บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ เตรียมลุยเปิดสาขาร้านในกลุ่มประเทศอาเซียน คาดเสร็จทันก่อนสิ้นปีอย่างน้อย 7 สาขา ฟุ้งยอดสั่งซื้อจากประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง และจีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 30%
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY กล่าวว่า ประเทศไทยมีความได้เปรียบในอุตสาหกรรมความงาม เนื่องจากมีห้องแล็บที่ทันสมัย มีมาตรฐานที่ยอมรับจากต่างประเทศเป็นอย่างดี และมีความได้เปรียบจากการเป็นศูนย์กลางที่ตั้งที่ล้อมรอบไปด้วยประเทศเพื่อนบ้านที่มีความต้องการของตลาดเครื่องสำอางอย่างต่อเนื่อง ยังถือเป็นฐานการผลิต และส่งออกที่สำคัญของภูมิภาค บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านโดยเน้นในกลุ่ม AEC เพิ่มมากขึ้นโดยเปิดสาขาแรกไปแล้วในกรุงพนมเปญ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศต่างๆ เพื่อเปิดสาขาร้านบิวตี้ บุฟเฟต์ และบิวตี้ คอทเทจ โดยอยู่ในระหว่างกำลังก่อสร้างคือ ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว และที่ฮานอย และโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ประเทศละ 2 สาขา โดยตั้งเป้าหมายขยายสาขาต่างประเทศให้ได้ 7 สาขาภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีการขายสินค้าล็อตใหญ่ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน อินโดนีเซีย ฮ่องกง และไต้หวัน เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนที่จะเปิดร้าน BEAUTY MARKET ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างน้อย จำนวน 3 แห่ง ภายในปีนี้ และเพิ่มเป็น 20 แห่ง ภายในปี 2557 ซึ่งได้เปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นจะเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองสำคัญในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ โดยรูปแบบของร้านจะมีขนาดตั้งแต่ 100 ตร.ม.ขึ้นไป มีแบรนด์สินค้าเกี่ยวกับความงาม ทั้งแบรนด์ต่างประเทศ(Inter Brands) เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ยุโรป ฯลฯ และแบรนด์ในประเทศ รวมเกือบ 300 แบรนด์ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็น Alternative Brands, Exclusive Brands และ Private Brands ของบริษัท ที่มีขายเฉพาะร้าน BEAUTY MARKET ขณะที่จำนวนสินค้าจะมีตั้งแต่ 4,000-9,000 SKU ขึ้นไป
“บริษัทเน้นที่จะขยายสาขาในประเทศให้มีศักยภาพก่อน เพราะยังมองโอกาสการเติบโตในประเทศยังโอกาสมีอีกมาก แต่เราก็ยังมองแนวทางขยายไปต่างประเทศด้วย บริษัทฯ จึงต้องมีการวางแผนที่ดีก่อนเราจึงไม่รีบในการที่จะไปขยายสาขาในต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้หยุดนิ่งในการเข้าไปศึกษาตลาดในต่างประเทศ ซึ่งจะมีการไปหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ โดยเตรียมที่จะออกโรดโชว์กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในงานแสดงสินค้าที่ฮ่องกง ประมาณเดือนกันยายนนี้”
สำหรับแนวโน้มตลาดเครื่องสำอางในประเทศช่วงครึ่งปีหลังยังสามารถเติบโตสวนกระแสตลาดค้าปลีกรวมที่เริ่มชะลอตัวในไตรมาส 2/56 ที่ผ่านมา โดยประเมินว่าในช่วงไตรมาสนี้จะเป็นช่วงที่มียอดขายต่ำสุดในรอบปี แต่ยอดขายรวม 8 เดือนของบริษัทก็ยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยบริษัทฯ เดินหน้าขยายสาขาร้านค้าเพิ่มให้เป็น 180 สาขาทั่วประเทศ และการกระตุ้นยอดขายในสาขาเดิม รวมถึงการพัฒนาระบบลูกค้าสัมพันธ์ การออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำรายได้ในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมาย 30% และกำไรสุทธิเติบโตมากกว่า 20% พร้อมทั้งเชื่อว่า จะสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตรา 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในปีนี้บริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าปีนี้ BEAUTY BUFFET จะมีสาขารวม 180 สาขา จากปัจจุบัน 163 สาขา BEAUTY COTTAGE จะมีสาขารวม 50 สาขา จากปัจจุบัน 43 สาขา BEAUTY MARKET 3 สาขา จากปัจจุบัน 1 สาขา พร้อมกับขยายช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MADE IN NATURE ไปสู่ห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเตรียมจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ “เกิร์ลลี่ เกิร์ล (Girly Girl)” ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มสกินแคร์ จำหน่ายผ่านร้านคอนวีเนียนสโตร์ เน้นการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น ราคาไม่แพง คาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายได้ในต้นไตรมาสที่ 4 นี้
ทั้งนี้ ผลประกอบการครึ่งแรกปี 56 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 480.22 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 361.94 ล้านบาท จำนวน 118.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.68 % และมีกำไรสุทธิ 109.38 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 85.72 ล้านบาท จำนวน 23.67 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 27.61%