ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ตลาดเครื่องสำอางกลายเป็นอีกสมรภูมิหนึ่งที่ผู้ประกอบการแต่ละรายกำลังเร่งขยายโอกาส ด้วยการผลักดันผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มผู้บริโภคสตรีเท่านั้น หากแต่ยังขยายแนวไปสู่กลุ่มผู้ชายที่สนใจเรื่องความสวยงามและสุขอนามัยของผิวพรรณอีกด้วย
ล่าสุด เอวอน คอสเมติคส์ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจขายตรง ซึ่งฉลองครบรอบ 35 ปีของการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ประกาศขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายเป็นครั้งแรก ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เพอร์ซันนัล แคร์ และชุดชั้นในชาย เพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายเพื่อสร้างผลกำไรให้แก่ผู้จำหน่ายอิสระและนักธุรกิจเอวอน
ศุภราภรณ์ เอสซี เปา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอวอน คอสเมติคส์ ประเทศไทย จำกัด ระบุว่าแผนการโปรโมตจะใช้การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแค็ตตาล็อกเป็นหลัก และเสริมด้วยการใช้ เซเลบริตี้ โมเดลชายในกลุ่มสินค้าสำหรับผู้ชาย และเซเลบริตี้ โมเดลหญิงใหม่ถึง 2 คน และเมคอัพสไตลิสต์ชื่อดังสำหรับกลุ่มสินค้าเมคอัพ “เอวอนมุ่งการประชาสัมพันธ์ผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์ค เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นอีกช่องทางในการสร้างแบรนด์ผ่านทางผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับ แบรนด์เอวอน ตลอดจนการจัดโปรแกรมโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับนักธุรกิจและผู้จำหน่ายอิสระอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำธุรกิจ”
เครื่องสำอางถือเป็นตลาดใหญ่ ที่มีมูลค่านับหมื่นล้านบาทในประเทศไทย และกำลังเป็นตลาดที่มีอัตราเติบโตสูงทั้งในระดับตลาดท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับโลกด้วยเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะประเด็นว่าด้วยการขยายตัวของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ จากเดิมที่ตลาดเครื่องสำอางถูกจำกัดอยู่เฉพาะผู้บริโภคที่เป็นผู้หญิงวัยสาวขึ้นไป ปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางขยายเข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้ชาย และผู้บริโภคที่เป็นเด็กในวัยทีนเอจ ซึ่งต่ำลงจนถึงระดับอายุ 14-15 ปี
สำหรับเครื่องสำอางประเภท “ขายตรง” ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีผู้จำหน่ายในระบบขายตรงแต่ละรายเป็นทั้งช่องทางจัดจำหน่าย และเครื่องมือสำคัญสำหรับการสื่อสารการตลาด จำนวนผู้จำหน่ายเครื่องสำอางในระบบขายตรงของบรรดาค่ายใหญ่ๆ ทุกค่ายรวมกันคาดว่ามีจะมากถึงกว่า 600,000 ราย เครือข่ายการจัดจำหน่ายของเครื่องสำอางขายตรงจึงมีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มเครื่องสำอาง และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการสื่อสารการตลาดถึงผู้บริโภคอีกด้วย
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดเครื่องสำอางอย่างยูนิลีเวอร์ ต้องผันตัวเองเข้าสู่ตลาดขายตรงในช่วงที่ผ่านมาด้วย
ขณะเดียวกัน การรุกเข้าทำตลาดเครื่องสำอางผู้ชายของเอวอน เป็นประเด็นที่น่าสนใจติดตาม โดยเฉพาะจากข้อเท็จจริงที่ว่า เอวอนเพิ่งฉลองการก้าวขึ้นสู่ปีที่ 35ของการประกอบการ เอวอน คอสเมติคส์ ประเทศไทย และมีตลาดเพื่อนบ้านใน AEC ที่พร้อมจะรองรับการขยายตัวอย่างเต็มที่
“การถดถอยทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจขายตรง แต่กลับเป็นโอกาส เพราะผู้จำหน่ายอิสระจำนวนมากมองหาอาชีพที่จะสามารถสร้างรายได้และความมั่นคงให้กับชีวิตของพวกเขา และธุรกิจขายตรงก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ ที่สำคัญการเติบโตของธุรกิจขายตรงจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นในช่วงการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) เพราะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจขายตรงในการขยายเครือข่ายไปสู่ประเทศอาเซียนด้วย”
ศุภราภรณ์ เอสซี เปา เสริมว่า เอวอนวางแผนที่จะนำเสนอสินค้าใหม่สู่มือผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเมคอัพที่เน้นในเรื่องของนวัตกรรมเป็นหลัก ซึ่งจะเน้นไปที่สกินแคร์เพื่อการต่อต้านริ้วรอยในแบรนด์เอนิว ซึ่งถือเป็นแบรนด์สกินแคร์อันดับ 1 ของ เอวอน ส่วนเมคอัพจะมีการพลิกโฉมด้านสีสันให้ดูทันสมัยมากขึ้น และสามารถขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำหอมยังเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ด้วยสัดส่วนในธุรกิจกว่า 30% ตามมาด้วย สกินแคร์ 25% และเครื่องสำอางสีสัน 18% ซึ่งสำหรับสินค้าในกลุ่มผู้ชายซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน แต่มีผลตอบรับดีเกินคาดนั้น เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ยอดการสั่งซื้อเกินกว่า 200 %
สำหรับการขยายตลาดมาสู่กลุ่มผู้บริโภคผู้ชายในครั้งนี้ เอวอนวางแผนที่จะใช้ ปอ-ทฤษฎี เป็นนายแบบชายคนแรกในการส่งเสริมการจำหน่าย และเชื่อว่าน่าจะต้องมองหาพรีเซ็นเตอร์ชายอีกหลายรายเพื่อโปรโมตไลน์ผลิตภัณฑ์นี้
การที่ผู้ประกอบการหลายรายขยายผลิตภัณฑ์เข้าสู่กลุ่มลูกค้าผู้ชายมากขึ้นนี้ อยู่บนข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ชายได้ให้ความใส่ใจในเรื่องรูปลักษณ์มากขึ้น จากเดิมที่จะให้ความสนใจในสินค้าเฉพาะด้าน แต่ปัจจุบันสินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอางก็ได้ส่วนแบ่งให้กับผู้บริโภคกลุ่มนี้เช่นกัน แม้ตลาดเครื่องสำอางผู้ชายยังเล็กมาก ถ้าเทียบการตลาดเครื่องสำอางผู้หญิง แต่ถึงกระนั้นอัตราการเติบโตก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
การที่เอวอน คอสเมติคส์ ขยายไลน์สินค้าผู้ชายในไทยครั้งนี้ ถือเป็นย่างก้าวแรกของการขายสินค้าผู้ชาย ในแบรนด์ผู้หญิง หลังจากที่ค่ายเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของโลกได้ล่วงหน้าไปแล้ว โดยเฉพาะในกรณีของ L'Oreal Parisที่ผลิตสินค้าในกลุ่ม Men Expertแบรนด์ Clarins ในขณะเดียวกันลอรีอัลก็ตั้งเป้าจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง ของตลาดความงามในประเทศไทย ก็เตรียมเสริมทัพสู้โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดสินค้าผู้ชาย เช่นกัน
สงครามความงามของผู้ชายครั้งนี้จึงร้อนแรงไม่ใช่น้อย