าว ซึ่งกรณีการบิดเบือนกฎหมายนิรโทษกรรมโดยพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนว่า กำลังสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงการไม่เห็นด้วยในหมู่ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ บรรดาแกนนำ หรือนักการเมืองฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก็ต่างพร้อมเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีเพื่อให้ความจริงปรากฏ การออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งของพรรคเพื่อไทย จึงไม่อาจถูกมองไปเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากการมุ่งรับใช้"ทักษิณ" แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนใจว่าการกระทำเช่นนี้ จะสร้างผลเสียเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด

3. แม้ว่าฝ่ายเสื้อแดงจำนวนหนึ่งอาจไม่อยากแสดงความขัดแย้งต่อพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นว่าเป็นพันธมิตรกับฝ่ายตนเอง แต่ต้องพึงตระหนักว่า การจะสัมพันธ์กับพรรคการเมืองใดก็ตาม พรรคการเมืองนั้นก็จะต้องรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของบุคคลผู้ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคด้วย หากพรรคการเมืองใดตัดสินใจดำเนินนโยบายของตนไปโดยเห็นแก่ผู้มีอำนาจภายในพรรค และไม่เห็นหัวฐานเสียงของพรรค ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้การสนับสนุนพรรคดังกล่าวต่อไป

หากมวลชนคนเสื้อแดงไม่สามารถกดดันให้พรรคเพื่อไทย ยับยั้งการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ได้ ก็แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะทิ้งคนเสื้อแดงที่เป็นมวลชนของพรรคเช่นกัน แล้วคนเสื้อแดงจะยังฝากความหวังต่อการพัฒนาประชาธิปไตยกับพรรคการเมืองเช่นนี้ได้หรือ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะให้บทเรียนสั่งสอนพรรคเพื่อไทย ให้ตระหนักถึง "อำนาจ" ของประชาชน

จริงแท้แน่นอน...คนเราถ้าละ "อคติ" อันเกิดแต่อัตตา และความโลภได้ ก็จะหาย "โง่" !


กำลังโหลดความคิดเห็น