ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เรียกได้ว่าฉีกหน้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นริ้วๆ เมื่อมูลนิธิผู้บริโภคและมูลนิธิชีววิถี ร่วมแถลงผลการตรวจสอบข้าวถุง พบว่า มีสารตกค้างเกินมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (CODEX) ในข้าวถุงยี่ห้อ โค-โค่ ขณะที่อีกหลายยี่ห้อมีสารตกค้างอยู่ในปริมาณสูงแม้ว่าจะไม่เกินมาตรฐาน CODEX ก็ตาม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ คนในฟากรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพาณิชย์ สาธารณสุข หรือแม้แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่างก็ออกมาการันตีนั่งยันนอนยันว่า ไม่ต้องห่วงกังวล ข้าวถุงมีความปลอดภัยไม่มีปนเปื้อนสารพิษในช่วงที่มีข่าวการรมควันสารเคมีในโกดังเก็บข้าวจนหนู แมว ตายเกลื่อน
นี่ถ้าหากว่า มูลนิธิผู้บริโภค มูลนิธิชีววิถี และศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ไม่ออกมาตรวจสอบคุณภาพข้าวถุงเพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคชาวไทยและชาวโลกให้ได้รับความปลอดภัย ป่านฉะนี้ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เช่น องค์การอาหารและยา (อย.) คงไม่รีบออกมาแถลงยืนยันตามหลังมูลนิธิฯ ว่า พบข้าวถุงยี่ห้อโค-โค่ มีสารเคมีปนเปื้อนเกินมาตรฐานอยู่จริง จากท่าทีก่อนหน้านี้ อย.ได้ออกมาให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องครบถ้วนต่อประชาชนว่า ผลการตรวจข้าวถุงของอย.ไม่พบว่ามีปัญหาแม้แต่ยี่ห้อเดียว
แบบว่ารีบรับประกันปลอดภัยมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พอมีหลักฐานปรากฏจะจะจากการตรวจสอบของสองมูลนิธิฯ ข้างต้น ก็แก้เกี้ยวว่ายี่ห้อโค-โค่ ที่มีปัญหานี้ อย.นี้ยังตรวจไปไม่ถึง ตรวจยังไม่เสร็จ เอาสีข้างเข้าถู เข้ารกเข้าพงไปโน่น
ทบทวนข้อมูลผลการตรวจสอบข้าวถุงเพื่อประกอบการตัดสินเลือกซื้อสินค้าอีกครั้ง เรื่องนี้นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี ร่วมกันเปิดเผย ”ผลทดสอบข้าวสารถุงยี่ห้อไหนไม่มีสารเคมี” โดยตรวจสารเคมีในข้าวสารบรรจุถุงจำนวน 46 ตัวอย่าง จากยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต และคาร์บาเมต ยากันรา และสารรมควันข้าวเมทิลโบรไมด์ พบว่า ข้าวสารจำนวน 12 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 26.1 ไม่พบสารตกค้างทุกกลุ่ม ได้แก่ ลายกนก-ข้าวหอมมะลิ ข้าวพันดี-ข้าวขาว ธรรมคัลเจอร์-ข้าวหอม รุ้งทิพย์-ข้าวเสาไห้ บัวทิพย์-ข้าวหอม ตราฉัตร-ข้าวขาว ข้าวมหานคร-ข้าวขาว สุพรรณหงส์-ข้าวหอมสุรินทร์ เอโร่-ข้าวขาว ข้าวแสนดี-ข้าวหอมทิพย์ โฮมเฟรชมาร์ท-จัสมิน และชามทอง-ข้าวหอมมะลิ
ส่วนอีก 34 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 73.9 พบสารเมทิลโบรไมด์ ตั้งแต่ 0.9-67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ppm) โดยแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ดังนี้
1.ตกค้างน้อยมาก คือ น้อยกว่า 0.9 ppm มี 7 ตัวอย่าง ได้แก่ ช้างเผือก-ข้าวเสาไห้ cooking for fun-ข้าวหอมมะลิ ข้าวเบญจรงค์-ข้าวหอมมะลิ แฮปปี้บาท-ข้าวขาว เทสโก ตราคุ้มค่า-ข้าวหอม และ อคส.-ข้าวหอมมะลิ
2.ตกค้างน้อย ระหว่าง 0.9-5 ppm จำนวน 14 ตัวอย่าง ได้แก่ ข่าวอิ่มทิพย์-ข้าวขาว ชาวนาไทย-เสาไห้ ข้าวแสนดี-ข้าวขาว ท็อปส์-หอมมะลิ ตราเกษตร-ข้าวขาวหอม ฉัตรทอง-หอมมะลิ ติ๊กชีโร่-หอมมะลิ หงษ์ทอง-หอมมะลิ บิ๊กซี-หอมปทุม ตราฉัตร-หอมผสม โรงเรียน-หอมมะลิ ฉัตรอรุณ-หอมผสม ปทุมทอง-หอมมะลิ และไก่แจ้เขียว-หอมมะลิ
3.ตกค้างสูง คือ ระหว่าง 5-25 ppm จำนวน 7 ตัวอย่าง ได้แก่ พนมรุ้ง-ข้าวขาว ท็อปส์-หอมปทุม คุ้มค่า-เสาไห้ เอโณ่-ข้าวหอม มาบุญครอง-ข้าวขาว ดอกบัว-ข้าวหอมมะลิ และปิ่นเงิน-ข้าวหอม
4.ตกค้างสูงมาก คือระหว่าง 25-50 ppm จำนวน 5 ตัวอย่าง ได้แก่ ถูกใจ-ข้าวขาว สุรินทิพย์-หอมมะลิ ดอกบัว-ขาวตาแห้ง ตราดอกบัว-เสาไห้ และข้าวแสนดี-ข้าวหอม
และ 5.ตกค้างเกินมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (CODEX) ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 50 ppm จำนวน 1 ตัวอย่าง คือ ข้าวยี่ห้อ “โค-โค่-ข้าวขาวพิมพา” โดยตกค้างอยู่ที่ 67.4 ppm
นี่แค่ผลตรวจสอบสารเคมีจากยาฆ่าแมลงและสารรมควัน ส่วนการตรวจสารพิษจากเชื้อราและคุณภาพข้าวถุงนั้นยังไม่แล้วเสร็จ หมายความว่ายังมีก๊อกสองให้ผู้บริโภคคอยลุ้นระทึกต่อว่าจะมีข้าวถุงยี่ห้อไหนปลอดภัยบริโภคได้อย่างสบายใจ ไม่มีสารพิษที่เข้าไปสะสมในร่างกายทำให้เกิดโรคภัยเป็นของแถมที่ไม่มีใครอยากได้
ย้ำกันอีกครั้งว่า การส่งตรวจข้าวถุงในครั้งนี้ มูลนิธิฯ ได้ส่งตรวจใน ห้องปฏิบัติการที่น่าเชื่อถือทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยงบประมาณ 7 แสนบาท ไม่ได้มั่ว และไม่ได้ต้องการดิสเครดิตบริษัทค้าข้าวหรือโจมตีรัฐบาลแต่ต้องการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย
ที่สำคัญก็คือ ความห่วงใยต่อชื่อเสียงของข้าวไทยในตลาดโลก เนื่องจากว่าประเทศคู่ค้าบางประเทศ ได้กำหนดค่ามาตรฐานสารเคมีตกค้างแตกต่างกัน ดังเช่น เกณฑ์กำหนดระดับสารตกค้างเมทิลโบรไมด์นั้น ประเทศคู่ค้าข้าวสำคัญของไทยกำหนดค่ามาตรฐานต่ำกว่า 50 ppm คือ อินเดียที่กำหนดไว้ไม่เกิน 25 ppm และประเทศจีนที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5 ppm
“การแบ่งเกณฑ์จะสะท้อนข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบว่ามีข้าวยี่ห้อใด บริษัทใด มาจากโรงสีใด ที่อาจมีผลกระทบต่อการส่งออก เพราะมีสารตกค้างอยู่ในระดับที่เกินกว่าประเทศคู่ค้ากำหนด ซึ่งต้องรีบแก้ไขเพราะอาจทำให้ไทยสูญเสียตลาดค้าข้าวที่สำคัญ อย่างจีนเมื่อก่อนนำเข้าข้าวจากไทยประมาณ 5 แสนตันต่อปี ปัจจุบันเหลือเพียง 1 แสนตันต่อปีเท่านั้น โดยหันไปนำเข้าข้าวจากประเทศอื่นมากขึ้น” ผอ.มูลนิธิชีววิถี แสดงความกังวล
สำหรับข้าวขาวพิมพายี่ห้อโค-โค่ เป็นข้าวถุงที่ผลิตโดยโรงงานบรรจุข้าวถุง บริษัท สยามเกรนส์ จำกัด โดยบริษัท เสถียรรุ่งเรืองมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้ว่าจ้างผลิตและจัดจำหน่าย ซึ่งยังมีข้าวอื่นๆ ที่บริษัทดังกว่ารับบรรจุด้วยประมาณ 3 ยี่ห้อ ขณะนี้ อย.ได้เก็บตัวอย่างมาตรวจว่ามีปัญหาด้วยหรือไม่ โดยภายหลังการเปิดเผยข้อมูลผลตรวจสอบของมูลนิธิฯ ผู้บริหารบริษัทสยามเกรนส์ จำกัด ได้เรียกคืนข้าวถุงโค-โค่ ทั้งหมดจำนวน 3,000 ถุงจากตลาด และรับคืนสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อไปแล้ว พร้อมกับยอมรับความผิดพลาดในการรมควันที่รมหลังจากบรรจุถุงไปแล้วทำให้สารตกค้างมีอยู่ปริมาณสูง ซึ่งปกติต้องรมข้าวที่เป็นวัตถุดิบก่อนบรรจุเท่านั้น
ขณะที่ อย.ออกมายอมรับผลการตรวจสอบข้าวว่ามีสินค้าที่ปนเปื้อนสารเคมีเกินมาตรฐานจริง และเจ้าของข้าวถุงยี่ห้อดังกล่าวก็ออกมาขอโทษและยอมรับถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่สำหรับนพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.กระทรวงสาธารณสุข กลับห่วงหน้าตาของตนเองมากกว่าความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงออกอาการฉุนขาดที่มูลนิธิฯ เปิดเผยผลตรวจสอบเพราะเปรียบเสมือนการถูกตบหน้าอย่างจัง “ต่อจากนี้หากประชาชนหรือมูลนิธิฯ มีข้อสงสัยในแหล่งขายที่ใด ก็สามารถชี้เบาะแสได้ แต่ต้องให้เกียรติหน่วยงานราชการในการตรวจสอบและรับรองด้วย ….”
เช่นเดียวกันนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ดิ้นรนหนีเอาตัวรอดจากการถูกแฉข้อมูลลวงโลกที่นายกรัฐมนตรีหลอกผู้บริโภคชาวไทยว่าข้าวถุงไม่มีปัญหามาโดยตลอด โดยหลังจากมีข่าวผลการตรวจสอบข้าวของสองมูลนิธิฯ ออกมาสู่สาธารณะ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้มีการประสานงานกันระหว่างมูลนิธิฯ กับหน่วยงานของรัฐ ไม่อยากให้ต่างคนต่างทำเพราะประชาชนจะสับสน สร้างความวิตกกังวลต่อประชาชน
อันที่จริงแล้ว หากรัฐบาลดำเนินการเรื่องข้าวอย่างตรงไปตรงมา ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกกระบวนการตั้งแต่การจำนำข้าว การเก็บข้าว การระบายข้าว ซึ่งต่อเนื่องมาเป็นข้าวถุงขายให้ผู้บริโภคในที่สุด ก็ไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเป็นห่วง
แต่เป็นเพราะว่าในเรื่องข้าว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่หลงเหลือความน่าเชื่อถือจากสาธารณะแล้วนั่นเองถึงได้ร้อนรนกันอย่างที่เห็น พอมีเรื่องขึ้นมาจึงทำได้แค่กลบเกลื่อน ร้องขอความกรุณา ออดอ้อนขอความเห็นใจไปวันๆ