ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-สถานการณ์การเมือง ที่คนกำลังหวังพึ่งเวทีรัฐสภาฯ เพื่อผลักดันข้อกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับคนทั้งชาติ แต่ คนบนบังลังก์ กับบิ๊กสภาฯ ก็ยังไม่วายมีศึกนอกศึกในให้วุ่นกันไปหมด และคนที่โยนขี้ให้ ก็ไม่ใช่คนอื่นไกลเลย
แต่กลับเป็นองค์รักษ์ที่สมควรมีหน้าที่พิทักษ์นาย อย่าง “บิ๊กสภาฯ” ที่สร้างเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน ไร้เรียงมาตั้งแต่กรณีเดินทางไปเยือนต่างประเทศของคนบนบัลลังก์ ซึ่งตามระเบียบจะต้องเซ็นรับรองเอกสารการเดินทางภายใน 15 วัน แต่กลับพบว่าไม่มีการเซ็นรับรองจึงทำให้ข้าราชการมีความผิด หรือจะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงอาคารสถานที่บริเวณรัฐสภา การใช้งบประมาณต้อนรับแขกต่างประเทศ ที่ปรากฏว่าจัดงานและอาหารรูปแบบเดียวกัน แต่ราคากลับแตกต่างกัน
รวมไปถึงนาฬิกาสุดอื้อฉาวจำนวน 200 เรือน มูลค่า 15 ล้านบาท ที่เฉลี่ยแล้วตกเรือนละ 7.5 หมื่นบาท แถมด้วยการติดตั้งเครื่องทำนำร้อน-เย็นจากประเทศเกาหลีใต้ ราคาเครื่องละ 70,000 บาท เครื่องปรับอากาศจำนวน 2 เครื่อง ที่ห้องเก็บขยะบริเวณด้านหลังอาคารสโมสรรัฐสภา
แต่เจ้านายกลับออกโรงปกป้องข้าราชการประจำกิตติมาศักดิ์ท่านนี้มาตลอด ด้วยคำกล่าวอ้างว่า “ท่านก็ชี้แจงไปแล้วนี่ครับ”ทำเอา“บิ๊กสภา”เดินเชิดหน้าชูคอ มีตำรวจรัฐสภาเดินตามเป็นพรวน เพื่อปกป้องเป็นองค์รักษ์เสมือนกลัวถูกลอบทำร้ายในบริเวณสภาฯ หรืออาจจะเป็นอย่างที่เขากล่าวกันไว้ว่า “คนที่คิดไม่ดีก็มักจะกลัวคนอื่นคิดไม่ดีกับตัวเองเช่นกัน”
บิ๊กสภาฯคนนี้มีเรื่องราวฉาวโฉ่มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว นารี หรือเรื่องโกงกินงบประมาณของประชาชนเข้ากระเป๋าตัวเองและพวกพ้อง อย่างล่าสุด “วิลาศ จันทร์พิทักษ์” ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาฯ ออกมาเปิดโปรงเรื่องราวอัปยศของลูกพี่ยันลูกน้อง
อย่าง คนใกล้ชิดที่นั่งบนบัลลังก์ก็ไม่เบา ตั้งคณะกรรมการและอนุกรรมการเอาเครือญาติ พี่น้อง คนรู้จักเข้ามาเซ็นชื่อประชุมรับเบี้ยประชุมหลักหลายหมื่นบาทต่อสัปดาห์ แถมยังแต่งตั้งบรรดาข้าราชการสภาฯปลดเกษียณ อย่างล่าสุดก็ตั้งคนเกี่ยวข้องกับนาฬิกาแพงมาเป็นผู้ชำนาญการด้านการเมือง ที่มักจะทำหน้าที่ชี้แจงแทน “บิ๊กสภา”มาตลอด
เรื่องฉาวๆเหล่านี้ กำลังจะมีการยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไป
แต่คนที่พฤติกรรมหนักสุดก็คงจะเป็น “บิ๊กสภา” ที่มีข่าวว่าข้าราชการสภาฯ เข้าพบกับผู้ที่มีอำนาจในการโยกย้ายกลางดึก เพื่อวิ่งเต้น โดย “บิ๊กสภา” จะเรียกรับเงินนายหน้าหลายแสนบาท เพื่อโยกย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการ แต่ก็อย่างว่า ใครจะกล้าออกมาพูดในเมื่อมันเป็นเรื่องของหน้าที่ การงานและอนาคต ค้ำคออยู่ เด้เงินไป ใช้เล่น ฟรีๆ แค่ออกแรงนิด ๆ หน่อย ๆ แบบที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง
ล่าสุด ส.ส.รังสิมา รอดรัศมี ตัวจี๊ดของพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เวลาช่วงหารือเปิดโปงความทุจริตทุกสำนักภายในรัฐสภา เมื่อสำนักรักษาความปลอดภัย หรือตำรวจรัฐสภา ขอเบิกงบประมาณกว่า 5 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงกองรักษาการณ์ก็พบสภาพ “สุขาเน่า” จนไม่รู้ว่าใครเอางบก้อนโตไปรับประทานเสียหมด จนไม่เหลือเผื่อแพร่มายังสุขาบ้างเลย
แต่พูดไปก็คงไร้ผล เพราะดูเหมือนว่าข้าราชการรัฐสภาภายใต้การนำของ “คนบนบัลลังก์”ดูจะเพลิดเพลินกับอำนาจบารมี เสมือนมีแบล็คชั้นดีควบคุมอยู่เบื้องหลัง โยนปัญหาไปมาเหมือนลูกบอล เตะไปทางนั้นที ทางนี้ที่ สุดท้ายไร้คำชี้แจง ไร้การมีส่วนร่วม ใครจะเชิญก็เชิญไป ข้าไม่สน ข้ามีนาย ขนาดมีผู้เสนอให้พักงาน “บิ๊กสภาฯ เพื่อทำความกระจ่างให้สังคม แต่ “คนบนบัลลังก์”ไม่เคยใส่ใจ อยากพูดๆไป ข้าไม่แคร์ จนทุกวันนี้อดคิดไม่ได้ว่า ลูกน้องช่วยเจ้านายโกง
