พบลูกคนงานเรือโยง วัย 3 ขวบกลายเป็นศพลอยกลางเจ้าพระยา ใกล้วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร ตร.สันนิษฐานเด็กน่าจะพลัดตกเรือและจมลงไปในน้ำ
วันนี้ (11 มิ.ย.) ร.ต.ท.อังคาร ศรีโยธะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าทีมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นเด็กหญิง มีผู้นำมาผูกไว้บริเวณท่าน้ำวัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ญ.พรนภา อมแก้ว อายุ 3 ขวบ ลักษณะนอนคว่ำหน้าลอยอยู่ในน้ำ สวมเสื้อยืดสีแดงไม่สวมใส่กางเกง จากการสอบถามในเบื้องต้นว่ามีผู้ขับเรือข้ามฟากเป็นผู้พบเห็นศพเด็กดังกล่าวนั้นลอยอยู่บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาและได้นำผ้าขาวม้าผูกและลากจูงมาไว้ที่ท่าน้ำของวัดเขมาฯ เพื่อตามหาญาติ และจากการตรวจสอบของทางแพทย์เวรแจ้งว่าไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้าย แต่จะต้องนำศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง
นายปัชญา อมแก้ว อายุ 28 ปี บิดาของผู้ตายกล่าวว่า ตนและนางแนน เขียวอ่อน อายุ 23 ปี มารดาผู้ตาย มีอาชีพเป็นคนงานประจำเรือบรรทุกดิน (เรือเหล็ก) ตนพร้อมภรรยาและคนงานทั้งหมดที่อยู่บนเรือ 5 คนออกมาจาก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และมาจอดเพื่อส่งดินที่ท่าน้ำวัดศาลารี เมื่อเวลา 07.00 น.ซึ่งห่างจากวัดเขมาฯ ไม่ไกลนัก ต่อมาช่วงเวลา 08.00 น.ตนได้ขึ้นฝั่งเพื่อไปทำธุระในย่าน อ.บางกรวย และปล่อยให้ภรรยากับบุตรสาวอยู่ที่เรือ ต่อมาเวลา 10.00 น.ตนได้กลับมาและเห็นว่าภรรยานั้นทำงานพร้อมคนงานอยู่ที่หัวเรือจึงสอบถามไปว่าบุตรสาวไปไหน แต่ได้คำตอบกลับมาว่านอนอยู่บริเวณที่พักซึ่งอยู่ท้ายเรือ ซึ่งตนเองนั้นได้มองหาแล้วไม่พบบุตรสาว จึงช่วยกันออกตามหาพร้อมกับสอบถามบุคคลที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่มีผู้ใดพบเห็น จนกระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น.มีชาวบ้านมาบอกว่ามีผู้พบศพซึ่งเป็นเด็กอยู่บริเวณท่าน้ำวัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร จากนั้นตนพร้อมภรรยาจึงรีบไปดูก็พบว่าเป็นบุตรสาวของตนที่หายตัวไป
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าขณะนี้ได้สันนิษฐานในเบื้องต้นไว้ว่าเด็กนั้นน่าจะพลัดตกเรือและจมลงไปในน้ำโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นและให้การช่วยเหลือ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ที่เป็นแม่พร้อมคนงานทั้งหมดได้ทำงานอยู่ที่บริเวณของหัวเรือซึ่งก่อนหน้าได้ปล่อยให้บุตรสาวนอนอยู่เพียงลำพัง คาดว่าเด็กนั้นตื่นมาไม่เจอใครจึงพยายามเดินออกมาเพื่อตามหาผู้ที่เป็นพ่อและแม่แต่เด็กนั้นเกิดพลัดตกลงไปเองจนทำให้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
วันนี้ (11 มิ.ย.) ร.ต.ท.อังคาร ศรีโยธะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าทีมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นเด็กหญิง มีผู้นำมาผูกไว้บริเวณท่าน้ำวัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ญ.พรนภา อมแก้ว อายุ 3 ขวบ ลักษณะนอนคว่ำหน้าลอยอยู่ในน้ำ สวมเสื้อยืดสีแดงไม่สวมใส่กางเกง จากการสอบถามในเบื้องต้นว่ามีผู้ขับเรือข้ามฟากเป็นผู้พบเห็นศพเด็กดังกล่าวนั้นลอยอยู่บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาและได้นำผ้าขาวม้าผูกและลากจูงมาไว้ที่ท่าน้ำของวัดเขมาฯ เพื่อตามหาญาติ และจากการตรวจสอบของทางแพทย์เวรแจ้งว่าไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้าย แต่จะต้องนำศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง
นายปัชญา อมแก้ว อายุ 28 ปี บิดาของผู้ตายกล่าวว่า ตนและนางแนน เขียวอ่อน อายุ 23 ปี มารดาผู้ตาย มีอาชีพเป็นคนงานประจำเรือบรรทุกดิน (เรือเหล็ก) ตนพร้อมภรรยาและคนงานทั้งหมดที่อยู่บนเรือ 5 คนออกมาจาก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และมาจอดเพื่อส่งดินที่ท่าน้ำวัดศาลารี เมื่อเวลา 07.00 น.ซึ่งห่างจากวัดเขมาฯ ไม่ไกลนัก ต่อมาช่วงเวลา 08.00 น.ตนได้ขึ้นฝั่งเพื่อไปทำธุระในย่าน อ.บางกรวย และปล่อยให้ภรรยากับบุตรสาวอยู่ที่เรือ ต่อมาเวลา 10.00 น.ตนได้กลับมาและเห็นว่าภรรยานั้นทำงานพร้อมคนงานอยู่ที่หัวเรือจึงสอบถามไปว่าบุตรสาวไปไหน แต่ได้คำตอบกลับมาว่านอนอยู่บริเวณที่พักซึ่งอยู่ท้ายเรือ ซึ่งตนเองนั้นได้มองหาแล้วไม่พบบุตรสาว จึงช่วยกันออกตามหาพร้อมกับสอบถามบุคคลที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่มีผู้ใดพบเห็น จนกระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น.มีชาวบ้านมาบอกว่ามีผู้พบศพซึ่งเป็นเด็กอยู่บริเวณท่าน้ำวัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร จากนั้นตนพร้อมภรรยาจึงรีบไปดูก็พบว่าเป็นบุตรสาวของตนที่หายตัวไป
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าขณะนี้ได้สันนิษฐานในเบื้องต้นไว้ว่าเด็กนั้นน่าจะพลัดตกเรือและจมลงไปในน้ำโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นและให้การช่วยเหลือ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ที่เป็นแม่พร้อมคนงานทั้งหมดได้ทำงานอยู่ที่บริเวณของหัวเรือซึ่งก่อนหน้าได้ปล่อยให้บุตรสาวนอนอยู่เพียงลำพัง คาดว่าเด็กนั้นตื่นมาไม่เจอใครจึงพยายามเดินออกมาเพื่อตามหาผู้ที่เป็นพ่อและแม่แต่เด็กนั้นเกิดพลัดตกลงไปเองจนทำให้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป