xs
xsm
sm
md
lg

“ปวีณา” บุกสงขลาตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัยเป็นที่กักขังแรงงานขายเรือประมง (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บุกลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เข้าตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัยหลังได้รับแจ้งว่า เป็นที่กักขังแรงงานทั้งชาวไทย และชาวต่างด้าวเพื่อรอส่งขายให้แก่เรือประมง



วันนี้ (28 ก.ค.) นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) และประธานมูลนิธิ ปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางมายังสะพานปลาประมงใหม่ อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัยว่าอาจจะใช้เป็นที่กักขังแรงงานทั้งชาวไทย และชาวต่างด้าวเพื่อรอส่งขายให้แก่เรือประมง หลังจากก่อนหน้านี้ มูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย 4 ราย

รายแรก นายเบิด (นามสมมติ) อายุ 39 ปี แจ้งว่า ถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกให้ไปทำงานบนเรือประมงโดยไม่ได้รับค่าแรง และถูกบังคับให้ทำงานเยี่ยงทาสร่วม 20 ปี จนสภาพร่างกายเปลี่ยนไปมีรูปร่างอ้วนผิดปกติจาก 70 กิโลกรัม กลายเป็น 380 กิโลกรัม ถูกบังคับให้ทำงานอยู่บนเรือประมงหลายปี ไม่เคยได้กลับเข้าฝั่งต้องทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เมื่อกลับเข้าฝั่งก็จะถูกกักขังไว้ไม่ให้กลับบ้านเพื่อรอส่งขายให้เรือประมงลำอื่นต่อไป สุดท้ายหนีออกมาได้จึงเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้เดินทางไปช่วยเหลือเพื่อนคนงานรายอื่นที่ยังถูกกักขังอยู่

รายที่ 2 นายบี (นามสมมติ) ถูกบังคับให้ทำงานบนเรือประมงอย่างหนัก ต้องทำงานไม่ได้นอน 5 วัน 5 คืน ภายหลังมูลนิธิปวีณาฯ ประสานงานกับตำรวจท้องที่ช่วยเหลือออกมาได้ นำตัวเข้ารักษาพยาบาล หมอแจ้งว่าอาจต้องถูกตัดขาทิ้ง เนื่องจากแผลที่เท้านั้นอักเสบ และติดเชื้อมาเป็นเวลานาน ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง โดยนายบี ได้มอบจดหมายของเพื่อนคนงานที่อยู่บนเรืออีก 2 ราย ที่อยากกลับบ้านให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ มูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลา 2 สัปดาห์จึงสามารถช่วยเหลือกลับมาได้อีก 2 ราย

นายเบิด ผู้เสียหายรายแรกกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตอนอายุประมาณ 20 ปี ขณะนั้นตนทำงานอยู่ที่ฟาร์มไก่แห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ต่อมา มีนายหน้ามาชักชวนให้ไปทำงานในเรือประมง ที่ จ.สงขลา โดยหลอกว่ารายได้ดี งานสบาย ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปทำงาน เมื่อถึงจุดนัดหมายจะมีเรือทัวร์ (เรือใช้ขนส่งปลา และสินค้าจากเรือใหญ่กลางทะเลเข้ามาขายยังฝั่ง) มาจอดรอรับ ไต้ก๋งเรือทัวร์จะสั่งให้นายท้ายเรือพาคนงานใหม่ทุกคน เข้าไปนั่งในรังไก่ คนงานบางคนสมัครใจบางคนถูกหลอกมา เป็นห้องที่มีลักษณะแคบมากมีไว้สำหรับนั่ง และนอนเท่านั้นไม่สามารถยืนได้ (ตนมาทราบภายหลังว่าสาเหตุที่ต้องให้เข้าไปอยู่รังไก่เพราะเกรงคนงานจะกระโดดน้ำหนีเนื่องจากระหว่างที่เรือประมงเล่นออกมาจากฝั่งเห็นการทำงานของคนงานบนเรือประมงลำอื่นว่ามันลำบาก และงานหนักเพียงใด แต่เมื่อเรือแล่นออกมาจนถึงกลางทะเล หากกระโดดน้ำหนีก็จะต้องตายกลางทะเล)

เมื่อไปถึงกลางทะเลจะมีเรือประมงขนาดใหญ่มาจอดเทียบเรือทัวร์ 5-10 ลำเพื่อซื้อตัวคนงานถูกขายให้แก่เรือประมงแล้วจะต้องเริ่มทำงานในทันที ด้วยการให้โกยน้ำแข็งจากเรือทัวร์ สู่เรือประมง ประมาณ 30 ตัน ใช้เวลาขนถ่าย 1-2 วัน หากขนถ่ายไม่เสร็จก็จะไม่ได้พัก และไม่ได้กินอะไรทั้งสิ้น บางลำใช้เวลาถึง 3 วัน คนงานได้กินเพียงน้ำเท่านั้น ระหว่างทำงานอยู่บนเรือจะถูกใช้ให้ทำงานทั้งวันทั้งคืน ในแต่ละวันลูกเรือประมงทุกคนจะได้พักเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น บางคนลงเรือมาได้เพียงวันเดียวก็กลับบ้าน เมื่อไปแจ้งกับไต้ก๋งเรือว่าต้องกลับบ้านจะถูกซ้อม ถูกทำร้ายร่างกาย บางคนทนไม่ไหวก็เสียชีวิต เมื่อเสียชีวิตก็จะถูกโยนลงน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน

ในระหว่างที่ตนทำงานอยู่บนเรือตนเห็นคนตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน บางคนถูกมอมยา แล้วจับมาลงเรือประมงพอฟื้นขึ้นมาก็จับใจความได้ว่า ก่อนหน้านี้ขายพวงมาลัยอยู่ที่สนามหลวง มีเพื่อนชักชวนให้ดื่มเหล้าพอเมาหมดสติจากนั้นก็มาฟื้นตัวอีกทีบนเรือประมงแล้ว ร้องไห้ฟูมฟายต้องการกลับบ้านไม่ยอมทำงาน จึงถูกไต้ก๋งเรือถีบตกเรือกลางทะเลเสียชีวิต บางรายต้องทำงานอยู่บนเรือถึง 10 ปี จึงได้กลับเข้าฝั่ง เมื่อได้กลับเข้าฝั่งลูกเรือจะมีเงินติดตัวก็จะถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลมาดักรอที่ท่าเรือบังคับพาตัวไปที่ร้านคาราโอเกะเพื่อให้ไปซื้อบริการทางเพศกับผู้หญิงที่ถูกบังคับให้มาขายบริการ บังคับให้กินนอนอยู่ที่ร้านจนเงินหมดตัว หากลูกเรือคนใดไม่ไปก็จะถูกทำร้ายร่างกายเอาปืนจี้บังคับให้ไป คนงานบางรายเมื่อขึ้นถึงฝั่งได้นำมีดมาฟันมือตัวเองจนขาดเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับเข้าไปทำงานบนเรืออีก สร้างความทุกข์ทรมานใจให้แก่คนงานบนเรือประมงเป็นอย่างมาก

นายเบิด กล่าวต่อว่า ตนทำงานอยู่บนเรือมากกว่า 20 ปี เห็นปัญหาทุกอย่าง และรู้สึกสงสารคนที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกให้มาทำงานบนเรือเป็นอย่างมาก ตนเห็นคนตายต่อหน้าต่อตามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน บางรายก่อนตายแต่งตัวใส่เสื้อผ้าเหมือนวันแรกที่ขึ้นมาบนเรือ เดินมาบอกลาตนบอกลาเพื่อนๆ คนงานที่อยู่บนเรือบอกว่าวันนี้ จะขอกลับบ้านแล้ว ไม่ไหวแล้ว คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงครอบครัว จากนั้นก็กระโดดลงไปกลางทะเลและจมหายไปต่อหน้าต่อตา บางรายทำงานให้แก่ไต้ก๋งมาเป็นเวลานาน แต่พอเจ็บป่วยกลับไม่ได้รับการรักษา ปล่อยให้นอนตายอย่างน่าเวทนา เมื่อบนเรือมีคนตายไปหลายคน ไต้ก๋งเรือก็จะติดต่อนายหน้าบนฝั่งเพื่อให้หาคนงานมาลงเรือ โดยนายหน้าจะเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า เมื่อได้คนงานมาจะนำไปขังไว้ชั้นบนเพื่อรอส่งลงเรือ และเข้าสู่วังวนของขบวนการค้ามนุษย์ในที่สุด

“ตนต้องไปติดคุกอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียเกือบ 2 ปี เนื่องจากไต้ก๋งเรือลักลอบเข้าไปจับปลาในน่านน้ำอินโดนีเซีย ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูต้อง และไม่ต้องการให้เพื่อนมนุษย์ต้องตกอยู่ในสถานะแบบตนอีก เมื่อตนหลบหนีออกมาได้จึงกลับไปที่บ้านเจอหน้าแม่ซึ่งเฝ้าตามหาตนมาตลอด 20 ปี ครั้งแรกแม่จำตนเองไม่ได้เพราะรูปร่างตนผิดปกติมาก แต่เมื่อทราบว่าเป็นตนแม่ได้เข้ามากอดและร้องไห้ ตนไม่อยากให้ใครต้องตกอยู่ในสภาพแบบตนอีก จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณาดังกล่าว”

ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ประสานไปยังโรงพยาบาล เพื่อพา นายเบิด ผู้เสียหายเข้ารักษาตัว เนื่องจากมีรูปร่างอ้วนผิดปกติ และมีบาดแผลที่ถูกน้ำทะเลกัดทั่วร่างกาย มีโรครุมเร้าหลายโรค พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. พ.ต.ท.ธงชัย บัวรังสี สวป.สน.มักะสัน พ.ต.ต.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ สว.กก.ดส. ชุดเฉพาะกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสถานที่ต่างๆ ตามที่ผู้เสียหายอ้างถึงพบว่าเป็นจริงตามที่แจ้ง

นางปวีณา จึงได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืช ผบก.ปคม.เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากนั้นถึงวันนี้ (28 ก.ค.) นางปวีณา พร้อมด้วย พ.ต.อ.นภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส พ.ต.ท.ธงชัย บังรังสี สวป.สน.มักกะสัน พ.ต.ต.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ สว.กก.ดส. ชุดเฉพาะกิจ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม เดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา เข้าตรวจสอบสถานที่ต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือแรงงานที่ยังถูกกักขังอยู่ตามสถานที่ต่างๆ

นางปวีณา กล่าวว่า ในปัจจุบันปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ว่าจะเป็นการบังคับค้าประเวณี การบังคับใช้แรงงานประมงกำลังเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดระดับประเทศไทยให้อยู่ระดับ 2 ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List ) เป็นเวลา 4 ปี ติดต่อกัน (ปี2553-2556) ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมและแสดงความยินดีกับตนที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พูดคุยถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ร่วมกัน

และในวันที่ 6 สิงหาคม 2556 ทูตพิเศษสหรัฐอเมริกา ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และเป็นที่ปรึกษาท่านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อหารือถึงปัญหาการค้ามนุษย์ โดยตนจะเสนอปัญหา และแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย กับ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็ว

หลังจากนั้น นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อเยี่ยมและมอบสิ่งของให้แก่เด็ก และผู้หญิงชาวโรฮิงญาที่พำนักอยู่ที่นี่ จำนวน 102 คน เป็นเด็กผู้ชาย 31 คน เด็กผู้หญิง 44 คน และเป็นผู้หญิง 27 คน เพื่อมารับฟังข้อมูล ปัญหาของชาวโรฮิงญาที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทยระหว่างถูกกักตัวอยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยได้เข้าเยี่ยมเด็กและสตรีที่ถูกคัดแยกมาดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา เพื่อดูสภาพชีวิตความเป็นอยู่ และการดูแลชาวโรฮิงญาของเจ้าหน้าที่ไทย พร้อมกับเข้ารับฟังปัญหาต่างๆ จากเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สงขลา เพื่อนำไปประสานความช่วยเหลือต่อไป




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น