วัดใจนายกฯปู ทูลเกล้าฯสภาผัวเมีย

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องเรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ที่ผ่านวาระ 2 มาแล้วนั้น ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ ไว้พิจารณา แต่ไม่ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉิน

ทำให้วิปรัฐบาลยืนยันว่า จะเดินหน้า โหวต ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันเสาร์ที่ 28 กันยายนนี้ โดยไม่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย และมีความมั่นใจในเสียงของส.ส.และส.ว.ฝ่ายตนเองว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ จะผ่านวาระ 3 แน่นอน

เมื่อผ่านวาระ 3 แล้ว ขั้นตอนต่อไป นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา จะต้องส่งร่างดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งตามมาตรา 150 กำหนดเวลาให้นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ภายใน 20 วันนับจากวันที่ได้รับร่างจากประธานรัฐสภา ก่อนที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งคาดว่าภายในระยะเวลาดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญ จะยังพิจารณาไม่เสร็จแน่

เป็นการเล่นเกมช่วงชิงเวลา ระหว่างรัฐบาล กับฝ่ายตรงข้าม

อย่างไรก็ตาม ในการเดินเกมของฝ่ายค้านนั้น หากมีการโหวตวาระ 3 เสร็จสิ้นแล้ว ฝ่ายค้านก็จะยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. เพื่อถอดถอน ส.ส.และส.ว. ที่ลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว และจะยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีด้วย หากมีการนำร่าง ขึ้นทูลเกล้าฯ

นอกจากนี้ จะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตาม มาตรา154 เพื่อพิจารณาว่าเนื้อหา และกระบวนการพิจารณา ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา ตาม มาตรา 154 (1) เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ชะลอการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขึ้นทูลเกล้าฯไว้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ในรัฐธรรมนูญไม่ได้มีบทบัญญัติว่าด้วยการให้นายกรัฐมนตรี ระงับกระบวนการประกาศให้ร่างร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ไปก่อน ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ทั้งนี้เพราะ มาตรา 154 กำหนดว่า หากกฎหมายใดมีปัญหา ให้นายกรัฐมนตรีชะลอการทำให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ไปก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งกฎหมายที่ว่านั้น ต้องเป็นร่าง พระราชบัญญัติ ไม่ใช่ ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี ว่าจะเลือกดำเนินการอย่างไร เพราะมาตรา 150 เป็นการให้อำนาจแก่นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่นายกรัฐมนตรี ก็จะต้องรับผิดชอบต่อการใช้ดุลยพินิจของตัวเองหากมีปัญหาตามมาภายหลัง

จึงต้องรอวัดใจ"นายกฯปู" ว่าจะชะลอการนำขึ้นทูลเกล้าฯไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หรือจะรีบรวบรัด นำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามที่ได้รับมอบภารกิจให้ฟื้น "สภาผัวเมีย" โดยถือว่า ร่าง ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯนั้น เป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ ร่างพระราชบัญญัติ ไม่เข้าเกณฑ์ตาม มาตรา 154