ปัญหาค้ามนุษย์จังหวัดตรังไม่รุนแรงแต่ต้องดูแลใกล้ชิด

ตรัง - เผยปัญหาการค้ามนุษย์ของจังหวัดตรังไม่รุนแรง เพราะช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ยังพบแค่ 3 คดี ในรูปแบบการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการ และค้าประเวณี แต่ก็ต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

วันนี้ (25 ก.ค.) นายสาธร นราวิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 โดยมอบนโยบายให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาองค์กรอาชญากรรมปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป ตลอดจนพยายามขับเคลื่อนมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง แต่ประเทศไทยยังถูกจับตามองเป็นพิเศษถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จากประเทศต่างๆ และในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งหากประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการตามแผนปฏิบัติการที่วางไว้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และการส่งออกของประเทศ

ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ประกาศความมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และมอบนโยบายให้หน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ซึ่งยังอยู่ในวัยที่ด้อยประสบการณ์ รวมทั้งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะถูกชักจูงให้เข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ได้ง่าย ได้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐได้รวมพลังกันแสดงเจตนารมณ์ และความมุ่งมั่น ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ แม้ปัญหาการค้ามนุษย์ของจังหวัดตรังจะไม่รุนแรง แต่จากสถิติคดีการค้ามนุษย์จังหวัดตรัง พ.ศ.2555-2556 ปรากฏพบ จำนวน 3 คดี โดยมีรูปแบบการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการ และการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือหญิงสัญชาติลาว 7 คน และช่วยเหลือแรงงานชาวพม่า 14 คน แม้ว่าคดีค้ามนุษย์มีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับคดีอาญาประเภทอื่น แต่จากการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าวแสดงให้เห็นว่า จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดปลายทางสำหรับการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี และแรงงานบางส่วนอาจถูกแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน