ปคม.เร่งขยายตามรวบแก๊งต่างชาติ ลวงหญิงไทยไปทำงานนวดแผนไทยที่ทวีปแอฟริกา แต่กลับถูกบังคับค้าประเวณีวันละ 10 รอบ ขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 5 ราย
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.). พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม.แถลงข่าวจับกุม นายไมเคิล หรือ ตันฮงฮวด (TAN HONG HUAT) อายุ 56 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1122/2556 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2556 ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปกระทำการค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี แม้จะเกิดขึ้นภายในหรือนอกราชอาณาจักร จับกุมได้ที่บริเวณหมู่บ้านเทพนครทาวน์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหา ได้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ หลอกลวงผู้เสียหาย คือ น.ส.อุ๋ย (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ชาว จ.สงขลา เดินทางไปทำงานนวดแผนไทย ที่เมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ แต่กลับบังคับให้ค้าประเวณี ที่ร้านของสองสามีภรรยาชาวจีน ซึ่งเป็นเป็นร้านนวดแผนไทยบังหน้า ซึ่งต้องรับแขกทุกวันๆ ละ 5-10 ครั้ง ต่อมาผู้เสียหายหลบหนีเข้าแจ้งความดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายรีกัส (REGUS) ชาวแอฟริกาใต้ หัวหน้าขบวนการดังกล่าวไว้แล้ว นอกจากนี้ก็มีสองสามีภรรยาชาวจีน และคนไทย รวม 7-8 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป
สอบสวน นายไมเคิล ให้การปฏิเสธว่าตนเป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำกับเพื่อน เรื่องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศแอฟริกาใต้เท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงไปค้าประเวณีแต่อย่างใด
ต่อมา พล.ต.ต.ชวลิต พ.ต.อ.ยุทธภูมิ ปั้นลายนาค ผกก.2 บก.ปคม.แถลงผลการจับกุม นางประภัสสร ซิงห์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/72 ซอยนวมินทร์ 157 แยก 6 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1115/2556 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2556 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี จับกุมได้ที่หน้าร้านเสริมความงามเกรซ เลขที่ 328/28 ซอยบัวขาว 21 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา น.ส.หวาน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า ถูกนางประภัสสร กับพวก ชักชวนไปทำงานนวดแผนโบราณที่ประเทศบาห์เรน แต่กลับบังคับให้ค้าประเวณี ซึ่งบางวันต้องให้บริการลูกค้าแทบตลอดทั้งวันทั้งคืน เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ต่อมาผู้เสียหายได้ลอบโทรศัพท์มาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับญาติ ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย ต่อมาชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายและติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวน นางประภัสสร รับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวก หลอกลวงเหยื่อให้เดินทางไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน แต่ไม่ทราบว่ามีการบังคับให้ค้าประเวณี ที่ผ่านมา ก็เคยเดินทางไปทำงานนวดแผนโบราณที่ประเทศดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ตามแนวทางการสืบสวนพบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 5 ราย ซึ่งขณะนี้ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มเติมแล้ว